สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจหลายธุรกิจ โดยเฉพาะกับธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งดูท่าจะอาการหนัก หากการระบาดยังลากยาว
นับตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสโคโรนา รัฐบาลจีนก็ได้ออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อคุมการระบาดของโรค หนึ่งในนั้นคือ ออกคำสั่งห้ามบริษัททัวร์นำคนจีนออกไปเที่ยวในต่างประเทศ รวมถึงห้ามจำหน่ายแพ็กเกจท่องเที่ยวที่จัดการเดินทางด้วยตัวเอง หรือ F.I.T.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ‘พิพัฒน์ รัชกิจประการ’ ออกมาประเมินว่า เหตุการณ์ดังกล่าวหากสามารถยุติได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ ภาคการท่องเที่ยวของไทยจะสามารถฟื้นตัวได้ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งจะทำให้ไทยเสียโอกาสในการสร้างรายได้ไป 5 เดือน คิดเป็นมูลค่า 300,000 ล้านบาท
โดยก่อนเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ได้มีการตั้งเป้าหมายของธุรกิจท่องเที่ยวไทยในปี 2563 ไว้ว่า จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด 41.8 ล้านคน สร้างรายได้รวม 3.16 ล้านล้านบาท แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น การไปถึงเป้าหมายที่วางไว้คงไม่ง่าย ซึ่งตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2563 มีนักท่องเที่ยวจีนมาไทย 150,987 คน ขณะที่ช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมามีจำนวน 383,101 คน รวมถึงนักท่องเที่ยวชาติอื่น ๆ เองก็ชะลอการเดินทางมาไทยด้วยเช่นกัน
ประเมินผลกระทบไว้ 4 สมมุติฐาน
ขณะที่ กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้มีการประเมินผลกระทบที่จีนประกาศหยุดกิจกรรมท่องเที่ยว รวมถึงห้ามจำหน่ายแพ็กเกจท่องเที่ยวแบบ F.I.T. โดยตั้งสมมุติฐานไว้ 4 ช่วง ได้แก่
กรณีที่ 1 จีนห้ามเดินทาง มกราคม-มีนาคม 2563 จะส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนลดลง 1.47-1.98 ล้านคน รายได้หายไป 6.7-9.1 หมื่นล้านบาท
กรณีที่ 2 จีนห้ามเดินทาง มกราคม-เมษายน 2563 จะส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนลดลง 2.16-2.83 ล้านคน รายได้หายไป 0.99-1.3 แสนล้านบาท
กรณีที่ 3 จีนห้ามเดินทาง มกราคม-มิถุนายน 2563 จะส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนลดลง 3.23-4.37 ล้านคน รายได้หายไป 1.48-2.01 แสนล้านบาท
กรณีที่ 4 จีนห้ามเดินทาง มกราคม-กันยายน 2563 จะส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนลดลง 5.21-7.07ล้านคน รายได้หายไป 2.4-3.25 แสนล้านบาท
คลังเสนอมาตราการช่วยธุรกิจท่องเที่ยว
ด้าน กระทรวงการคลัง เองเตรียมจะเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวหลังจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา เช่น มาตรการให้บริษัทห้างร้านถ้ามีการจัดประชุมสัมมนาพนักงานในพื้นที่ในต่างจังหวัด ให้นำค่าใช่จ่ายมาหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า , มาตรการให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว โรงแรม ที่พัก หรือสถานท่องเที่ยวต่างๆ หากมีการปรับปรุงสถานที่ให้ดีขึ้น ก็สามารถนำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษีได้ถึง 1.5 เท่า และรัฐบาลจะมีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารของรัฐกู้เพื่อปรับปรุงเพิ่มเติม เป็นต้น
ที่มา : มติชนออนไลน์ , โพสต์ทูเดย์
.
.