วันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา กลุ่ม Daimler ได้ออกประกาศแจ้งนักลงทุนถึงการร่วมทุนข้ามโลกระหว่างกลุ่ม Daimler AG เจ้าของแบรนด์รถหรูสัญชาติเยอรมนีอย่าง Mercedes-Benz กับ Zhejiang Geely Holding บริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติจีน และเป็นเจ้าของแบรนด์รถหรูอย่าง Volvo ขณะที่ผู้ก่อตั้ง Geely ก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Daimler AG อีกด้วย โดยทั้งสองยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมรถยนต์โลกได้ตกลงที่จะพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า ภายใต้ชื่อ smart เพื่อลุยตลาดจีนและรุกตลาดโลก
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า Daimler AG และ Geely Holding ได้ร่วมลงทุนกันในสัดส่วน 50:50 เพื่อลุยพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า ภายใต้ชื่อ “smart” ซึ่งเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่รองรับการใช้งานของคนเมืองยุคดิจิทัล โดยเป็นแบรนด์ในกลุ่ม Daimler ที่มีอยู่แล้ว
ทั้งนี้ จากความร่วมมือดังกล่าวจะทำให้ในอนาคต ประเทศจีนจะกลายเป็นฐานการผลิต smart มีหน้าที่ผลิตเพื่อขายในประเทศจีนและส่งออกไปขายยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยมีการวางแผนว่า smart รุ่นใหม่ จะเป็นถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยการดูแลด้านดีไซน์และสไตล์ของรถจะมาจากทีมงานฝั่ง Mercedes-Benz ส่วนงานด้านวิศวกรรมเครื่องยนต์เป็นหน้าที่ของ Geely โดยรถ smart โฉมใหม่นี้ถูกกำหนด “จุดยืนทางการตลาด (Market Positioning)” เป็นรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมี่ยม ซึ่งคาดว่าจะเริ่มออกขายในปี 2022
ปัจจุบัน smart มีลูกค้าอยู่ประมาณ 2.2 ล้านคน โดยโรงงานผลิต smart อยู่ที่เมือง Hambach ประเทศเยอรมนี ซึ่งในอนาคตหลังจากที่ smart ย้ายไปตั้งฐานการผลิตที่ประเทศจีน โรงงานแห่งนี้ก็จะทำหน้าที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบ Compact EV ภายใต้แบรนด์ EQ ซึ่งเป็นแบรนด์ย่อยของ Mercedes-Benz ที่ทำหน้าที่ผลิตเกี่ยวกับระบบอัจฉริยะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของกลุ่มโดยเฉพาะ
อย่างไรก็ดี การร่วมทุนดังกล่าวยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งจะมีการสรุปอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้
นอกจากนี้ ทั้งสองบริษัทยังมีที่จะแผนร่วมทุนสร้างแพลตฟอร์มบริการเรียกรถระดับพรีเมี่ยม (Premium Ride Hailing Service) ในประเทศจีน โดยอยู่ภายใต้การทำสัญญาระหว่างบริษัทในเครือ ได้แก่ Daimler Mobility Services และ Geely Technology Group
ทั้งนี้ การประกาศร่วมทุนกับกลุ่ม Geely ครั้งนี้ เกิดขึ้นเพียงประมาณ 1 เดือนหลังการประกาศร่วมทุนกับค่ายรถหรูที่เป็นเพื่อนร่วมชาติและเป็นคู่แข่งตลอดกาลอย่างกลุ่ม BMW ซึ่งมูลค่าการร่วมทุนสูงถึง 1,000 ล้านยูโร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มเพื่อรองรับเทรนด์ในการให้บริการสำหรับ Urban Mobility ทั้งเรื่องของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า, รถไร้คนขับ และบริการ on-demand mobility หรือแพลตฟอร์มสำหรับ Car Sharing และ Ride Hailing Service
การร่วมมือกันระหว่างผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของโลก สะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ในโลกธุรกิจนั้น ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร เพราะคู่แข่งที่แท้จริงและน่ากลัวยิ่งกว่าสำหรับโลกธุรกิจวันนี้ คือ เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว!!