ทุกวันนี้โลกเปิดรับรับกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBT: Lesbian, Gay, Bisexual, and Transgender) มากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งมีสมาร์ทโฟนและแอพพลิเคชั่นช่วยเพิ่มพื้นที่ทางสังคม ถือเป็นโอกาสในการทำตลาดได้ดียิ่งขึ้น โดยคาดว่าสามารถสร้างจีดีพีได้มากถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดเผยถึงผลสำรวจที่น่าสนใจว่า ภาวะตลาดธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBT) ซึ่งกระจายอยู่ทั่วโลกมากกว่า 400 ล้านคน คาดว่าจะสามารถสร้างจีดีพีได้มากถึง 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี เท่ากับจีดีพีของประเทศเยอรมัน
ประเด็นสำคัญคือ กลุ่ม LGBT ต้องการการยอมรับ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเอเชียที่ยังเป็นสังคมอนุรักษ์นิยม โดยเชื่อว่าการใช้สมาร์ทโฟน และแอพพลิเคชั่น เช่น Blued และ Zank ในจีน และประเทศใกล้เคียง ซึ่งมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะเป็นช่องทางเปิดให้ กลุ่ม LGBT เข้ามาใช้งานแทนการเปิดเผยตัวตน โดยปัจจุบัน Blued มีสมาชิกว่า 15 ล้านราย (2555-2558) ขณะที่ Zank มีสมาชิกกว่า 10 ล้านราย (2556-2558) นอกจากนี้ยังมีแอพสำหรับกลุ่ม LGBT จากยุโรป เช่น Grindr ซึ่งติดท็อป 10 ชาร์ตแอพยอดนิยม
ล่าสุด Blued ได้เห็นโอกาสทางการตลาดและเริ่มจับมือพันธมิตรกับสินค้ากลุ่ม LGBT ดังนั้น ใครที่ทำสินค้าสำหรับกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ หากสามารถร่วมมือกับแอพเหล่านี้ได้ จะมีโอกาสทางการตลาดอีกมาก
หากวิเคราะห์แล้ว กลุ่ม LGBT ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ไม่มีภาระในการเลี้ยงดูบุตรหลาน จึงมีเวลาเหลือเฟือและมีเงินในการจับจ่ายใช้สอยสูงกว่าผู้บริโภคในกลุ่มอื่น และจากการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนกลุ่มนี้พบว่า เป็นกลุ่มที่มีความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Royalty) ในระดับค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น จึงไม่น่าแปลกใจที่ปัจจุบันมีผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยที่หันมาให้ความสำคัญกับการทำตลาดกลุ่ม LGBT จนกลายเป็นแนวคิดใหม่ที่มีชื่อเรียกอย่างสวยหรูว่าเป็นการทำธุรกิจแบบ Pink Dollar
กลุ่ม LGBT ในไต้หวัน พบว่ามีอยู่ราว 2.3 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 10% ของประชากร ในเดือนตุลาคมของทุกปีจะมีกิจกรรม Taiwan LGBT Pride ที่เป็นการเดินขบวนของกลุ่มผู้สนับสนุน LGBTในไต้หวัน โดยมีประเทศในแถบเอเชียเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย สำหรับปีนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม นอกจากนี้ยังมีการจัดเทศกาลภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม LGBT โดยเฉพาะ ซึ่งในงานปีนี้จะมีภาพยนตร์ไทยแนว LGBT เรื่อง How to Win at Checkers (every time) ออกฉายในช่วงเทศกาลนี้ใน 3 เมืองใหญ่ คือ ไทเป ไถจง และเกาสง ของไต้หวันด้วย
ส่วนประเทศจีน ซึ่งมีประชากรมากถึง 1,300 ล้านคน และหากคำนวณโดยใช้สัดส่วนที่เป็นที่นิยมใช้ทั่วโลกในการหาจำนวนLGBT ของแต่ละประเทศที่อัตราส่วน5% ของจำนวนประชากรทั้งหมดแล้วคาดว่า กลุ่ม LGBT ในจีนจะมีมากถึง 65 ล้านคน (ว้าว!! เท่ากับจำนวนประชากรไทยทั้งประเทศ!) และจากการประมาณการของ LGBT Capital (บริษัทที่ปรึกษาด้านการเงินของฮ่องกงซึ่งให้บริการกลุ่ม LGBT เป็นหลัก) คาดว่ามูลค่าตลาดของกลุ่ม LGBT ใน จีนมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อปีเป็นรองเพียงสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป
อีกประเทศหนึ่งที่น่าสนใจ คือ ญี่ปุ่น ซึ่งมีประชากรประมาณ 126 ล้านคน จะมีกลุ่มที่เป็น LGBTประมาณ 6.3 ล้านคน และคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดในส่วนนี้ประมาณ 5.7 ล้านล้านเยน โดยการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น (JNTO) ได้ให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของญี่ปุ่นอย่างมาก โดยใส่รายชื่อโรงแรมในเขตโตเกียวและเกียวโตเป็น LGBTFriendly ซึ่งบริษัททัวร์ของญี่ปุ่นพบว่า นักท่องเที่ยวเป็นกลุ่มอาชีพที่มีรายได้สูง เช่น แพทย์ หรือ ทนายความ เป็นต้น มีการใช้เงินระหว่างท่องเที่ยวครั้งละประมาณ 5 แสน – 1 ล้านเยนต่อราย รวมถึงบางโรงแรมออกแคมเปญในการจัดงานแต่งงานให้กับกลุ่มLGBT จากต่างชาติ
กลุ่ม LGBT เป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพและมีกำลังซื้อสูงในสังคมโลกปัจจุบัน การเจาะตลาดกลุ่ม LGBT นี้ นับเป็นการรุกตลาดโดยเจาะกลุ่มSegments ใหม่ๆ ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกไทยจึงอาจใช้โอกาสทางการตลาดนี้ในการขยายช่องทางการส่งออกทั้งในรูปแบบการซื้อขายแบบเดิมและช่องทางการค้าออนไลน์ซึ่งเป็นที่นิยมของกลุ่มเป้าหมายนี้ เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างประเทศของไทย