เมื่อเทคโนโลยีการชำระเงินผ่านบัตรรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า คอนแทคเลส (Contactless) หรือการชำระเงินแบบไร้สัมผัส ถือเป็นทางเลือกใหม่ที่มาแรง เพราะแทนที่จะต้องเอาบัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิต ไปรูดด้วยแถบแม่เหล็กอย่างแต่ก่อน ก็ลดความยุ่งยากไปได้ แค่แตะบัตรบนเครื่องชำระเงินในระยะใกล้ ประมาณ 1-2 นิ้ว ก็สามารถจ่ายเงินได้แล้ว โดยไม่ต้องควักบัตรออกมาให้เสี่ยงที่จะสูญหายหรือถูกปลอมแปลงเมื่อเราต้องส่งบัตรไปอยู่ในมือคนอื่น
ถือเป็นเทรนด์ระดับโลกซึ่งเห็นชัดเจนว่า ช่วงที่ผ่านมาบริการบัตรชำระเงินหลายค่ายต่างบุกอย่างหนักด้วยการต่อจิ๊กซอว์ เพิ่มพาร์ทเนอร์ร้านค้า ผู้ให้บริการอื่นๆ ให้หันมาติดตั้งเครื่องรับชำระเงินแบบคอนแทคเลสเพื่อจูงใจผู้บริโภคหันมาใช้บัตรในรูปแบบของคอนแทคเลสให้มากขึ้น
มาสเตอร์การ์ด ก็เป็นอีกหนึ่งค่ายที่โหมหนักทำตลาดคอนแทคเลส ผ่านโซลูชั่น ‘Tap&Go’ มุ่งทำตลาดที่การชำระเงินในโครงข่ายการเดินทาง (Transit Solutions) ซึ่งวันนี้ ประเทศส่วนใหญ่ก็มีระบบรถไฟใต้ดินกันแล้วทั้งนั้น
หากคว้าโอกาสนี้ได้ด้วยจุดเด่นคือการเป็นตัวช่วยให้ผู้ที่จะเดินทางไม่ต้องคอยมานั่งเติมเงินใส่บัตรให้ยุ่งยาก ก็จะเป็นการเพิ่มยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรให้มากขึ้นไปโดยปริยาย เพราะมีการประมาณการว่า ทั่วโลกมีผู้ใช้บริการเกือบ 170 ล้านคนต่อวัน นี่จึงถือเป็นเค้กก้อนโตที่ไม่อาจมองข้ามไปได้
ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนก็คือ ยอดการชำระเงินผ่านบัตรที่เป็นคอนแทคเลสในประเทศอังกฤษที่สูงขึ้นแบบพุ่งพรวดจาก 117 ล้านปอนด์ในปี 2014 ไปอยู่ที่ 3 พันล้านปอนด์ในแค่ 3 ปีถัดมา คือ ค.ศ. 2017 เมื่อระบบรถไฟฟ้าใต้ดินของอังกฤษรองรับการชำระค่าโดยสารผ่านเทคโนโลยีคอนแทคเลส
จึงไม่ต้องแปลกใจถ้าเราจะได้เห็นความพยายามของมาสเตอร์การ์ดที่ไปร่วมจับมือกับโครงข่ายการเดินทางสาธารณะในหลายเมืองใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ลอนดอน ซิดนีย์ แวนคูเวอร์ เกาสฺยง เคียฟ มิลาน ฯลฯ หรือเมื่อเร็วๆ นี้ก็เพิ่งจับมือกับกรมการขนส่งทางบก ประเทศสิงคโปร์ ให้รองรับการชำระเงินแบบคอนแทคเลสผ่าน Tap&Go ทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต โดยระบบจะหักเงินจากบัตรได้เลยอัตโนมัติ
ตัดกลับมาที่ประเทศไทย แม้จะเคยมีการนำร่องความร่วมมือลักษณะนี้มาก่อน โดยเมื่อปลายปี 2561 มาสเตอร์การ์ดได้นำร่องจับมือกับธนาคารกรุงไทย และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม) เปิดตัวบัตรเดบิตในชื่อ “Krungthai Metro Link” ซึ่งเป็นบัตรแมงมุมใบแรกของไทย และมีจุดขายคือ ‘Tap & Go’ ใช้โดยสาร MRT ได้เลยแค่แตะบัตร
เพียงแต่ความต่างกันก็คือ บัตรที่ใช้กับ MRT บ้านเรายังจำกัดเฉพาะบัตรเดบิต Krungthai Metro Link เท่านั้น ขณะที่บริการเดียวกันนี้ในประเทศอื่นๆ ข้างต้น ครอบคลุมทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรเติมเงินที่ถูกออกให้โดยมาสเตอร์การ์ด ไม่ว่าจะเป็นบัตรที่ออกในประเทศไหนก็สามารถแตะเพื่อใช้บริการรถบัสและรถไฟได้ทันที
แถมไม่ใช่แค่ “บัตร” เท่านั้น แต่ยังรวมถึงโมบายวอลเล็ตและอุปกรณ์สวมใส่ที่เชื่อมกับบัตรมาสเตอร์การ์ดก็ทำได้ไม่ต่างกัน
ข้อดีที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ สำหรับนักท่องเที่ยวหรือคนที่เดินทางบ่อยๆ ก็จะหมดปัญหาไปโดยปริยาย ไม่ต้องไปยืนต่อแถวยาวๆ ให้เมื่อย หรือกดซื้อบัตรโดยสารแบบงงๆ ก็จะจบปัญหาไปได้ แค่แตะบัตร ระบบก็จะคิดเงินมาให้เราเอง
แม้ในบ้านเราจะยังมีข้อจำกัดในการใช้บัตร แต่อย่างน้อยก็ยังมีข่าวดี เพราะมาสเตอร์การ์ดออกมาบอกแล้วว่า บัตรดังกล่าวจะถูกเชื่อมกับ Airport Rail Link, รถประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก) และการขนส่งในรูปแบบอื่นๆ ที่อยู่ในระบบโครงข่ายของแมงมุมได้ในเร็วๆ นี้
ส่วนคำถามที่ว่า เทคโนโลยีที่ใครๆ ก็บอกว่าดีอย่างการจ่ายเงินแบบไร้สัมผัสนี้จะเกิดขึ้นจริงอย่างเต็มรูปแบบในบ้านเราได้เมื่อไหร่ ก็ต้องมารอลุ้นกัน!