ผิดหวังไปตาม ๆ กันสำหรับนักลงทุนที่เตรียม “ช้อน” รอซื้อหุ้น CPF หลังมีข่าวว่า “ธนินท์ เจียรวนนท์” ขอลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เพราะปรากฏว่ารอจนตลาดหุ้นปิด (เมื่อวานนี้ -24 เม.ย.) ราคาหุ้น CPF ก็ยังตกไปไม่ถึง 1% …ถือช้อนเก้อกันเป็นแถว!!
ข่าวการลาออกของเจ้าสัวธนินท์เมื่อเที่ยงวานนี้ เรียกได้ว่า แย่งซีน (Scene) ข่าวธุรกิจและข่าวความเคลื่อนไหวในตลาดหลักทรัพย์ข่าวอื่นๆ ตลอดช่วงบ่าย ไปได้ไม่น้อย จากกระแสความสนใจว่า “มหาเศรษฐีอันดับ 1” ของไทยคนนี้จะลาออกไปทำอะไร (กันแน่!!) ขณะที่ความสนใจอีกด้านมาจากตลาดทุนที่ลุ้นตัวโก่งว่าหุ้น CPF จะตก (แรง) ไหม?
ลาออกแล้ว…ไปไหน
ตามหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ CPF ระบุว่า “เจ้าสัวซีพี”ลาออก เพราะมีภารกิจมากขึ้น จึงทำให้ไม่มีเวลาปฏิบัติงานให้กับ CPF ได้อย่างเต็มที่ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีหนังสือแจ้งการลาออกจากบริษัท CP All
แม้หนังสือชี้แจงจาก CPF จะระบุค่อนข้างชัดเจน แต่เพราะเป็นการลาออกอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย และไม่เคยมีสัญญาณล่วงหน้า โดยเฉพาะอย่างย่ิง การลาออกครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจาก CPF เพิ่งแจ้งข่าวดีกับตลาดหลักทรัพย์ฯ เพียง 2 วัน ได้แก่ การซื้อธุรกิจสุกรครบวงจรรายใหญ่ในแคนาดา HyLife Investment และการได้ซื้อหุ้น AHM Lifestyles – Creative Hospitality ในเวียดนาม ซึ่งทำธุรกิจอาหาร เป็นสัดส่วน 70% เพื่อเป็นช่องทางในการจำหน่ายเนื้อสุกร นอกจากนี้ การลาออกยังเกิดขึ้นหลังวันเกิดครบ 80 ปี เพียง 5 วัน
นักวิเคราะห์ทั้งในโลกออฟไลน์และออนไลน์จึงพากันคาดเดาเหตุผลอื่น ๆ …บ้างก็ว่าท่านแค่เกษียณ พักผ่อนอยู่กับลูกหลาน บางกระแสมองว่าเป็นเหตุผลด้านสุขภาพ เพราะเคยมีข่าวว่าท่านป่วย โยงไปถึงการวิเคราะห์ว่าเจ้าสัวอาจเริ่มถอนตัวให้ลูกชายทั้ง 2 คนขึ้นบริหารแทน แต่สาวกที่ชื่นชมในความเป็นคนเก่งและเป็นคนทำงานหนักของเจ้าสัวซีพี มักเช่ือกันว่า ท่านกำลังซุ่มทำโครงการที่ยิ่งใหญ่และท้าทายยิ่งกว่า ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน ตลอดจนโครงการประมูลท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 และโครงการ EEC บ้างก็โยงไปถึงการทำงานให้ภาคการเมือง
ลาออกแล้ว …หุ้นจะตกไหม
นอกจากเสียงลือเสียงเล่าข้างต้น ในฟากฝั่งนักลงทุนก็มีเสียงดังกระหึ่มขึ้นมาไม่น้อย หลังจากที่ข่าวการลาออกของคุณธนินท์ เริ่มถูกแชร์ “หุ้นจะตกไหม” … อาจจะมีผู้ถือหุ้น CPF บางกลุ่ม ซึ่งคาดว่าจะเป็นกลุ่มน้อยที่ตกใจกับข่าวและกังวลว่าราคาหุ้นจะตก แต่เชื่อว่าอีกนักลงทุนจำนวนมากที่คาดหวังให้หุ้นตก เพื่อที่ราคาจะได้ลดลงมาอีกสักหน่อย แต่ก็ต้องผิดหวังกันไปตาม ๆ กัน เพราะปิดตลาดวันนี้ ราคา CPF อยู่ที่ 25.50 บาท ลดลงไปจากราคาปิดของวันก่อนหน้า (วันที่ 23 เม.ย.) เพียง 25 สตางค์ คิดเป็น 0.97% เท่านั้นเอง
ทำไมหุ้น CPF ไม่ร่วงเหมือนที่บางคนตกใจ ทำไมเมื่อไม่มีชื่อ “เจ้าสัวธนินท์” นั่งกำกับดูแลและให้คำแนะนำการบริหาร แต่นักลงทุนยังมั่นใจในกิจการของ CPF เป็นเพราะอะไรมากางพอร์ต (Portfolio) ของ CPF ดูกัน
