“วอร์เรน บัฟเฟตต์” มหาเศรษฐีผู้มีภาพลักษณ์เป็นมิตร ใจบุญ นอกจากนี้ ก็ยังเป็นแบบอย่างที่ดีของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทั้งในแง่ธุรกิจและชีวิตจริง เขาเป็นต้นแบบที่ดีที่นักธุรกิจหลายคนฝัน อยากจะเป็นอย่างเขาบ้าง
แต่เป็นไปได้จริงหรือ ที่คุณจะก้าวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ มีรายได้มหาศาล โดยที่ไม่เคยทำร้ายใคร หรือไม่เคยกระทำการโหดเหี้ยมใดๆ เลยแม้แต่ครั้งเดียว
“วอร์เรน บัฟเฟตต์” เองก็เป็นเช่นนั้น ในบางครั้งก็จำเป็นจะต้องทำอะไรที่ไร้ความปราณี และไม่สนว่าใครจะเห็นด้วยหรือไม่ ลองมาฟังอีกเรื่องราวของเขากันบ้างว่า กว่าที่เขาจะก้าวมาถึงตรงนี้เขาเคยทำอะไรที่เลือดเย็นมาบ้าง
-
เขาไม่แคร์ แม้ว่าจะต้องมีการเลย์ ออฟ พนักงานออกไปเท่าไหร่ก็ตาม
จากกรณีการควบรวมกิจการระหว่าง Berkshire’s Heinz และ Kraft Foods ซึ่งสร้างมูลค่ามหาศาลถึง 1.5 พันล้านเหรียญ ซึ่งแน่นอนว่าโดยพื้นฐานแล้วจะต้องมีการตัดตำแหน่งที่ไม่จำเป็นออก เมื่อตำแหน่งหน้าที่บางอย่างซ้ำซ้อนกัน เท่ากับว่าจะต้องมีคนต้องสูญงานไปอย่างแน่นอน
แต่สิ่งที่ “บัฟเฟตต์” บอกกับสื่อในเรื่องนี้คือ “ผมไม่รู้ว่ามีบริษัทไหนบ้างที่มีนโยบาย ให้มีคนมากมายมาทำงานมากเกินความจำเป็น”
-
เขารักในอาหารจังก์ ฟู้ดส์มาก มากเสียจนไม่แคร์ว่าใครจะว่ายังไงก็ตาม
“บัฟเฟตต์” เป็นคนที่มีชื่อเสียหายในเรื่องสุขภาพการกินอย่างมาก ตามรายงานของรอเตอร์อ้างว่า เขาเคยพูดว่าเขาดื่มโค้กแคนถึง 5 กระป๋องทุกวัน ในวัย 84 ปีซึ่งไม่ควรเลย แต่เขาก็ไม่แคร์
กับเรื่องนี้เขาไม่เคยเป็นตัวอย่างที่ดีต่อสาธารณะเลย และไม่คิดที่จะปรับปรุงแก้ไขเลยด้วยซ้ำ แถมยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของโคคา-โคล่าด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังประชดประชันกทุกคนที่ตัดสินเขาด้วย
“อันที่จริงแล้ว 1 ใน 4 ของแคลอรี่ที่สั่งสมในตัวผมตั้งแต่เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ทั้งหมดล้วนเป็นโคคา-โคล่า” บัฟเฟต์ ให้สัมภาษณ์ผ่าน CNBC ระหว่างการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี ในโอมาฮา เนบราสกา
-
เขาไม่หวาดหวั่น ถ้าจะต้องคิดดอกเบี้ยสูงๆ กับผู้ที่มีรายได้ต่ำ
บริษัทBerkshire Hathaway เป็นเจ้าของเดียวกับ Clayton Homes บริษัทผู้ผลิตบ้าน ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว Seattle Times และ Center for Public Integrity ตีพิมพ์ข่าวเชิงสืบสวนสอบสวน กรณีที่ปล่อยให้ผู้กู้รายได้ต่ำเข้าสู่ระบบสินเชื่อ เพื่อซื้อบ้านในราคาดอกเบี้ยสูง แต่ปรากฏว่าบ้านนั้นราคาตกอย่างรวดเร็วและกลายเป็นบ้านที่ขายต่อได้ยาก
“ผมจะไม่ทำการขอโทษ ในสิ่งที่ Clayton ได้ดำเนินการ” บัฟเฟต์ กล่าว เขากล่าวระหว่างการประชุมนักลงทุน นอกจากนี้ ตามที่ Seattle Times อ้าง เขาเคยพูดกับบรรดาregulators ว่า ไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องนี้ และยังคงคิดอัตราดอกเบี้ยสูงต่อไป
เป็นอีกด้านมืดหนึ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบเกี่ยวกับ “วอร์เรน บัฟเฟตต์” ซึ่งอาจจะเข้ากับคำพูดที่ว่า ไม่มีใครดีร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าชายผู้นี้จะมีด้านมืดที่น่ากลัวแค่ไหนก็ตาม ถ้าเราได้ศึกษาและมองในส่วนดีของเขาและหยิบมันนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจและชีวิตก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี