หลายๆคนคงเคยเจอประสบการณ์แปลกประหลาดที่ “Facebook หรือแอปอื่นๆบนสมาร์ทโฟนของเราจู่ๆ ก็ขึ้นโฆษณาสินค้าที่เกี่ยวกับสิ่งที่เราเพิ่งคุยกับเพื่อนไปเมื่อกี้นี้แบบบังเอิญจนน่าเหลือเชื่อ” กันมาบ้าง ทำให้เราสงสัยกันว่าหรือสมาร์ทโฟนของเราจะดักฟังสิ่งที่เราพูดและนำไปใช้ในการยิงโฆษณามาหาเรากันแน่
และในช่วงวันสองวันนี้ก็เกิดข่าวที่ดูเหมือนจะคอนเฟิร์มในเรื่องนี้ว่ามีบริษัทการตลาดที่ใช้ซอฟท์แวร์ดักฟังเสียงของเราผ่านสมาร์ทโฟน และเอาสิ่งที่ได้ยินนั้นไปใช้ยิงโฆษณา ซึ่งถ้าจริง ก็น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ที่อาจจะผิดกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลด้วยหรือไม่
ข่าวว่ายังไง?
“404 Media” รายงานว่าได้รับเอกสารเป็น Pitch Deck หรือเอกสาร presentation ของบริษัท Cox Media Group ย่อว่า CMG บริษัทด้านการตลาด เป็นเอกสารที่ CMG ใช้ในการอธิบายภาพรวมธุรกิจให้นักลงทุนเข้าใจ ซึ่งที่น่าตกใจก็คือเอกสารระบุว่า CMG ใช้ซอฟท์แวร์ที่ชื่อว่า “Active Listenting” ใช้เทคโนโลยี AI เก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์จากการ “ฟังสิ่งที่เราพูด” ไปใช้กับการโฆษณาให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ เอกสาร Pitch Deck ระบุว่า CMG มีบริษัทเทคใหญ่ๆอย่าง Facebook, Google และ Amazon เป็นลูกค้าจนทำให้กลายเป็นข่าวสร้างความตื่นเต้นไปทั่ว แต่ที่ต้องยืนยันก็คือ “เอกสารของ CMG ไม่ได้บอกว่า Facebook, Google และ Amazon ใช้ซอฟท์แวร์ Active Listening นี้ด้วยแต่อย่างใด”
CMG คือบริษัทอะไร?
CMG คือบริษัทสื่อสัญชาติอเมริกันก่อตั้งขึ้นในปี 2008 มีช่องทีวีอยู่ในมือหลายช่องเช่น ABC, CBS, FOX, NBC และอื่นๆรวม 15 ช่อง มีวิทยุ 50 สถานี และสตรีมมิ่งแพลทฟอร์มจำนวนมาก และหนึ่งในบริการของบริษัทก็คือ Marketing Service และ Digital Advertising ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้แบรนด์สื่อสารไปถึงผู้บริโภคได้อย่างเม่นยำผ่านช่องทางต่างๆ
404 Media น่าเชื่อถือแค่ไหน?
ข่าวนี้ยังไม่มีรายงานในสื่อใหญ่ๆที่น่าเชื่อถืออย่าง CNN หรือ BBC แต่ถูกรายงานโดยสื่อออนไลน์ที่มีชื่อว่า 404 Media สื่อออนไลน์ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปี 2023 นี้เอง โดยจะรายง่ายข่าวเกี่ยวกับเทคโนโลยีและโลกอินเตอร์เน็ตเป็นส่วนใหญ่ เจ้าแรก และมีสื่อที่ระดับความน่าเชื่อถือระดับรองๆลงมารายงานข่าวนี้ต่ออย่างเช่น Daily Mail หรือ New York Post รวมถึงสื่อเทคหลายๆเจ้า เป็นต้นซึ่งก็ต้องบอกว่าต้องฟังหูไว้หู
อย่างไรก็ตาม 404 Media เองก็เคยรายงานข่าวใหญ่แบบ Breaking New มาแล้วก่อนหน้านี้เช่นข่าวที่รายงานว่าเนื้อหาข่าวที่เขียนโดย AI ถูกจัดอันดับให้สูงกว่าเนื้อหาต้นฉบับใน Google Search รวมถึงข่าวของแฟลทฟอร์มใหญ่ๆอย่าง Tumblr และ WordPress ขายข้อมูลให้กับ OpenAI และ Midjourney เพื่อนำไปเทรนด์โมเดล AI เป็นต้น
Facebook ว่ายังไง?
จากรายงานข่าวนี้ Meta บริษัทเจ้าของ Facebook ออกมาปฏิเสธแล้ว โดยยืนยันว่า Facebook ไม่ได้ดักฟังสิ่งที่ผู้ใช้งานพูดผ่านโทรศัพท์มือถือเพื่อนำมาใช้ยิง Ads
“Meta ไม่ได้ใช้ไมโครโฟนจากสมาร์ทโฟนมายิง Ads และเราสื่อสารเรื่องนี้สู่สาธารณะมาหลายปีแล้ว และเราได้แจ้งไปยัง CMG แล้วให้ชี้แจงว่าโปรแกรมของ CMG ไม่ได้ใช้ข้อมูลจาก Meta” Meta ระบุกับ The Byte สื่อเทคภายใต้ Futurism
คำอธิบายของ Facebook ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็พูดมาแล้วหลายปี เช่นเดียวกับ Google และ Apple ที่ก็เคยออกมาอธิบายเรื่องนี้แล้วว่าบริษัทจะไม่ฟังสิ่งที่พูดใช้งานพูดคุยและนำข้อมูลนั้นไปใช้ยิงโฆษณา
สมาร์ทโฟนฟังเราอยู่รึเปล่า?
