ภาพยนตร์แนว Sci-Fi หลายเรื่องมีการพูดถึงหุ่นยนต์มานานหลายสิบปีแล้ว เช่น Star Wars, Star Trek หรือที่ใกล้ชิดกับมนุษย์มากๆ เช่น หุ่นสังหารใน Terminator หรือหุ่นในโลกอนาคตแบบ i,Robot ทำให้เกิดคำถามว่า เมื่อไรโลกจริงๆ ของเราจะมีหุ่นยนต์แบบนี้ออกมาอยู่ร่วมกับมนุษย์บ้าง
หลังจากมีการพัฒนาๆ กันมานาน วันนี้เราจึงมี Pepper (เปปเปอร์) หุ่นยนต์แบบ humanoid หรือหุ่นที่ถูกออกแบบมาให้มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ โดยบริษัท Aldebaran จากฝรั่งเศส และบริษัท Softbank Mobile ที่เปิดตัวตั้งแต่มิถุนายน 2014 และเริ่มผลิตเพื่อจำหน่ายตั้งแต่กลางปี 2015 ในราคาประมาณ 198,000 เยน (ประมาณ 60,000 บาท) ซึ่งมียอดขายหลายพันตัวที่ประเทศญี่ปุ่น
และตอนนี้ Pepper กำลังจะมาถึงประเทศไทยแล้ว ! ดังนั้น เราจึงควรมาทำความรู้จักกับ Pepper จะได้รู้ว่าหุ่นยนต์ตัวนี้ มีความพิเศษอย่างไร
ตามปกติที่ผ่านมาหุ่นยนต์ถูกสร้างขึ้นมาให้มีหน้าที่ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่ง (Functional) แต่สำหรับ Pepper เป็นหุ่นที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อ “สร้างความสุข” ให้กับคนรอบตัว “สร้างชีวิตชีวา” ให้กับคนรอบข้าง และทำหน้าที่ Connect ผู้คนเข้าหากัน และที่เจ๋งยิ่งกว่านั้น Pepper คือหุ่นยนต์ตัวแรกที่สามารถรับรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ และตอบสนองได้อย่างเหมาะสม
ด้วยการออกแบบและพัฒนาอย่างดี ทำให้ Pepper สามารถวิเคราะห์ ตีความและรับรู้อารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ที่เป็นคู่สนทนา โดยรู้ว่ากำลังอยู่ในอารมณ์สนุกสนาน, เศร้า, โกรธ หรือตื่นเต้นดีใจ (ซึ่งอีกหน่อยอาจพัฒนาการรับรู้ได้มากขึ้นอีก) อีกทั้งยังวิเคราะห์น้ำเสียงของผู้พูด สีหน้า ยิ้ม หรือหน้าบึ้ง ท่าทางการแสดงออก ทั้งหมดจะถูกนำไปประมวลผล ทำให้ Pepper สามารถเลือกวิธีตอบสนองกับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี จากนั้นจะแสดงออกผ่านทางสีของดวงตา หน้าจอแท็บเล็ตและน้ำเสียงของเขาเอง ให้เหมาะสมและเป็นธรรมชาติ
อะไรที่ทำให้ Pepper มีคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้
1) การฟังและการพูด Pepper ติดตั้งไมโครโฟน 4 ตัวที่ส่วนหัว จึงตรวจสอบได้ว่าเสียงมาจากทางไหน เมื่อรู้ตำแหน่งของผู้พูด Pepper จะหันหน้าไปหาผู้พูดโดยอัตโนมัติ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจรับฟัง
2) การมองเห็น ด้วยกล้อง 3D และกล้อง HD อีก 2 ตัวช่วยในการวิเคราะห์สีหน้าและการเคลื่อนไหวของคู่สนทนา ถ้าคุณกำลังมีความสุข เขาก็จะสนุกไปกับคุณ แต่ถ้าคุณกำลังเศร้าเสียใจ เขาก็พร้อมจะปลอบโยนเช่นกัน
3) การเชื่อมถึงกัน Pepper เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตโดยตรง ดังนั้นข้อมูลจึงทันสมัยตลอดเวลา สามารถนำเสนอข่าวล่าสุด พยากรณ์อากาศ หรือแม้แต่ช่วยในการค้นหาข้อมูลต่างๆ จากอินเทอร์เน็ต เรื่องของดารา, วิธีการปรุงอาหาร, ร้านขายของออนไลน์ ถ้ามีคำถามอะไร ถามเขาได้ทันที
4) ที่หน้าอกของ Pepper มีแท็บเล็ตขนาด 10.1 นิ้ว แบบทัชสกรีน ช่วยในการแสดงผลข้อมูล หรือแสดงตัวเลือกต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ หรือทำธุรกรรมต่างๆ (คือหน้าจอนั่นเอง) รวมถึงยังใช้แสดงอารมณ์ส่วนตัวของ Pepper ด้วย
