อัดหนักกลยุทธ์ออนไลน์-ออฟไลน์ “ตู้บุญเติม” พลิกภาพบริการตู้เติมเงิน สู่ CSR สร้างโอกาสให้เยาวชนไทย

  • 7.5K
  •  
  •  
  •  
  •  

700

ตู้สีส้มส้ม ที่มีหน้าจอระบบสัมผัสแถมยังส่งเสียงได้ พบตามหน้าร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน แหล่งชุมชน คงเป็นจุดเริ่มต้นให้ใครต่อใครได้รู้จัก ตู้บุญเติม และเริ่มคุ้นเคยกับการเติมเงินมือถือ เติมเงินเกมออนไลน์  โอนเงิน หรือจ่ายบิลต่างๆ ผ่านตู้ให้บริการประเภทดังกล่าว ตั้งแต่ยุค Mobile Banking ยังไม่เชื่อมโยงบริการเติมหรือชำระเงินได้อย่างครอบคลุมเช่นในปัจจุบัน

แน่นอนว่าบริการลักษณะนี้ Gen C เป็นกลุ่มที่คุ้นเคย พร้อมเปิดรับและมีความกล้าในการใช้งานเทคโนโลยีมากที่สุด ขณะที่ช่วงวัยอื่นมักมีความกังวลและไม่กล้าใช้เทคโนโลยีในช่องทางที่ตนเองไม่คุ้นเคย เพราะไม่มั่นใจและมองว่ามีความสุ่มเสี่ยงทั้งขั้นตอนการใช้งานและผลลัพธ์ แต่การทำธุรกิจให้เป็น Mass Market ไม่สามารถเลือกคนเฉพาะกลุ่มหรือเมินเฉยต่อผู้คนอีกหลายต่อหลายช่วงวัยได้ เพราะกลุ่มที่ไม่ถนัด ไม่เข้าใจเทคโนโลยีนั้น ล้วนเป็นผู้ที่มีความมั่นคงทางการเงินและกล้าใช้จ่ายกับสิ่งที่ตนเองชื่นชอบ อาจเพราะเหตุนี้ จึงทำให้ ตู้บุญเติม เลือกทำการตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่ม ไม่ใช่เพียงครองใจคนรุ่นใหม่ที่รู้จักและใช้งานตู้เติมเงินได้อย่างคล่องแคล่ว แต่รวมถึงทุกวัยในครอบครัว

ปั้นกิจกรรม CSR เข้าถึงใจกลุ่มเป้าหมาย

หากพูดกันตามความจริง Gen C มักมีบทบาทอย่างชัดเจนในการเลือกและดำเนินการเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ขณะเดียวกัน ก็เป็นผู้ถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงแบรนด์ที่ตนเองชื่นชอบ ใช้งานเป็นประจำ ให้ช่วงวัยอื่นในครอบครัวได้รู้จัก เรื่องนี้ทำให้ บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส หรือ FSMART ในฐานะผู้ให้บริการตู้บุญเติม เลือกเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านการทำ CSR ในโครงการ “Dance to Your Dream เต้นเติมฝัน” การประกวดเต้นเชิงสร้างสรรค์ประกอบเพลงบุญเติม ซึ่งขับร้องโดย “ก้อง ห้วยไร่” ศิลปินลูกทุ่งขวัญใจชาวไทย

1

กิจกรรมดังกล่าว ได้การตอบรับจากเยาวชนนับ 500 ทีมจากโรงเรียนทั่วประเทศส่งคลิปเข้าร่วมประกวด นอกจากกิจกรรมดังกล่าวจะเป็นการขยายการรับรู้ให้แบรนด์บุญเติม ก็ยังสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมให้เยาวชนไทยกล้าแสดงออก และย้ำภาพการมอบโอกาสอย่างเท่าเทียมแก่เยาวชนไทยทั่วประเทศ เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทั้งยังมีการมอบทุนการศึกษาให้เยาวชนและโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ อาทิ ถ้วยรางวัลเกียรติยศ เกียรติบัตร และทุนการศึกษารวมกว่า 300,000 บาท

2

โดยคณะกรรมการได้คัดเลือกทีมที่ผ่านเข้ารอบ 20 ทีม ก่อนจะต่อยอดสู่การสร้าง Engagement ด้วยการเปิดให้คนทั่วไปร่วมโหวตทีมที่ชื่นชอบ เพื่อหาทีมที่ผ่านเข้ารอบ 5 ทีมสุดท้าย ก่อนจะส่งทีม Production ไปถ่ายทำน้องๆ ทั้ง 5 ทีม เพื่อถ่ายทอดอัตลักษณ์และความคิดสร้างสรรค์ ก่อนจะเปิดให้ทุกคนได้ร่วมโหวตทีมที่ชื่นชอบ 3 ทีมผู้ชนะ ซึ่งผลการตัดสินรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งเป็นของทีม ไฮเปอร์แมน จากโรงเรียนพัทธยาอรุโณทัย เมืองพัทยา รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ทีม HEYDAY จากสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ทีม monkey town family จาก Monkey Town Artist Academy

3

4

5

เวทีโอกาส สะท้อนไอเดียด้วยกิจกรรมที่ชื่นชอบ

อย่างที่บอกไปแล้ว ว่าโครงการ “Dance to Your Dream เต้นเติมฝัน” เป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยทั่วประเทศได้แสดงออกและนำเสนอความคิดเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งต้องยอมรับว่ากิจกรรมการเต้น ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่เด็กๆ ชื่นชอบ ทั้งยังทำให้เกิดการใช้เวลาว่างอย่างเป็นประโยชน์ ได้กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ทำให้เด็กๆ มีโอกาสเรียนรู้และฝึกการทำงานร่วมกันเป็นทีม ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์ พร้อมๆ กับการสะท้อนไอเดียที่เกิดขึ้นจากสิ่งรอบตัวหรือแม้แต่การถ่ายทอดผ่านอัตลักษณ์ท้องถิ่น ผ่านท่าทางการเต้นและเรื่องราวที่ถ่ายทอดประกอบบทเพลง หากสนใจรายละเอียดกิจกรรม สามารถติดตามเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ dancetoyourdream.boonterm.com

