กว่าจะเป็น ‘น้ำพริกแคบหมูยายน้อย’ ตำนาน Bully Marketing เพจขายน้ำพริกคอนเทนต์สุดปัง ที่สินค้าอื่นอยากทำโฆษณาด้วย

ปัจจุบัน เราได้เห็นสีสันการทำตลาดในหลากหลายรูปแบบเพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก แต่หากพูดถึงแนว Bully Marketing คงต้องบอกว่ามีไม่กี่แบรนด์ที่จะประสบความสำเร็จ ถึงขนาดถูกยกให้เป็นตำนานแห่ง Bully Marketing ได้เหมือนกับ เพจน้ำพริกแคบหมูยายน้อย

หากใครเป็นแฟนของเพจดังกล่าวหรือเคยเห็นไวรัลการขายสุดฮาผ่านตามาก่อน คงจำได้ว่าแต่ละคอมเมนต์ในเพจน้ำพริกแคบหมูยายน้อยนั้น แทบไม่มีใครชื่นชมหรือพูดถึงความอร่อยโดน แต่กลับเต็มไปด้วยคอมเมนต์สุดฮา ชนิดที่เรียกว่ามีแต่แฟน ๆ เข้าเพจไปนั่งเสพความบันเทิงจากคอมเมนต์ที่ลูกเพจพากันมาขายขำแบบไม่มีใครยอมใคร

ประเด็นนี้ คุณเบียร์ – ศรัญญู เพียรทำดี ผู้ก่อตั้ง บริษัท น้ำพริกยายน้อย จำกัด ได้เปิดเผยไอเดียการทำตลาดแบบ Bully Marketing ว่า นอกจากงานประจำด้าน Logistic ที่ทำมาตั้งแต่เรียนจบ เมื่อปี 2018 ได้เริ่มโพสต์ขายน้ำพริกฝีมือคุณแม่ผ่าน Facebook ส่วนตัว โดยมีเพื่อน ๆ พากันเข้ามาแซวโพสต์ดังกล่าวด้วยสไตล์ฮา ๆ จึงนำไปโพสต์ในเพจ Buffalo Gags ที่เป็นแอดมินมาตั้งแต่ปี 2010 ซึ่งกลายเป็นที่ถูกอกถูกใจได้ยอดไลค์ยอดแชร์หลายหมื่นครั้ง และเป็นจุดเริ่มต้นให้แบรนด์กลายเป็นที่รู้จักในคนหมู่มากที่ไม่ใช่แค่เพื่อนบน Facebook ส่วนตัว และมีออเดอร์ซื้อน้ำพริกมากขึ้น

คอนเทนต์ถูกจริต สร้างรายได้มากกว่าแค่ขายน้ำพริก

คุณเบียร์ อธิบายว่า อาจเพราะ Bully Marketing เป็นเรื่องใหม่เมื่อหลายปีก่อน กับการที่มีคนเข้ามาแซวแบรนด์ ด้วยมุกฮา จึงตัดสินใจทำเพจน้ำพริกแคบหมูยายน้อยในปี 2020 ซึ่งหลังจากเปิดเพจ ปรากฎว่าได้คอนเทนต์จากลูกค้ามาต่อยอดความฮาอีกมากมาย ทั้งจากคอมเมนต์ขำ ๆ ภาพฮา ๆ กลายเป็นคอนเทนต์จากลูกค้าช่วยต่อยอดความสนุกให้แบรนด์โดยไม่ต้องบอกให้ลูกค้าทำ ขณะที่ เพจก็ต่อยอดด้วยการหยิบไวรัลต่าง ๆ มาครีเอทีฟให้ Related กับแบรนด์ กลายเป็นมีม เป็นโพสต์ต่าง ๆ ด้วย

“เราลงคอนเทนต์ทุกวัน วันละคอนเทนต์ ต้องบอกว่าตอนแรกทำเพราะความสนุกล้วน ๆ ไม่ได้คิดว่าจะทำเป็นอาชีพ จนวันนี้กลายเป็นมีรายได้จากงานโฆษณาสินค้าอื่นเข้ามาด้วย เป็นผลพลอยได้มากกว่าแค่การขายน้ำพริกผ่านเพจ”

ไวรัลแรก กับการขอไอเดียลูกเพจ

คุณเบียร์ เล่าว่า จุดเริ่มต้นมาจากการโพสต์ขอความเห็นจากลูกเพจ ให้ช่วยกันคิดสโลแกนสำหรับทำป้ายไวนิลเพื่อใช้ในการออกบูธครั้งแรกของทางร้าน แต่กลายเป็นไวรัลแรกของเพจน้ำพริกแคบหมูยายน้อย เพราะมีคนแชร์ประมาณ 30,000 ครั้ง และคอมเมนต์อีก 20,000 ครั้งที่เข้ามาขายไอเดียฮาให้น้ำพริกยายน้อย จนทำให้จากที่ต้องการสโลแกนแค่ประโยคเดียว กลายเป็นต้องใส่ 20 – 30 สโลแกนลงไปบนไวนิล

