“โคคา-โคล่า” เดินหน้าวิสัยทัศน์ World Without Waste สนับสนุนแคมเปญ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ผนึกกำลังแทรชลัคกี้ อินโดรามา เวนเจอร์ส โลตัส และ เชลล์ ประเทศไทย

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  

 

กลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย อันประกอบไปด้วย บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าจับมือกับพันธมิตรดั้งเดิม แทรชลัคกี้ และ อินโดรามา เวนเจอร์ส ประกาศสนับสนุนแคมเปญ “ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky” เป็นปีที่ 2 ส่งเสริมความตระหนักรู้ถึงความจำเป็นในการแยกวัสดุรีไซเคิลที่มีค่า เช่น ขวดพลาสติก PET และกระป๋อง โดยผู้บริโภคสามารถคัดแยกและส่งบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ที่จุดรับรีไซเคิลทั่วกรุงเทพฯ ตลอดแคมเปญ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึง 31 มีนาคม 2566 ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลรายเดือน ซึ่งจัดกิจกรรมลุ้นโชคโดยแทรชลัคกี้ โดยมี

“โคคา-โคล่า” สนับสนุนของรางวัลมูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 2 ล้านบาท โดยในปีนี้มีพันธมิตรมาร่วมแคมเปญเพิ่มขึ้น คือ โลตัส และ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ที่จะเข้ามาเพิ่มจุดรับวัสดุรีไซเคิลให้มากขึ้น โดยวัสดุรีไซเคิลทั้งหมดในแคมเปญจะถูกส่งต่อไปให้ อินโดรามา เวนเจอร์ส พันธมิตรดั้งเดิมของแคมเปญที่จะรีไซเคิลขวดพลาสติก PET ให้กลับมาสามารถใช้งานได้อีกครั้ง ถือเป็นเป้าหมายหลักของแคมเปญในการขับเคลื่อนการจัดการขยะอย่างยั่งยืน และจูงใจผู้บริโภคให้นำหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ในชีวิตประจำวันโดยเริ่มจากการรีไซเคิล

 

 

แคมเปญ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky ในปีนี้ได้เพิ่มจุดรับวัสดุรีไซเคิล ณ โลตัส และสถานีบริการน้ำมันเชลล์ สาขาที่กำหนด ทั่วกรุงเทพฯ รวมถึงจุดรับวัสดุรีไซเคิลของแทรชลัคกี้ ในส่วนของอินโดรามา เวนเจอร์ส พันธมิตรดั้งเดิมของแคมเปญ จะช่วยเปลี่ยนขวดพลาสติก PET ที่เก็บรวบรวมเป็นเม็ดพลาสติก PET รีไซเคิล (rPET) ตอบรับการที่ประเทศไทยเพิ่งออกกฎหมายอนุญาตให้สามารถนำเม็ดพลาสติก PET รีไซเคิล (rPET) มาผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารและเครื่องดื่มได้ กฎหมายฉบับใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของ BCG Model ของประเทศไทย หรือการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม สอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืน โดย “โคคา-โคล่า” และพันธมิตรทุกฝ่ายรู้สึกตื่นเต้นและมีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนเรื่องนี้ผ่านแคมเปญ

นายนันทิวัต ธรรมหทัย ผู้อำนวยการองค์กรสัมพันธ์ การสื่อสาร และความยั่งยืน บริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า  “โคคา-โคล่า” เดินหน้าทำงานเพื่อจัดเก็บและรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ในปริมาณเทียบเท่ากับที่ใช้ให้ได้ทั้งหมดภายในปี พ.ศ. 2573 โดยโครงการ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky เป็นแคมเปญล่าสุดจาก “โคคา-โคล่า” และพันธมิตรในประเทศไทย ในการสร้างความตระหนักรู้ถึงความจำเป็นในการแยกวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ออกจากขยะทั่วไป โดยเพิ่มความสนุกด้วยสิทธิ์ร่วมลุ้นรับของรางวัล ควบคู่ไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างยั่งยืน สำหรับ

