ระยะเวลากว่า ๓๐๐ วัน นับตั้งแต่วันที่ ๑๓ ตุลาคม ปีพุทธศักราช ๒๕๕๙ ภายหลังการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร ที่นับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของเหล่าพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศ ภาพยนตร์สารคดี “บันทึกทางไกล…ถึงพ่อ” (The Journey) จึงได้ถูกจัดทำขึ้นด้วยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และน้อมระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ผ่านเรื่องราวเมื่อครั้งในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จประทับ ณ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในปีพุทธศักราช ๒๔๗๖ จนกระทั่งพระองค์เสด็จนิวัติประเทศไทยในปีพุทธศักราช ๒๔๙๔ เพื่อเสด็จขึ้นครองราชย์อย่างเป็นทางการ
httpv://youtu.be/cue8_xL-jP4
โดนัท-มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล นักแสดงชื่อดัง ซึ่งมารับหน้าที่เป็นทั้งผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ และผู้เขียนบทภาพยนตร์ กล่าวถึงการจัดทำภาพยนตร์สารคดีภาพยนตร์สารคดี “บันทึกทางไกล…ถึงพ่อ” (The Journey) เรื่องนี้ว่า การตัดสินใจที่จะทำภาพยนตร์เรื่องนี้ เกิดขึ้นตอนที่เรารับทราบข่าวร้ายเมื่อวันที่ 13 ตุลาคมปีที่แล้ว ทำให้เราคิดว่าเราต้องลุกขึ้นมาทำอะไรเพื่อพระองค์ท่านบ้าง ซึ่งตอนนั้นนั่งอยู่กับ โบว์-พรมนัส รัตนวิชช์ (โปรดิวเซอร์และผู้เขียนบทภาพยนตร์) และประจวบเหมาะกับที่ทราบข่าวว่า คุณลีซองดร์ ไซไรดารีส ผู้ประพันธ์หนังสือเรื่อง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและเจ้านายไทยในโลซานน์” ได้มาอยู่เมืองไทยพอดี เราก็ตัดสินใจรีบลงมือทำกันเลย
สำหรับภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ เป็นการรวบรวมการเดินทางของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ในปีพุทธศักราช ๒๔๗๖-๒๔๙๔ ผ่านพระราชหัตถเลขา และไปรษณียบัตร รวมถึงภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ วิดิทัศน์พระราชทานสัมภาษณ์และการสัมภาษณ์บุคคลสำคัญที่เคยถวายงานพระองค์ บอกเล่าเรื่องราวเมื่อครั้งเสด็จประทับ ณ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อทรงศึกษาต่อและความสนพระราชหฤทัยในศิลปะดนตรีและการถ่ายภาพ รวมถึงช่วงเวลาที่พระองค์ทรงพบสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เป็นครั้งแรกที่ Fontainebleau ชานกรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส จวบจนกระทั่ง ทั้งสองพระองค์เสด็จนิวัติประเทศไทย โดยบันทึกการเดินทางไกลของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จะได้รับการร้อยเรียงให้พสกนิกรชาวไทยเข้าใจว่าสิ่งใดที่หล่อหลอมให้พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รัก และสถิตในดวงใจของประชาชนชาวไทยตราบเท่า ทุกวันนี้
“บันทึกทางไกล…ถึงพ่อ” (The Journey) เป็นภาพยนตร์สารคดีที่สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองด้านต่างๆ ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ตั้งแต่ทรงพระเยาว์…จากโลซาน ถึงกรุงเทพฯ ระยะทาง ๙๑๘๘ กิโลเมตร การเดินทางไกลนับเดือน นับปี แต่พระองค์ไม่เคยทอดทิ้งประชาชนของพระองค์ดังพระราชปนิธานที่พระราชทานไว้”
โบว์-พรมนัส รัตนวิชช์ โปรดิวเซอร์และผู้เขียนบทภาพยนตร์ กล่าวถึงความยากของการรวบรวมหลักฐานต่างๆ ว่า ยากมาก เพราะแต่ละอันนอกจากจะติดปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์แล้วยังต้องประสานงานเรื่องการขออนุญาตนำเผยแพร่ อันนี้ต้องยกความดีให้ โดนัท เลยที่สามารถรวบรวมแกะรอยมาได้ นอกจากนี้ ยังทำให้เห็นถึงภาพของการเดินทางส่วนพระองค์ในทุกช่วงชีวิตว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย รวมถึงข้อมูลหลักฐานอื่นๆ อีกมากที่เราคนไทยไม่เคยรู้มาก่อนอีกด้วย แต่วันนี้เป็นโอกาสอันดีที่คนไทยจะได้ร่วมรับชมไปพร้อมกัน