5) เรียนรู้สิ่งใหม่ Pepper มีการพัฒนาระบบมาเป็นอย่างดี สามารถดาวน์โหลดซอต์แวร์เพื่อติดตั้งเพิ่มเติม เพื่อปรับเปลี่ยนให้เขามีลักษณะนิสัยที่สอดคล้องกับเจ้าของมากขึ้น และเขายังมีความสามารถในการเรียนรู้ รวมถึงการปรับปรุงทัศนคติแบบอัตโนมัติให้เข้ากับเจ้าของ สุดยอดไปเลย
จึงไม่น่าแปลกใจที่ Pepper จะชอบพูดคุยโต้ตอบกับคน เพื่อเรียนรู้รสนิยมและลักษณะนิสัยของคน และด้วยความสามารถของซอต์แวร์ Pepper ยังสามารถจดจำใบหน้า น้ำเสียง ของคนที่พูดด้วย ปรับเปลี่ยนภาษาให้มีความเป็น Local มากขึ้น
ถ้าเปรียบเทียบแล้ว Pepper คงคล้ายๆ กับหุ่น C3-PO ในภาพยนต์ Sci-FiStar Warsโดยมีหน้าที่หลักในการสื่อสารและสร้างความสุขให้กับคน ซึ่งที่ประเทศญี่ปุ่น Softbank Mobile Store กว่า 140 สาขา ใช้ Pepper เป็นพนักงานต้อนรับ คอยทักทายและให้ข้อมูลเบื้องต้นกับลูกค้าที่มาใช้บริการ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
นอกจาก Pepper แล้ว ยังมีหุ่นยนต์อีก 2 ตัวที่เป็นเสมือนพี่น้องของ Pepper พัฒนาโดยAldebaran คือ Nao หุ่น humanoid ตัวแรกขนาด 58 เซนติเมตร ที่เน้นการเคลื่อนไหวเลียนแบบมนุษย์ และ Romeo สูง 140 เซนติเมตร ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุที่เคลื่อนไหวลำบาก
ต่อไปนี้คือคำถามที่หลายคนอยากถาม Pepper
ทำไมต้องชื่อ Pepper
ชื่อ Pepper ให้ความรู้สึกว้าว สดชื่น เป็นชื่อที่สื่อความหมายได้ชัดเจน และออกเสียงได้ง่ายในทุกภาษา
Pepper เป็นชายหรือหญิง
จริงๆ แล้วผู้พัฒนาไม่ได้มีการกำหนดเพศให้กับ Pepper แต่ที่ Softbank ได้เลือกให้เป็น ผู้ชาย
Pepper มีหน้าที่อะไร
หน้าที่หลักคือการสร้างความสุขเพราะเขาเป็นหุ่นยนต์ที่มีอารมณ์ความรู้สึก เขาอาจจะล้างจานหรือซ่อมรถไม่ได้ แต่เขาสร้างบรรยากาศที่ดีให้เกิดขึ้น สร้างเสียงหัวเราะและความสนุกสนาน หรือพาผู้ใช้ออกไปท่องโลกกว้างผ่านอินเทอร์เน็ต
Pepper มีอารมณ์ความรู้สึกอย่างไร
โดยปกติ Pepper จะมีอารมณ์ในทางบวก เช่น ใจดี อารมณ์ขัน และในอนาคตจะสามารถดาวน์โหลดลักษณะนิสัยใหม่ๆ เพื่อทำให้เขามีลักษณะเฉพาะตามที่ผู้ใช้ต้องการ ดังนั้นใครที่สามารถพัฒนาแอพฯ สำหรับ Pepper ได้ เตรียมตัวให้พร้อมเลย
ทำไม Pepper ต้องมีแท็บเล็ต
การจะสื่อสารหรือโต้ตอบได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การเลือกใช้แท็บเล็ต ทำให้สามารถแสดงภาพ เนื้อหา หรือแม้แต่ความรู้สึกของ Pepper ออกมาได้ชัดเจนมากขึ้น หรืออีกนัยหนึ่งคือ เขายังแสดงออกทางสีหน้าไม่ได้นั่นเอง
Pepper พูดได้กี่ภาษา
ต้นปี 2016 Pepper พูดภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส, ญี่ปุ่น และ สเปน เรียกว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาก็ว่าได้ และในอนาคตจะมีภาษาใหม่ๆ ให้ดาวน์โหลดเพิ่มอีกด้วย
สุดท้ายถามว่า Pepper กำลังจะมาถึงประเทศไทยในเร็วๆ นี้ จะสร้างปรากฎการณ์อะไรบ้าง อดใจรออีกน่าจะมีโปรเจคสนุกๆ รออยู่แน่นอน
Pepper, the new robot by Aldebaran #PepperRobot
httpv://youtu.be/osD6O4LAcpo
Image Source: Aldebaran
Copyright © MarketingOops.com