แคมเปญ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky ในปีนี้ได้รับความร่วมมือจาก แทรชลัคกี้ โลตัส และ สถานีบริการน้ำมันเชลล์ ซึ่งมีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการรีไซเคิลเช่นเดียวกับ “โคคา-โคล่า”   โดยทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่าการแก้ปัญหาขยะไม่ใช่ความรับผิดชอบของใครคนใดคนหนึ่ง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และพันธมิตรทุกคนในโครงการนี้ก็ยินดีต้อนรับทุกองค์กรที่สนใจมาร่วมกันผลักดันการรีไซเคิลให้ขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะองค์กรที่พร้อมจะทำหน้าที่เป็นจุดรับวัสดุรีไซเคิลเพิ่มเติม เราทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการแข่งขันทางการค้า ไม่ว่าจะองค์กรใด ในธุรกิจใดก็แล้วแต่ ขอเพียงเรามีเป้าหมายเป็นหนึ่งเดียว เราก็ยินดีต้อนรับเป็นพันธมิตรเข้ามาทำงานร่วมกัน โดยขอความกรุณาแจ้งความจำนงไปที่ แทรชลัคกี้ ซึ่งจะทำหน้าที่ช่วยเราในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเพิ่มจุดรับวัสดุรีไซเคิลใหม่ๆ ให้เชื่อมโยงกับเครือข่ายปัจจุบันโดยเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการบริหารจัดการด้านการขนส่งและรวบรวม ตลอดจนสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภคที่สนใจเข้าร่วมส่งวัสดุรีไซเคิลอีกด้วย”

นายณัฐภัค อติชาตการ ผู้ร่วมก่อตั้ง และกรรมการผู้จัดการ บริษัท แทรชลัคกี้ จำกัด กล่าวว่า แคมเปญ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky ในปีที่แล้ว ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค  แม้ว่าแคมเปญจะมีระยะเพียง 3 เดือน ซึ่งเป็นช่วงล็อคดาวน์จากสถานการณ์โควิด 19 แทรชลัคกี้ได้รับขวดพลาสติกทั้งสิ้นกว่า 3,500 กิโลกรัม หากตีเป็นขวดพลาสติก PET ขนาด 600 มิลลิลิตร นับเป็นจำนวนกว่า 157,500 ขวด โดยในปีนี้ แทรชลัคกี้ ยังคงเป็นพันธมิตรหลักที่ให้บริการทั้งด้านโซลูชั่นการรีไซเคิลและการเผยแพร่ความรู้ต่อสาธารณชนให้เข้าใจว่าอะไรสามารถรีไซเคิลได้ และมีวิธีการอย่างไร และแทรชลัคกี้ยังคงให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ลุ้นรับรางวัล ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของ Trash Lucky ในการสร้างแรงจูงใจให้ผู้คนรีไซเคิล เพื่อลดขยะในหลุมฝังกลบและในมหาสมุทร สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากแคมเปญปีที่แล้วคือ นอกจากรางวัลจูงใจ ความสะดวกในการรีไซเคิลก็สำคัญ และในปีนี้ เราดีใจที่โลตัส และเชลล์ ประเทศไทย ได้เข้ามาเป็นพันธมิตรในการตั้งจุดรับวัสดุรีไซเคิลทั่วกรุงเทพฯ และเราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมแรงร่วมใจของผู้บริโภคจะนำไปสู่จุดเปลี่ยนที่สำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยในปีนี้ เราจะยังคงวัดผลและสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคเกี่ยวกับความเข้าใจและทัศนคติการรีไซเคิล เพื่อปรับปรุงการทำงานที่จะทำให้เกิดไลฟ์สไตล์การรีไซเคิลในชีวิตประจำวัน”

