มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจแนวโน้มของธุรกิจ 10 ดาวรุ่ง 10 อันดับดาวร่วง ในครึ่งปีหลังของปี 2558 ชี้ธุรกิจการแพทย์ และความงาม ยังครองอันดับ1 ดาวเด่น ขณะที่ธุรกิจการเกษตรครอง ครองอันดับ 1 ดาวร่วง
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา คุณวาทิตร รักษ์ธรรม อาจารย์ประจำศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เผยผลสำรวจแนวโน้ม 10 ธุรกิจดาวรุ่ง 10 ธุรกิจดาวร่วง ในช่วงครึ่งหลังของปี 2558 มาดูกันว่าในครึ่งปีหลังนี้ ธุรกิจใดจะอยู่ ธุรกิจใดจะไป
“10 อันดับธุรกิจดาวรุ่ง” ครึ่งหลัง ปี 2558
1. ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ สุขภาพและความงาม
เนื่องจากกระแสการให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพและการดูแลความงามมีมากขึ้น รวมถึงการบริการทางการแพทย์และความงามของประเทศไทยมีคุณภาพดี และราคาไม่แพงในสายตาของชาวไทยและชาวต่างประเทศ ผนวกกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ทำให้ในครึ่งหลังของปีนี้ ธุรกิจที่เกี่ยวกับการแพทย์ สุขภาพ และความงามมีแนวโน้มจะรุ่งแน่นอน
2. ธุรกิจนำเที่ยวในประเทศ (Inbound)
จากตัวเลขของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทยอย่างต่อเนื่อง ภาครัฐจึงให้ความสำคัญและสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง เพราะเป็นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวนั้นทำรายได้ให้กับประเทศเป็นมหาศาลในแต่ละปี
3. ธุรกิจโรงแรม และร้านอาหาร
เป็นผลต่อเนื่องจากการที่ภาครัฐให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและธุรกิจ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศเชื่อมโยงกับหลายอุตสาหกรรม รวมถึงความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวในภูมิภาคต่างๆ ของไทย เกื้อหนุนให้ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารเติบโตตาม
4. ธุรกิจบริการการศึกษา
กระแสความต้องการเรียนรู้มากขึ้นสังคมแห่งการเรียนรู้ในโลกยุค IT การเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และการแข่งขันทางด้านการศึกษาหรือการสอบวัดระดับต่างๆ ยังมีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจประเภทนี้จะยิ่งโดดเด่นขึ้นไปอีกในครึ่งปีที่เหลือ
5. ธุรกิจประกันชีวิต/ประกันภัย
ธุรกิจประเภทนี้นับเป็นทางเลือกให้แก่ประชาชน ที่ต้องการลดหน่อยภาษี ให้ผลตอบแทนที่จูงใจให้แก่ผู้ลงทุน การลงทุนของบริษัทประกันชีวิตในธุรกิจอื่นๆ
6. ธุรกิจก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลเพื่อการพัฒนาประเทศ การขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งประเภทที่อยู่อาศัย โรงแรมและพาณิชย์กรรม มีแนวโน้มการขยายตัวไปยังต่างจังหวัด การเข้าสู่ AEC จะส่งผลต่อความต้องการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ เช่น อาคารสำนักงาน โรงงานอุตสาหกรรม ที่พักอาศัย
7. ธุรกิจบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
เมื่อประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ยุค 3G/4G และการพัฒนาระบบการสื่อสารข้อมูลที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ความต้องการใช้ระบบสื่อสารมีจำนวนมากขึ้น
8. ธนาคารพาณิชย์/บ.หลักทรัพย์/บ.จัดการกองทุน
ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยในประเทศอยู่ในระดับต่ำ จะเป็นการช่วยกระตุ้นการออมเงินในรูปแบบของการซื้อหน่วยลงทุน และช่องทางในการช่วยลดหย่อนภาษี
9. ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์
ด้วยความเป็นเมืองที่มีการเติบโต ทำให้ต้องการสินค้าทั้งวัสดุก่อสร้างเพื่อสร้างอาคาร หรือศูนย์การค้า ขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภครวมถึงการบริการการท่องเที่ยว อีกทั้ง การเปิด AEC ทำให้การค้าผ่านแดนขยายตัว การส่งออกสินค้าข้ามแดน ทั้งสินค้าเกษตร วัสดุก่อสร้าง สินค้าสำเร็จรูปเติบโตตามเศรษฐกิจไปด้วย
