อยู่ไม่ได้! Google ประกาศ Code Red สั่งเร่งพัฒนา AI ของตัวเองหวั่น ChatGPT โค่น Search Engine

หลังจาก ChatGPT ของบริษัท OpenAI ถูกปล่อยให้คนทั่วไปได้ใช้งานจนกลายเป็นที่พูดถึงในวงกว้างว่า ChatGPT อาจแย่งงานมนุษย์และถึงขั้นอาจโค่นระบบ Search Engine ของ Google ลงไปด้วยได้

ล่าสุดสื่อสหรัฐอเมริการายงานข่าวระบุว่า Google ไม่ได้นิ่งนอนใจล่าสุดประกาศ “Code Red” หรือสัญญาณเตือนสีแดง และมีการสั่งการให้ทีมงานเร่งพัฒนา AI เนื่องจากมองว่า ChatGPT จะกลายเป็นภัยคุกคามกับธุรกิจ Search Engine ของ Google ในอนาคต

The New York Times รายงานว่า Sundar Pichai CEO ของ Google และบริษัทแม่อย่าง Alphabet ได้เข้าร่วมประชุมที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ AI หลายการประชุม และได้สั่งการให้ทีมงานหลายกลุ่มกลับมาให้ความสำคัญกับการตอบโต้กับภัยคุกคามของ ChatGPT ที่มีต่อระบบ Search Engine ของบริษัท โดยเฉพาะฝ่ายวิจัย,ความเชื่อมั่น และความปลอดภัย เป็นหน่วยงานที่ได้รับการสั่งการให้เร่งสนับสนุนการพัฒนาและเปิดตัว AI ตัวต้นแบบและสินค้าที่เกี่ยวข้อง ขณะที่พนักงานบางคนได้รับการสั่งการให้พัฒนา AI ที่สร้างงานศิลปะแบบเดียวกับ DALL-E ของ OpenAI ที่มีการเปิดใช้งานไปก่อนหน้านี้ด้วย

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของ Google มีขึ้นหลังจากบรรดาพนักงานของ Google และผู้เชี่ยวชาญต่างออกมาคาดการณ์ว่า ChatGPT อาจมาแทนที่ระบบ Search Engine ของ Google โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเห็นของ Sridhar Ramaswamy ผู้ที่ดูแลทีมโฆษณาของ Google ระหว่างปี 2013-2018 ก็ออกมาระบุว่า ChatGPT อาจทำให้คนไม่คลิกลิงก์ Google ที่มีโฆษณา บริการที่สร้างรายได้ให้กับ Google ถึง 208 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2021 หรือคิดเป็น 81% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท Alphabet  เลยทีเดียว

ทั้งนี้ ChatGPT เป็น AI Chatbot ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เรียนรู้ข้อมูลในโลกอินเตอร์เน็ตและคุยกับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยหลังจากเปิดตัวได้ไม่กี่วันก็มีผู้ใช้งานทะลุ 1 ล้านคนไปแล้วโดย ChatGPT มีความสามารถหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูล เขียนบทความตามคำสั่ง เขียนกลอน เขียนบทภาพยนตร์ เขียนเพลง ให้คำแนะนำในการเขียนโค้ด และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่ง Margeting Oops! เองก็ได้ทดสอบ ChatGPT กันไปแล้วซึ่งก็สามารถคลิกเข้าไปอ่านเพิ่มเติมกันได้ที่ ทดสอบ ChatGPT เขียนบทความภาษาไทยทำได้ดีแค่ไหน และนักการตลาดใช้ประโยชน์อะไรได้อีกบ้าง

เรียกว่าการเปิดตัวของ ChatGPT สร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการเทคโนโลยีของโลกได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google ที่อยู่นิ่งไม่ได้ต้องขยับตัวพัฒนา AI ของตัวเองเพื่อตามให้ทัน และสถานการณ์นี้ก็ทำให้เห็นอีกครั้งว่า AI จะมามีบทบาทกับชีวิตของมนุษย์ต่อไปอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในโลกธุรกิจที่จะมี AI เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ Digital Transformation ต่อไปในอนาคต