Xiaomi ยกทัพผลิตภัณฑ์ต้อนรับต้นปีใหม่และตรุษจีน เปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่ล่าสุดในตระกูล Redmi Note 11 Series สมาร์ทโฟนกลุ่มตลาดระดับกลางถึง 4 รุ่น พร้อมสเปกขั้นเทพเทียบชั้น Hi-end นอกจากนี้ยังขนกองทัพผลิตภัณฑ์ AIoT อีกมากมาย นำโดย Xiaomi TV Q1E 55”, Xiaomi Air Purifier 4 Series, Mi Robot Vacuum – Mob 2 Series และ Redmi Buds 3 Lite มอบความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรมของ Xiaomi Ecosystem
เป็นที่ทราบกันว่า นอกจากตลาดสมาร์ทโฟนระดับ Hi-end ที่มีความต้องการสูง กลุ่มตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลาง (Mid Range) ก็เป็นอีกกลุ่มที่มีความต้องการสูงเช่นกัน เนื่องจากมีผระสิทธิที่ภาพใก้เคียงกับรุ่น Hi-end แต่มีราคาที่ถูกกว่า โดย Xiaomi ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่มีกลุ่มแฟนคลับ (Mi Fan) ทั่วโลก ต้องออกมายอมรับถึงคุณสมบัติเทียบชั้นระดับ Hi-end และฟีเจอร์อื่นๆ ที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน
โดย Xiaomi ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่ล่าสุด Redmi Note 11 Series ถึง 4 รุ่นทั้ง Redmi Note 11 Pro 5G, Redmi Note 11 Pro, Redmi Note 11S และ Redmi Note 11 มาพร้อมกับสเปกกล้องที่สูงขึ้น ความรวดเร็วในการชาร์จที่ไวขึ้น หน้าจอที่คมชัดขึ้น และชิปเซ็ต SoC ใหม่ล่าสุดที่ผสมผสานอย่างลงตัวเป็นสุดยอดสมาร์ทโฟนแห่งยุค
กล้องเทพเพื่อการถ่ายภาพ
กล้องกลายเป็นฟีเจอร์สำคัญของสมาร์ทโฟนไปปล้ว โดยในรุ่น Redmi Note 11 Pro 5G, Redmi Note 11 Pro และ Redmi Note 11S มาพร้อมกับกล้องหลักความละเอียดสูงมากถึง 108MP และเซนเซอร์หลักที่ทำให้คุณสามารถบันทึกภาพและแชร์ช่วงเวลาต่างๆ ด้วยไฟล์คมชัดสมจริงแบบไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน สมาร์ทโฟนทั้งสามรุ่นยังใช้เซนเซอร์ขนาด 1/1.52” ที่มีกล้องหลักที่ใช้เทคโนโลยีรวมเม็ดพิกเซลแบบ 9-in-1 อีกทั้งยังใช้ Dual native ISO เพื่อให้ภาพที่คมชัดสีสันสดใส แม้อยู่ท่ามกลางสภาวะที่มีแสงน้อย
มาพร้อมกับเลนส์พิเศษ 2 แบบ ทั้งแบบอัลตร้าไวด์ที่กว้างถึง 118 องศาจะทำให้ผู้ใช้งานสามารถเก็บภาพได้ครบทุกมุมทุกบรรยากาศ และแบบมาโครระดับ 2MP ที่จะทำให้ทุกการถ่ายภาพระยะใกล้แจ่มชัดยิ่งกว่าครั้งไหนๆ นอกจากนี้เซนเซอร์ขนาด 2MP ที่อยู่ใน Redmi Note 11 Pro, Redmi Note 11S และ Redmi Note 11 ยังสามารถทำให้ภาพถ่ายคนทุกภาพดูมีมิติสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญยังมาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 16MP ที่ให้ภาพคมชัดทุกการเซลฟี่
หน้าจอคมชัดและความบางสุดล้ำ
Redmi Note 11 Series ยังมาพร้อมกับหน้าจอที่ให้อัตรา Refresh Rate สูงถึง 120 Hz และอัตรา Touch Sampling Rate สูงถึง 360 Hz ที่ช่วยสร้างประสบการณ์การใช้งานแบบลื่นไหลไร้สะดุดด้วยระบบสัมผัสที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ หน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว และ 6.43 นิ้วของสมาร์ทโฟนซีรีส์นี้ เป็นรูปแบบ FHD+ AMOLED DotDisplay ที่ DCI-P3 Wide Color Gamut สุดเทพ พร้อมปลดปล่อยทุกสีสันคมชัดสดใส โดยมีค่าความสว่างมากถึง 1200 nit เพื่อให้มั่นใจได้ว่าแม้เจอสภาวะแสงจ้าระหว่างวัน หน้าจอก็จะยังให้ความคมชัดอยู่เสมอ