ขยายการรับรู้ สร้างการจดจำผ่าน Influencer

6

นอกจากการเลือกศิลปินที่มีชื่อเสียงเป็นผู้ขับร้องบทเพลงประกอบ กิจกรรมดังกล่าวยังเลือกใช้กลยุทธ์สร้างการรับรู้ด้วยการโปรโมทผ่าน Influencer ที่มีชื่อเสียงทั้งในไทยและต่างประเทศอย่าง “เด็กเซราะกราว” กลุ่มเด็กไทยต่างจังหวัดที่มีผลงานเต้น Cover เลียนศิลปินต่างๆ ผ่าน YouTube ซึ่งมียอดการรับชมผลงานต่างๆ มากกว่า 30 ล้านครั้ง ยังไม่นับรวมถึงช่องทางการโปรโมทผ่านแอปพลิเคชันที่เด็กๆ และวัยรุ่นไทยชื่นชอบอย่าง แอปพลิเคชัน TikTok เพื่อทำให้ผู้ใช้งานแอปและผู้ที่ติดตามผลงานของเด็กเซราะกราว เกิดการรับรู้ในแบรนด์บุญเติมมากขึ้น พร้อมกับเกิดความรู้สึกคุ้นหูเพลงประกอบบุญเติมไปพร้อมกัน แต่กลยุทธ์ที่แบรนด์บุญเติมเลือกใช้ไม่ได้มีเพียงการทำตลาดออนไลน์ เพราะยังมีการจัดกิจกรรมเยี่ยมโรงเรียนพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อประชาสัมพันธ์แคมเปญดังกล่าวอีกด้วย

httpv://youtu.be/jKb5LdDId-s

ไม่หยุดนิ่งต่อยอดธุรกิจ! เสิร์ฟความสะดวก ตอบโจทย์การใช้งานตรงใจ

แม้จะเริ่มต้นทำตลาดจากภาพลักษณ์ตู้เติมเงิน แต่ตลอด 10 ปีของการดำเนินธุรกิจตู้บุญเติม ก็มีการปรับโฉมเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันแก่ผู้บริโภคและชุมชนทุกๆ พื้นที่ทั่วประเทศไทยอย่างไม่หยุดนิ่ง จากการเป็นตู้ให้บริการเติมเงินมือถือ เติมเงินเกมส์ออนไลน์ วันนี้หน้าตาของตู้บุญเติมยังคงภาพตู้สีส้มที่คุ้นตา แต่เพิ่มฟังก์ชันการใช้งานใหม่ๆ ผ่านโฉมใหม่ที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ ตู้บุญเติม เคาน์เตอร์เซอร์วิส เพื่อให้บริการรับชำระบิลต่างๆ รวมถึง ตู้จำหน่ายเครื่องดื่มอัตโนมัติ ตู้กดน้ำดื่มสะอาด และแอพพลิเคชั่น Be Wallet กระเป๋าตังค์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อตอบโจทย์ Life Style ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นการขยายฟังก์ชันการใช้งานตามที่ชุมชนมีความต้องการ แต่ยังคงไว้ด้วยจุดเด่นของแบรนด์ คือ การเติมเงิน

 

7

ขณะเดียวกัน ตู้บุญเติม ในปัจจุบันก็ถูกยกระดับให้มีประสิทธิภาพในการตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายขึ้น โดยรองรับบริการต่างๆ เพิ่มเติมจากการเติมเงินมือถือและการเติมเงินเกมส์ออนไลน์ อาทิ การโอนเงิน, การเติมเงินใน e-Wallet, การจ่ายบิลและค่าสินค้า, การซื้อโปรโมชั่นเสริมหรือแพ็กเกจอินเทอร์เน็ต, การดูดวงและบริจาคเงินแก่มูลนิธิต่างๆ, ช่องทางซื้อสติกเกอร์ LINE ด้วยเงินสดที่แรกของโลก หรือแม้แต่การชั่งน้ำหนักและวิเคราะห์รูปร่าง ก็สามารถทำผ่านตู้บุญเติมได้แล้ว ผ่านการรองรับภาษาได้หลากหลาย เช่น ภาษาไทย อังกฤษ พม่า และกัมพูชา สะท้อนถึงความเข้าใจในชุมชนซึ่งมีผู้คนหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ร่วมกัน

ทั้งหมดนี้ยิ่งย้ำภาพความสำเร็จของตู้บุญเติม ภายใต้การขยับตัวอย่างไม่หยุดนิ่ง แม้จะดำเนินงานมาอย่างยาวนานนับ 10 ปี และสามารถสร้างความแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นได้อย่างชัดเจน แต่ทั้งกิจกรรมเพื่อสังคมและการพัฒนาสินค้า/บริการของ “ตู้บุญเติม” ก็เป็นเสมือนเครื่องยืนยันแล้วว่า ความสำเร็จในการติดตั้งเครื่องให้บริการนับแสนตู้ทั่วประเทศไทยนั้น มีที่มาจากการเข้าใจความต้องการของคนไทยและการใช้ชีวิตร่วมกันในชุมชนอย่างแท้จริง


  • 7.5K
  •  
  •  
  •  
  •