นางสาวนวีนสุดา กระบวนรัตน์ หัวหน้าฝ่ายความรับผิดชอบต่อสังคม บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ภารกิจหลักของ อินโดรามา เวนเจอร์ส คือการมอบชีวิตใหม่ให้กับพลาสติก PET ที่ใช้แล้วโดยการเปลี่ยนเป็นเม็ดพลาสติก PET รีไซเคิล ซึ่งในปีที่แล้ว เราประสบความสำเร็จในการนำขวดพลาสติก PET ที่รวบรวมได้ ไปผลิตเป็นชุด PPE คุณภาพสูง และนำไปมอบแก่สำนักงานสาธารณสุขใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำหรับปีนี้ เราเข้ามาร่วมทำงานเพื่อเป็นการตอบรับกับกฎหมายอนุญาตให้ใช้ขวดพลาสติก PET ใช้แล้วมารีไซเคิลเพื่อผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม โดยระหว่างนี้ ทาง อินโดรามา เวนเจอร์ส กำลังดำเนินการเตรียมความพร้อมเพื่อให้สอดคล้องกับรายละเอียดข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ได้เพียงแค่เพื่อสร้างความเข้าใจในนวัตกรรมการรีไซเคิลที่ดียิ่งขึ้น หรือการผลิต PET รีไซเคิลที่ถูกสุขอนามัยสำหรับอาหารและเครื่องดื่ม แต่ยังสร้างความตระหนักรู้ถึงความจำเป็นในการแยกวัสดุรีไซเคิลได้จากขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ ซึ่งนับว่าเป็นก้าวสําคัญในการสร้างความมั่นใจว่าประเทศไทยจะมีการผลิตพลาสติก PET รีไซเคิลที่มีคุณภาพ”

นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืน ธุรกิจโลตัส ประเทศไทยกล่าวว่า “ปัญหาขยะที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งขยะพลาสติก เป็นหนึ่งในปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โลตัสมีเป้าหมายในการสร้างระบบปิดของบรรจุภัณฑ์ ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนไม่เพียงแค่การบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์ และขยะประเภทต่าง ๆ ภายในการดำเนินธุรกิจของเราเองเท่านั้นแต่รวมไปถึงการช่วยให้ลูกค้าและประชาชนสร้างพฤติกรรม ในการแยกขยะและเข้าถึงจุดรีไซเคิลได้อย่างสะดวกสบายผ่านสาขาของเราที่เป็นศูนย์กลางชุมชน โลตัส จัดตั้งจุดหย่อน บรรจุภัณฑ์หลากหลายประเภทเพื่อเก็บเข้าระบบและนำไปรีไซเคิลอย่างถูกวิธี รวมถึงเครื่องReverse Vending Machine จำนวน 27 ตู้ ที่ปัจจุบันสามารถนำขวดพลาสติก PET กลับเข้าระบบแล้วกว่า 2,800,000 ขวด, จุดรับพลาสติกยืดจำนวน 45 จุด ที่รีไซเคิลพลาสติกไปแล้วกว่า 7,400กิโลกรัม และ จุดรับกล่องและลังกระดาษจำนวน 220 จุด ที่สามารถรีไซเคิลกล่องและ ลังกระดาษไปแล้วกว่า 200,000 กิโลกรัม โลตัส มีความยินดีอย่างยิ่งในการเป็นพันธมิตรร่วมแคมเปญ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky  ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของโลตัส ในการสนับสนุนและช่วยให้ลูกค้าแยกขยะ และนำมา รีไซเคิลได้อย่างสะดวกที่สาขาของเรา โดยในเบื้องต้นจะร่วมมือจัดตั้งจุดรีไซเคิลที่โลตัส 6 สาขา ได้แก่ ลาดพร้าว, วังหิน, มีนบุรี, ลาดกระบัง, บางกะปิ และ พระราม 2 เพื่อนำบรรจุภัณฑ์กลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกวิธีตามแนวคิด เศรษฐกิจหมุนเวียน และช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม”