คำตอบง่ายๆก็คือสมาร์ทโฟนของเรา “ฟังเราอยู่” เพราะสมาร์ทโฟนยุคนี้หลายแบรนด์จะมีระบบ Voice Assistant อย่างเช่น Siri ของ Apple ที่เราสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ทันที เช่นเดียวกับหลายๆแอปที่เปิดใช้งานไมโครโฟนให้ฟังสิ่งที่เราพูดได้ตราบใดก็ตามที่เรากด Agree ในเงื่อนไขตอนที่เราจะ Install แอปพลิเคชั่นในเครื่องเรา
อ้าวนั่นไงตรงนี้รึเปล่าที่ทำให้แอปแอบฟังเราได้? คำตอบก็คือสำหรับคนที่กังวลเรื่องนี้เราก็สามารถปิดการเข้าถึงไมโครโฟนของแต่ละแอปได้ในการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว Privacy Seting ในสมาร์ทโฟนทั้ง Adroid, iOS หรือแม้แต่สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ
Facebook ดักฟังเราจริงหรือ?
การที่เราเห็น Ads โฆษณาที่หลอกหลอนเราไปทั่วโลกอินเตอร์เน็ตนั้น คำอธิบายที่สมเหตุสมผลที่สุดก็คือ Cookies ที่จะถูกเก็บข้อมูลพฤติกรรมของเราตั้งแต่เรากดยอมรับ Cookies ก่อนโหลดหน้าเว็บทำให้ระบบ ยิงโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับเรามากที่สุดมาให้เรานั่นเอง
ในส่วนของ Facebook เองมีวิธีการเก็บข้อมูลที่ซับซ้อนมากๆโดยใช้ข้อมูลด้าน Demographic และ Location มาใช้ในการยิง Ads จนทำให้แม่นยำมากๆ แม่นจนบางครั้งทำให้เรารู้สึกว่า Facebook กำลังดักฟังสิ่งที่เราพูดอยู่รึเปล่า
ฟีเจอร์ทำไมฉันจึงเห็นโฆษณานี้
ถ้าสงสัยว่า Facebook กำลังดักฟังเราอยู่รึเปล่า ทำไมยิง Ads ตัวนี้มาให้เราเห็นเฉยเลย Facebook เองก็มีฟีเจอร์ที่ตอบคำถามนี้ได้ง่ายๆก็คือฟีเจอร์ “Why you’re seeing this ad,” หรือ “ทำไมฉันจึงเห็นโฆษณานี้”
ฟีเจอร์นี้สามารถกดเข้าไปดูได้ที่ “จุดสามจุด” ด้านขวาบนของโฆษณา และในหัวข้อนี้จะมี รายงานพฤติกรรมของเราทั้งหมดที่ทำให้ โฆษณานี้ถูกยิงมาสู่หน้าฟีดของเราอย่างละเอียด นอกจากนี้เรายังสามารถเข้าไปตรวจสอบและจัดการข้อมูลเกี่ยวกับตัวเราที่ Facebook เก็บเอาไว้ได้ และยังสามารถเลือกซ่อนโฆษณาแต่ละอันได้ที่ https://www.facebook.com/privacy/guide/collection/
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลที่สรุปมาให้ที่เกี่ยวข้องกับข่าว “ดักฟัง” ที่ดูเหมือนจะทำให้เราเชื่อได้ว่า สมาร์ทโฟนของเราอาจจะดักฟังสิ่งที่เราพูดอยู่ก็ ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดนี้ก็ต้องใช้วิจารณญาณ พิจารณาถึงความเป็นไปได้ของเทคโนโลยีประกอบกันไปด้วย
Related posts:
IBM เปิดให้ ดาวน์โหลดฟรี คู่มือเทคโนโลยีด้านความยั่งยืนสำหรับผู้บริหาร ครบวงจร สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค
กลุ่มธุรกิจการเงิน ‘แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์’ เผยผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 67 กำไรสุทธิ 891 ล้านบาท เดินหน้ารุกสินเชื่อ SME และสนับสนุน Green Transition Loan
‘MUJI’ เดินหน้าลุยภาคอีสาน ปักหมุดสาขาใหม่ ‘เซ็นทรัลอุดร’ ชูโมเดล ‘Duplex Store’ สาขาแรกนอกกรุงเทพฯ รับนักท่องเที่ยว-กลุ่มกำลังซื้อสูง
N Health เสริมแกร่งธุรกิจสนับสนุนทางการแพทย์ ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี มุ่งยกระดับบริการทางการแพทย์ของไทยให้แม่นยำและฉับไวยิ่งขึ้น
เปิดแนวคิดเบื้องหลังงาน Amazing Green Fest 2024 กับ น้ำฝน บุณยะวัฒน์ รองผู้ว่าฯ ททท. เมื่อการท่องเที่ยวยั่งยืนต้องไม่ใช่แค่เทรนด์
“วิเคราะห์กลยุทธ์ FWD ประกันชีวิต ใช้ Gen AI คู่กับบิ๊กไอเดียใกล้ตัว ย้ำความเป็นผู้นำด้าน Innovation สนับสนุนความเท่าเทียม สู่แคมเปญ “You’re our pride, we’re proud.”