“จากวันที่มีไวรัลป้ายไวนิล เราก็ยังทำเหมือนเดิมทุกวัน คือ โพสต์ไปเรื่อย ๆ ทุกวัน อย่างน้อยวันละคอนเทนต์ จนทำให้วันนี้เพจมีผู้ติดตามราว 250,000 คน เชื่อว่าผลลัพธ์นี้มาจาก 3 ไอเดีย คือ หาตัวเองให้เจอ – ลงมือทำอย่างเต็มที่ – ทำให้สม่ำเสมอ เพราะหลังจากที่ผมถามตัวเองว่านี่ใช่ตัวตนที่ค้นหาหรือยัง จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำเมื่อ พ.ค. ที่ผ่านมา และหันมาลงแรงอย่างเต็มที่กับเพจน้ำพริกแคบหมูยายน้อย ทั้งคิดคอนเทนต์และทำธุรกิจ ซึ่งหลังจากนั้นแค่เดือนเดียวก็มีรายได้เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว”

แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่ใช่แค่คอนเทนต์ดี เพราะสิ่งสำคัญ คือ ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำให้เพจของเราอยู่บนหน้าฟีดของลูกเพจ ยกตัวอย่าง ลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาซื้อน้ำพริก พบว่าหลายคนเป็นคนที่เราเคยคุยกันมาก่อนหน้าแล้ว บางคนเคยคุยกันนานหลักปีกว่าที่เขาจะติดต่อมาสั่งน้ำพริก เรื่องนี้สะท้อนว่าเรายังคงเป็นเพจที่อยู่บนหน้าฟีดของพวกเขา แม้เขาจะไม่ได้ซื้อสินค้าเราตั้งแต่วันแรกแต่ถ้าเรายังอยู่บนฟีดเขาแล้ว ยังไงวันหนึ่งเขาก็จะกลับมาสั่งซื้อสินค้ากับเรา

จากวันที่คุณเบียร์ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เมื่อ พ.ค. 2021 และจดทะเบียนบริษัท น้ำพริกยายน้อย จำกัด เมื่อ มิ.ย. 2021 ก็สามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 2 ล้านบาท ภายใน 5 เดือนที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมีโปรดักท์ 3 ชนิด คือ น้ำพริกแคบหมูยายน้อย ที่เป็นจุดเริ่มต้น ก่อนจะต่อยอดเป็น น้ำพริกปลาทูฟู และ น้ำพริกกุ้งเสียบ เพื่อตอบโจทย์คนที่ไม่กินหมู

ออร์แกนิคล้วน! ไม่เคยบูสโพสต์คอนเทนต์

น่าสนใจที่ยอดผู้ติดตาม ยอด Engagement ที่เกิดขึ้นกับเพจน้ำพริกแคบหมูยายน้อยเป็นออร์แกนิคทั้งหมด โดย คุณเบียร์ มองว่า คอนเทนต์ = อะไรก็ได้ที่เราโพสต์ แม้จะต้องวัดว่าจะถูกใจลูกเพจหรือไม่แต่สิ่งสำคัญคือต้องโพสต์อย่างสม่ำเสมอทุกวัน ก็จะเห็นผลเอง

ส่วนไอเดียการเปิดเพจก็เหมือนเป็น การหาคนที่มีเคมีเดียวกัน พูดคุยภาษาเดียวกัน มาอยู่กับเรา แต่เราก็ต้องทำความเข้าใจกับพวกเขาด้วยว่าชอบอะไรเพื่อทำให้เราได้คิดหาคอนเทนต์ที่ตรงใจพวกเขา ซึ่งหลังจากทำมาระยะหนึ่งก็พบว่า ลูกเพจชอบเข้ามาคุยกันเล่นอยู่เสมอแม้ว่าเราจะไม่ได้เข้าไปร่วมคุยด้วย ดังนั้น เราจึงสามารถเปิดหัวข้อให้พวกเขาได้เข้ามาพูดคุยกันเอง เพื่อทำให้เพจน้ำพริกแคบหมูยายน้อยเป็นพื้นที่ที่พวกเขาอยากเข้ามา

นอกจากนี้ เพจน้ำพริกแคบหมูยายน้อยพยายามรักษาจุดเด่นความสนุกสนานโดยเป็นแอดมินที่ตอบแชทเองทุกข้อความ เพราะการคุยกับลูกเพจถือเป็นจุดเด่นที่ทำมาตั้งแต่แรก ลูกเพจรู้สึกว่าได้คุยกับเพื่อน ดังนั้น แม้จะเป็นขั้นตอนการสั่งซื้อ ก็จะมีการเล่นมุข ตบมุขกัน คุยกันก่อนปิดการขาย แม้จะต้องใช้เวลามากขึ้นแต่ก็สามารถทำได้ เพื่อทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้เข้ามาสนุกสนานกับเราตามเอกลักษณ์ของเพจ