10.ธุรกิจสื่อออนไลน์/ Digital Content
เมื่อคนส่วนใหญ่อยู่ในโลกดิจิทัล ธุรกิจต่างๆ หันมาใช้สื่อออนไลน์เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ข่าวสารเพื่อให้เกิดการรับรู้ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ธุรกิจ และใช้โฆษณาสินค้าและบริการเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคอยากซื้อ ส่งผลให้ธุรกิจประเภทนี้เติบโตไปอย่างรวดเร็ว
“10 ธุรกิจดาวร่วง” ครึ่งหลัง ปี 2558
1. ธุรกิจเครื่องจักรกลทางการเกษตร และจำหน่ายอุปกรณ์การผลิต
ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ และภัยแล้งจากหลายจังหวัด ทำให้ราคาผลิตผลทางการเกษตรมีแนวโน้มราคาลดลง อุปกรณ์และชิ้นส่วนของไทย มีต้นทุนการผลิตที่สูง และมีคู่แข่งที่สำคัญ คือ จีน ที่มีราคาถูก และจะเป็นคู่แข่งที่สำคัญในตลาดอาเซียน
2. ธุรกิจขายปลีก/ให้เช่าสื่อบันเทิงประเภท CD/DVD
เมื่อไม่นานมานี้ เราได้เห็นข่าวการปิดตัวของร้านเช่า DVD มากมาย นั่นก็เพราะพฤติกรรมที่ผู้บริโภคในการดูหนังเปลี่ยนไป หันพึ่งเทคโนโลยีการดาวน์โหลดผ่านเว็บไซต์ต่างๆ ที่ให้บริการ ง่าย สะดวก และรวดเร็วมากขึ้น และเมื่อต้องเผชิญกับค่าลิขสิทธิ์ ก็ส่งผลทำให้ต้นทุนในการดำเนินงานสูงขึ้น เป็นเหตุให้ธุรกิจประเภทนี้ต้องปิดตัวลง
3. ธุรกิจแปรรูปยางพารา
ทุกวันนี้ผลผลิตยางพาราในตลาดโลกมีมาก และความต้องการยางพาราในโลกยังไม่ฟื้นตัว แม้กระทั่งประเทศจีน ที่ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ของไทยได้ชะลอการนำเข้า เนื่องจากปริมาณสต็อกยางพาราอยู่ในระดับสูง เป็นผลมาจากต้องการลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจในประเทศ
4. ธุรกิจขายรถมือ 1 และเต็นท์รถมือ 2
เมื่อผู้บริโภครู้สึกกังกลเกี่ยวกับค่าครองชีพที่สูง ราคาสินค้าแพง รวมถึงปัญหาหนี้สินครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง สถาบันการเงินก็ต้องระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ ทำให้การอนุมัติสินเชื่อมีสัดส่วนที่ค่อนข้างต่ำ
5. ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์/จักรยานยนต์ (Leasing)
ต่อเนื่องจากธุรกิจขายรถมือ 1 และเต็นตท์รถมือ 2 ความกังกลของผู้บริโภคก็ยังคงส่งผลอยู่เหมือนเดิม ทำให้ธุรกิจประเภทนี้ไปได้ไม่สวยนัก
6. ธุรกิจปั๊ม LPG
เนื่องด้วยราคาน้ำมันในตลาดโลก และในประเทศปรับตัวลดลง ส่งให้ประชาชนผู้ใช้รถหันไปใช้บริการน้ำมันเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
7. ธุรกิจติดตั้งแก๊ส LPG
ขนาดผู้บริโภคยังไม่กล้าซื้อรถ แม้ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับตัวลดลง การติดตั้งแก๊สก็ยังไม่เกิดอยู่ดี
8. ธุรกิจสายการบินแบบเช่าเหมาลำ (Charter Flight)
ทราบหรือไม่ว่า ประเทศไทยถูกประเมินว่า พบข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (Significant Safety Concerns: SSC) เกี่ยวกับกระบวนการรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศการประกาศของ ICAO รวมถึงบางประเทศก็ไม่อนุญาตให้สายการบินทำการบินแบบเช่าเหมาลำ (Charter Flight) และอาจเพิ่มจำนวนประเทศขึ้นอีก
9. ธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง
มีผลมาจากมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี เช่น ปัญหาการค้ามนุษย์ ปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ปัญหาสหภาพยุโรปตัดสิทธิพิเศษทางภาษี เป็นต้น
10.ธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
เมื่อมีความกังกลเกี่ยวกับค่าครองชีพที่สูง ราคาสินค้าแพง กำลังซื้อของประชาชนยังคงชะลอตัว ต้นทุนการผลิตในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าของไทยแข่งขันได้ค่อนข้างลำบากเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
ที่มา ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย