หลายปีที่ผ่านมามีการรวบรวมข้อมูลจาก Henley Passport Index เกี่ยวกับ #พาสปอร์ตทรงอิทธิพลที่สุดในโลก (The world’s most powerful passports) ซึ่งจัดทำอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2006 และสำหรับปี 2021 ได้สร้างความเซอร์ไพรส์อย่างมาก เพราะประเทศที่ถือพาสปอร์ตที่มีการไต่อันดับเร็วที่สุดในโลก คือ จีน – สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ในครั้งล่าสุดนี้
ถึงแม้ว่า พาสปอร์ตของประเทศ #ญี่ปุ่น จะยังคงอยู่เป็น No.1 มาตลอดหลายปีที่ผ่านมาติดต่อกัน โดยคนญี่ปุ่นสามารถเดินทางไปประเทศจุดหมายปลายได้ถึง 193 จุดหมายปลายทาง
แต่รู้หรือไม่ว่าในปี 2021 ตำแหน่ง #พาสปอร์ตที่ไต่อันดับเร็วที่สุด ตกเป็นของ จีนและ UAE ซึ่งความน่าสนใจอยู่ตรงที่ 2 ประเทศนี้เป็นประเทศที่ไม่ได้มีเสรีในการเดินทางแบบ 100% เหมือนหลายๆ โซน อย่างเช่น ใยุโรป หรือตะวันตก
นักวิเคราะห์ ได้มุ่งมาที่ #จีน เพราะมีนัยยะบางอย่างที่น่าสนใจจากการขึ้นเป็นพาสปอร์ตที่ไต่เร็วที่สุดในครั้งนี้ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เพราะนั้นอาจหมายถึง ความสัมพันธ์ทางการทูตที่ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก เมื่อเปรียบเทียบกับการอนุญาตเดินทางของคนจีนที่ไม่ต้องขอวีซ่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 67 ประเทศ เทียบกับปัจจุบันอยู่ที่ 174 ประเทศ
โดยการถูกจัดให้เป็น the most highest climber (passport) เชื่อว่าจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อภาคธุรกิจในอนาคตด้วย ซึ่งจะทำให้ง่ายขึ้น เพราะดัชนีที่เรียกว่า Ease of doing business index ส่วนหนึ่งในทางอ้อมจะมาจากการพิจารณาของพาสปอร์ตทรงอิทธิพล หรือพาสปอร์ตที่มี movement ค่อนข้างเร็วด้วย
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นคู่ปรับหน้าเก่ากันมานาน ต้องมองว่า การที่จีนได้ตำแหน่งนี้ไปสามารถสร้างความได้เปรียบในแง่ #ภาพลักษณ์ ของประเทศได้ ซึ่งในปี 2021 สหรัฐฯ อยู่เป็นอันดับ 7 ร่วมกับหลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร, สวิตเซอร์แลนด์, เบลเยียม และ นิวซีแลนด์
ดังนั้น นัยยะอีกอย่างหนึ่งที่จะโยงไปถึงการทำธุรกิจได้ ก็คือ ภาพลักษณ์ความเป็นประเทศที่เสรีมากขึ้น, เป็นมิตรกับระหว่างประเทศมากขึ้น เพราะท้ายที่สุดแล้วสามารถสร้างอานิสงส์ใหม่ๆ ขึ้นได้ในอนาคต ไม่ว่าจะการท่องเที่ยว การศึกษา การพัฒนานวัตกรรม รวมไปถึง โครงการพัฒนาวัคซีนร่วมกันในช่วงวิกฤตแบบนี้ด้วย