ด้าน สเตฟาน ลอมแบร์ ฝรั่งหนึ่งเดียวที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง รับหน้าที่โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์เรื่องนี้ กล่าวว่า จากการดูทีเซอร์ไปพร้อมกับร่วมเก็บรายละเอียดต่างๆ ของภาพยนตร์ ทำให้เราในฐานะที่เป็นชาวต่างชาติเข้าใจมากขึ้นว่า ทำไมคนไทยถึงรัก ในหลวง รัชกาลที่ ๙ มากขนาดนี้ และตัวหนังเองก็มั่นใจว่า แม้จะเป็นชาวต่างชาติถ้าได้ดูแล้วจะเข้าใจถึงความรักที่คนไทยมีต่อพระองค์อย่างแน่นอน และถ้าเป็นคนไทยก็จะยิ่งเข้าใจได้ลึกซึ้งมากไปกว่าเดิมอีก
ขณะที่ ลีซองดร์ ไซไรดารีส ผู้ให้คำปรึกษาในการผลิตภาพยนตร์ และยังเป็นบุตรชายของอดีตครูที่ปรึกษาส่วนพระองค์ ของ ในหลวงรัชกาลที่ ๘และรัชกาลที่ ๙ นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ประพันธ์หนังสือเรื่อง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและเจ้านายไทยในโลซานน์” อีกด้วย กล่าวถึงการมีส่วนร่วมในภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ว่า ปกติแล้วจะไม่ได้อนุญาตให้ใครเข้าถึงทรัพย์สินส่วนพระองค์ง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำไปเผยแพร่เชิงพาณิชย์ แต่เมื่อได้พูดคุยกับคุณโดนัทแล้วทำให้เข้าใจในว่าเราทำเพื่ออะไรและทุกอย่างก็เห็นพ้องตรงกัน
ภาพยนตร์สารคดี “บันทึกทางไกล…ถึงพ่อ” (The Journey) จัดทำขึ้นด้วยน้อมระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๔๗๐ ถึง ๒๕๕๙ โดย มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล พรมนัส รัตนวิชช์ และสเตฟาน ลอมแบร์ ภายใต้การให้คำปรึกษาของ คุณลีซองดร์ เซไรดารีส บุตรชายของนายเกลย์อง เซไรดารีส อดีตครูที่ปรึกษาส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเป็นผู้ประพันธ์หนังสือเรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและเจ้านายในโลซานน์ และมีผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ได้แก่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ดีแทค (บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น) และบริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
สำหรับประชาชาชนทั่วไปที่สนใจ สามารถติดตามและรับชมภาพยนตร์สารคดี “บันทึกทางไกล…ถึงพ่อ” (The Journey) ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตามช่องทางและรายละเอียด ดังต่อไปนี้
- ระหว่างวันที่ ๑๒ – ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๐ ณ โรงภาพยนตร์เอส เอฟ ทั่วประเทศ โดยในวันที่ ๑๒ และ ๑๕ ตุลาคม ฉายที่โรงภาพยนตร์เอส เอฟ ในเขตกรุงเทพฯ และ วันที่ ๑๓ – ๑๔ ฉายที่โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ ทั่วประเทศ อัพเดทรอบฉายที่ https://www.sfcinemacity.com/
- ระหว่างวันที่ ๑๒ – ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๐ ณ ห้องออดิทอเรี่ยมหอศิลปกรุงเทพฯ จำนวนทั้งหมด ๖ รอบ โดยรอบฉายในวันที่ ๑๒ ตุลาคม ได้แก่ ๑๓.๐๐ น. ๑๕.๐๐ น. และ ๑๙.๐๐ น. และรอบฉายในวันที่ ๑๓ ตุลาคม ได้แก่ ๑๕.๐๐ น. ๑๗.๐๐ น. และ ๑๙.๐๐ น. โดยหลังการฉายรอบสุดท้ายมี Q & A กับผู้กำกับภาพยนตร์
- ระหว่างวันที่ ๒๐ – ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๐ ณ แบงค็อก สกรีนนิ่ง รูม (Bangkok Screening Room) ศาลาแดง ทั้งหมด ๙ รอบ อัพเดทรอบฉายที่ https://bkksr.com/movies
- ฉายบนเที่ยวบินสายการบินไทย เป็นระยะเวลา ๒ ปี