นาย เรืองศักดิ์ ศรีธนวิบุญชัย กรรมการบริหารธุรกิจโมบิลิตี้ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “กลยุทธ์ Powering Progress เป็นกลยุทธ์ที่เราใช้ในการเร่งเปลี่ยนผ่านพลังงานในการดำเนินธุรกิจของเราให้มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในพ.ศ. 2593 ซึ่งการจัดการเรื่องขยะโดยเฉพาะอย่างยิ่งขยะพลาสติก เป็นหนึ่งในสี่ของกลยุทธ์ที่สำคัญดังกล่าว เชลล์มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการจัดการกับขยะพลาสติก ด้วยความตระหนักดีว่าขยะพลาสติกเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันเพื่อจัดการแก้ไขปัญหานี้ เชลล์วางแผนจัดการกับความท้าทายนี้อย่างยั่งยืน โดยเริ่มต้นจากกระบวนการผลิต การปฏิบัติงานภายในของเราเอง ตลอดจนช่วยลูกค้าเชลล์ลดขยะพลาสติกจากการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์น้ำมันเครื่องเชลล์ ซึ่งเป็นแบบรีไซเคิล รวมถึงที่ร้านเดลี่คาเฟ่ของเรา เลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ และใช้หลอดกระดาษแทน เชลล์มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรในแคมเปญ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky ในปีนี้ ด้วยความมุ่งหวังที่จะเป็น Trusted Partner กับ “โคคา-โคล่า” อินโดรามา และ โลตัส ซึ่งมีเป้าหมายเดียวกันกับเราในการจัดการกับปัญหาขยะพลาสติกในประเทศไทยอย่างยั่งยืน และเพิ่มความอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคที่เข้าร่วมแคมเปญ ด้วยการเป็นจุดตั้งรับขยะรีไซเคิลสำหรับโครงการดังกล่าวฯ ในสถานีบริการน้ำมันเชลล์ทั้ง 15 สาขาทั่วกรุงเทพ”

 

 

แคมเปญ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky เป็นแคมเปญที่มีระยะเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึง 31 มีนาคม 2566 จัดขึ้นโดย แทรชลัคกี้ และสนับสนุนเงินรางวัลโดย “โคคา-โคล่า” ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถสมัครผ่าน Line official account: @trashlucky โดยจะได้รับรหัสสมาชิกภายหลังการสมัคร  ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถแยกวัสดุรีไซเคิล เช่น พลาสติก อะลูมิเนียม แก้ว และกระดาษ บรรจุใส่ถุงหรือกล่องโดยติดชื่อ หรือ รหัสสมาชิก และสามารถส่งขยะรีไซเคิลได้ 3 วิธี วิธีแรกคือ นำไปส่งที่จุดรับขยะที่เข้าร่วมแคมเปญ เช่น แทรชลัคกี้ ดินแดง หรือ ซอยสาธุ 49 โลตัส 6 สาขาลาดพร้าว วังหิน มีนบุรี ลาดกระบัง บางกะปิ พระราม2 และสถานีให้บริการน้ำมันเชลล์ทั้ง 15 สาขา วิธีที่สองคือ ส่งวัสดุรีไซเคิลผ่านบริการขนส่งพัสดุมาที่บริษัท แทรชลัคกี้ จำกัด วิธีที่สามคือ เรียกใช้บริการเก็บวัสดุรีไซเคิลของ แทรชลัคกี้ ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับสิทธิลุ้นรางวัลตามปริมาณและประเภทของวัสดุที่ได้ส่งมารีไซเคิล

โดยปีนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้ลุ้นรางวัลถึง 3 ต่อ มูลค่าของรางวัลรวม 2 ล้านบาท ซึ่งจะถูกแจกตลอดระยะเวลา 6 เดือน รางวัลต่อที่หนึ่ง บุคคลที่ส่งวัสดุรีไซเคิลในแคมเปญระหว่างเดือนตุลาคม 2565 ถึง มีนาคม 2566 จะได้รับสิทธิ์ลุ้นรางวัล ประจำเดือนของเดือนนั้นๆ มีของรางวัลได้แก่ โทรศัพท์มือถือไอโฟน ทองคำ และ บัตรกำนัลช็อปปิ้ง รางวัลต่อที่สอง สิทธิ์ลุ้น รางวัลที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึง 31 ธันวาคม 2565 จะถูกนำไปลุ้นรางวัลทองคำแท่ง 5 บาท ในเดือนมกราคม 2566 โดยอัตโนมัติ รางวัลต่อที่สาม สิทธิ์ลุ้นรางวัลที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึง 31 มีนาคม 2566  จะถูกนำไปลุ้นรางวัลทองคำแท่ง 20 บาท ในเดือนเมษายน 2566 โดยอัตโนมัติ

 

 

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถอ่านได้ที่  https://trashlucky.com/recycleme บริษัท หรือ หน่วยงานที่ต้องการเข้าร่วมแคมเปญ และร่วมตั้งถังเป็นจุดรับวัสดุรีไซเคิลเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนของประเทศ สามารถติดต่อ แทรชลัคกี้ ได้ที่ support@trashluck.com


  • 1
  •  
  •  
  •  
  •