ด้วยปรัชญาธุรกิจของ CPF ที่คุณธนินท์ได้วางแนวคิดและสร้างรากฐานมานาน คือการเป็นครัวโลก (Kitchen of the World) ธุรกิจของ CPF จึงไม่ได้โฟกัสแค่ในประเทศไทย แต่ยังได้ลงทุนอย่างหนักและมีธุรกิจในอีกหลายประเทศ และในบางประเทศมีธุรกิจหลากหลาย ขณะที่บางประเทศเรียกได้ว่า มีธุรกิจเกือบจะครบ Supply-Chain เลยทีเดียว โดยในปี 2561 CPF มีรายได้จากต่างประเทศมากถึง 67%
ในปี 2561 CPF มีรายได้จากการขายทั้งหมด 541,937 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนกว่า 8% ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกิจการต่างประเทศ ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศของ CPF ในปีนี้สูงถึง 67% ของรายได้ทั้งหมด โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3% ขณะที่รายได้จากการส่งออกมีสัดส่วน 5% ที่เหลืออีก 28% เป็นรายได้จากกิจการในประเทศ ขณะที่กำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 15,531 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อน 2%
หลากแบรนด์ที่เราคุ้นเคยมาจาก CPF
แบรนด์จำนวนมากนี้ ต้องบอกว่าเป็นเพียงบางส่วนของแบรนด์ในเครือ CPF ที่คนไทยหลาย ๆ คุ้นเคย โดยมีตั้งแต่แบรนด์อาหารสุนัข (ชั้นนำ) แบรนด์อาหารคน แบรนด์บริการเกี่ยวกับอาหาร แบรนด์ร้านอาหาร รวมถึงโรงเรียนสอนทำอาหาร ซึ่งบางแบนรนด์อยู่ในต่างประเทศ …แน่นอนว่าจำนวนแบรนด์คงไม่หยุดแค่นี้ ตราบเท่าที่ CPF ยังมีจุดหมายคือการเป็น Kitchen of the World
ปิดท้ายด้วย ตารางเปรียบเทียบผลการดำเนินงานและความสามารถในการสร้างผลตอบแทนทางธุรกิจของ CPF และ CP All จะเห็นได้ว่า แม้ CPF จะสร้างรายได้รวมได้สูงกว่า แต่เพราะเป็นธุรกิจที่ต้องมีการลงทุนสูงและมีต้นทุนในการผลิตที่ค่อนข้างสูง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่า CP All อย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ CP All ก็มีค่าใช้จ่ายในการบริหารและการขาย โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านพนักงาน ทำให้อัตรากำไรสุทธิไม่ต่างกันมาก
แต่ถ้ามองในแง่ของ “เจ้าของ” รวมถึงนักลงทุน จะเห็นได้ชัดว่า CP All ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ดังนั้นการที่เจ้าสัวเลือกที่จะวางมือจาก CPF (ก่อน) ก็เป็นไปตามหลักเศรษฐศาสตร์ ในแง่ของการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด (เวลา แรงกำลัง และพลังงานทางความคิด) ให้เกิดประโยชน์ (ในเชิงมูลค่า) สูงสุด
อย่างไรก็ดี มีข่าวที่ต้องมาลุ้นหลังจากนี้ ข่าวแรกคือใครที่จะเข้ามารับตําแหน่งประธานกรรมการ CPF แทน เพราะถ้าเลือกมา “ไม่ตรงใจตลาด” ราคาหุ้นก็อาจจะลงแรงได้ และอีกข่าวคือ เจ้าสัวจะวางมือจากกิจการอื่นอีกหรือไม่
บางทีนักลงทุนที่ผิดหวังจากการ “ช้อนหุ้น” CPF ในครั้งที่ผ่านมา อาจมีโอกาสได้ซื้อหุ้น CPF และ CP All ในราคาที่มีส่วนลด (Discount) จากข่าวครั้งหน้าบ้างก็ได้ แต่เมื่อดูจากความแข็งแกร่งของหุ้นทั้งสองตัว Oops! แนะนำว่า ให้ทยอยซื้อสม่ำเสมอแบบ DCA (Dollar Cost Average) น่าจะดีกว่ามานั่งลุ้นให้ราคาหุ้นสองตัวนี้ลงแรง ๆ เพราะเชื่อว่าแค่ราคาวิ่งลงมาไม่กี่จุด ก็มีนักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่พร้อมเข้า “ช้อน” เหมือนกรณีของ CPF วานนี้ …