“การสร้างจุดเด่นให้น้ำพริกยายน้อย เราไม่ได้คิดถึงคู่แข่ง แต่คิดถึงลูกค้าหรือลูกเพจเป็นหลักว่าพวกเขาต้องการอะไร แล้วให้ความสำคัญกับสิ่งที่ลูกค้าส่วนใหญ่ชื่นชอบ เช่น ต่อยอดโปรดักท์ให้ลูกค้าทุกคนสามารถกินได้ ไม่ได้มีแค่หมู เพราะส่วนตัวมองว่าการโฟกัสคู่แข่งไม่ได้มีประโยชน์กับลูกค้า ส่วนกลยุทธ์ด้านสินค้าและราคา เราก็พยายามคิดแบบไม่ตายตัว ทำสินค้าให้อยู่ได้ก่อนแล้วค่อยขยายใหม่ และกำหนดขายราคาอย่างเหมาะสม”

ถ้ามีไอเดีย ต้องจด…เป็นสต็อกในวันสมองตัน

คุณเบียร์ ยอมรับว่า เป็นเรื่องปกติของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่จะมีวันที่สมองตันกับสมองแล่น ดังนั้น วันไหนที่คิดคอนเทนต์ได้ดีก็จะรีบจดไอเดียเป็นสต็อกเอาไว้ แต่ถ้าวันไหนมีไวรัลเด็ด ๆ ก็จะต้องรีบครีเอทคอนเทนต์ออกมาอิงกระแสก่อน

“การที่เราเป็นเพจขายน้ำพริก แต่มีลูกค้าแบรนด์อื่นเข้ามาลงโฆษณากับเราด้วย ยอมรับว่าแรก ๆ ลูกเพจก็อาจจะสับสน แต่เมื่อเราชัดเจนทางไอเดียว่าทุกคอนเทนต์ยังเชื่อมโยงกันกับน้ำพริกยายน้อย เทคนิคคือเราจะให้น้ำหนักกับสินค้าของลูกค้าเป็นหลักและให้น้ำพริกเป็นตัวรอง จึงไม่ได้ทำให้ลูกเพจ Engage กับคอนเทนต์ของเราน้อยลงมากแม้จะเป็นโพสต์งานโฆษณาก็ตาม”

มั่นใจแนวทาง Bully Marketing ไม่มีทางตัน!

คุณเบียร์ บอกอย่างมั่นใจว่า เพจน้ำพริกแคบหมูยายน้อยไม่มีทางตันเพราะเราเป็นเหมือนเพจตลกเพจหนึ่ง ซึ่งพิสูจน์จากการทำเพจ Buffalo Gags ที่ทำมาเป็น 10 ปีแล้วก็ยังไปต่อได้อยู่ แต่ส่วนของโปรดักท์ก็จะมีการต่อยอดไปอีกหลายส่วน เช่น ทำโปรโมชัน, Live ขายของ เป็นต้น

ส่วนช่องทางขาย จากช่วงแรกที่ขายผ่าน Facebook มาตลอด เพิ่งขยายไปบน Shopee เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ฐานลูกค้าขยายใหญ่ขึ้นเนื่องจากแอปมีการทำโปรโมชัน โดยอนาคตอาจขยายช่องทางขายสู่ TikTok และเน้นการออกบูธ อีเวนท์ มากขึ้นเพื่อเพิ่มช่องทางขายและได้พายายน้อยไปเจอลูกค้าด้วยตัวเอง ได้สร้างปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น

สำหรับแพลนปี 2022 ต้องการทำให้น้ำพริกแคบหมูยายน้อยไปไกลกว่าการเป็นสินค้าโฮมเมด โดยยังคงคุณภาพสินค้าให้เป็นมาตรฐานที่ลูกค้าชื่นชอบ อาจเน้นการยืดอายุให้น้ำพริกสามารถเก็บรักษาได้นานยิ่งขึ้น มีการจัดสร้างโรงงาน และได้รับ อย. ซึ่งในเร็ว ๆ นี้ จะนำเทรนด์กล่องสุ่มมาทำเป็น ‘กล่องเสี่ยง’ ให้ลูกค้าได้ซื้อเป็นของขวัญต้อนรับปีใหม่

“กับเวลา 15 ปี ที่เป็นพนักงานประจำ ผมก็ใช้เวลาค้นหาตัวเองนานแต่ก็เจอ ทุกคนก็สามารถค้นหาตัวเองได้ด้วยวิธีง่าย ๆ  คือ ถ้าทำงานแล้วคุณรู้สึกไม่ฝืน ไม่รู้สึกว่ากำลังทำงาน แปลว่านั่นคือตัวตนของคุณ เหมือนกับที่ผมทำคอนเทนต์บนเพจน้ำพริกแคบหมูยายน้อยอยู่ทุกวันนี้ อยากบอกว่า ถ้าเราไม่กล้าลองเราก็จะไม่รู้เลยว่าอะไรคือความสำเร็จ แต่ความกล้านั้นต้องมั่นใจด้วยว่าเป็นโอกาสของคุณจริง ๆ อย่าลองโดยที่ไม่มีโอกาสรออยู่”

ที่มา: Adman Awards & Symposium 2021: Thai Creativity Day 2021 วันความคิดสร้างขลัง: รวย รู้ รอด เร็ว