บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP ALL ได้รายงานผลการดําเนินงานไตรมาส 3 ปี 62 มีรายได้รวม 141,072 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8.2% โดยพระเอกที่ทำรายได้หลัก ก็คือ ‘7-Eleven’ และ ‘สยามแม็คโคร’
ขณะที่ต้นทุนในการจัดจําหน่าย และค่าใช้จ่ายในการบริหารสำหรับไตรมาสนี้รวมอยู่ที่ 28,052 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.2% เนื่องจากการขยายสาขา และค่าใช้จ่ายที่ผันแปรตามยอดขาย อาทิ ค่าบริการงานร้านสะดวกซื้อ , ค่าโฆษณาและส่งเสริมการขาย , ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการลงทุนในต่างประเทศของสยามแม็คโคร ฯลฯ
สำหรับรายได้ 9 เดือนของปีนี้พบว่า CP ALL มีรายได้รวม 423,184 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากรายได้ของการขายสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น 9.3% ส่วนสัดส่วนรายได้นั้น 66% มาจากธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ‘7-Eleven’ และ 34% มาจากธุรกิจค้าส่งแบบชำระเงินสดและบริการตัวเอง ‘สยามแม็คโคร’ ขณะที่กําไรสุทธิอยู่ที่ 16,176 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2%
หากโฟกัสมาที่ธุรกิจที่เป็นพระเอกอย่าง 7-Eleven พบว่า ทำรายได้ในไตรมาส 3 83,229 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6,378 ล้านบาท หรือ 8.3% โดยมียอดขายเฉลี่ยต่อร้านต่อวัน 80,714 บาท ยอดซื้อต่อบิล 70 บาท มีจํานวนลูกค้าเฉลี่ยต่อสาขาต่อวัน 1,153 คน
ส่วนรายได้ 9 เดือนนั้น ทำได้รวม 270,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% มาจากจากรายได้จากการขายสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น
ตามแผนที่วางไว้ ทาง CP ALL ยังคงเดินหน้าขยายตามแผนเดิม คือ จะเปิดให้ครบ 13,000 สาขาภายในปี 2564 โดยไตรมาส 3 ได้เปิดสาขาใหม่ 112 สาขา ส่งผลให้สิ้นไตรมาส 3 มีจํานวนร้านสาขาทั่วประเทศทั้งหมด 11,640 สาขา แบ่งเป็นบริหารเอง 5,249 สาขา และแฟรนไชส์ 6,391 สาขา