ความอลังการสุดล้ำเหล่านี้ถูกบรรจุอยู่ภายใต้ดีไซน์คอนเซ็ปต์แบบขอบแบนล้ำสมัย ตัวเครื่องยังมีลำโพงคุณภาพสูงถึงสองตัวติดอยู่ที่บริเวณด้านหัวและด้านท้ายเครื่องเพื่อยกระดับประสบการณ์รับชมความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหรือรับชมวิดีโออย่างเพลิดเพลิน
ประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็ว
สำหรับในรุ่น Redmi Note 11 Pro 5G มาพร้อมกับการทำงานเหนือประสิทธิภาพด้วยชิปเซ็ตประมวลผลแบบ Snapdragon® 695 เทคโนโลยีระดับแฟล็กชิป 6nm แบบ octa-core ที่ให้ประสบการณ์การใช้สัญญาณ 5G ที่แรงและล้ำกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นไหนๆ ด้วยความเร็วสัญญาณ CPU สูงถึง 2.2 GHz นอกจากนี้ในรุ่น Redmi Note 11 Pro และ Redmi Note 11S ยังพร้อมยกระดับการแข่งขันด้วยชิปเซ็ตประมวลผลทรงพลังจาก MediaTek Helio G96 ซึ่งเป็นระบบ octa-core เช่นกันและมี RAM สูงถึง 8 GB
ไม่เพียงเท่านี้ ในรุ่น Redmi Note 11 คือสมาร์ทโฟนที่ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon® 680 ระบบประมวลผลคุณภาพระดับแฟล็กชิป 6nm ที่พร้อมทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพและยังประหยัดพลังงานได้ในคราวเดียวกัน โดยสมาร์ทโฟนทั้ง 4 รุ่นนี้ สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh และเทคโนโลยีการชาร์จแบบ 67W Turbo Charging ในรุ่น Redmi Note 11 Pro 5G และ Redmi Note 11 Pro ช่วยให้สามารถชาร์จแบตระดับ 50% แค่ 15 นาที ขณะที่ในรุ่น Redmi Note 11S และ Redmi Note 11 สามารถชาร์จได้เต็ม 100% ภายในระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
ปิดท้ายด้วยทัพ AIot
นอกจากนี้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่แล้ว Xiaomi ยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ AIoT ที่จะมาช่วยยกระดับความสะดวกสบายของชีวิตและเติมเต็ม Xiaomi Ecosystem อีกทั้งหมด 4 ผลิตภัณฑ์ด้วยกัน ได้แก่ Xiaomi TV Q1E 55” สมาร์ททีวีใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับความคมชัดระดับ 4K อีกทั้งยังมีระบบเสียงคุณภาพสูงเปรียบเสมือนการรับชมความบันเทิงในโรงภาพยนตร์
Xiaomi Air Purifier 4 Series เครื่องกรองอากาศดีไซน์มินิมอลจากเสียวหมี่ที่มีประสิทธิภาพในการกรองอากาศสูงถึง 99.97% มาพร้อมกับระบบเซนเซอร์ความแม่นยำสูงเพื่อตรวจจับ PM 2.5 และมลพิษทางอากาศในรูปแบบต่างๆ อีกทั้งยังสามารถผลิตไอออนประจุลบเพื่อทำให้คุณภาพอากาศภายในห้องสะอาด สดชื่น และบริสุทธิ์มากขึ้นอีกด้วย
Mi Robot Vacuum – Mob 2 Series สามารถทำความสะอาดพื้นห้องของผู้ใช้ได้อย่างสะอาดและแม่นยำในทุกๆ ตารางเมตร ทำให้ห้องของผู้ใช้สะอาดปราศจากสิ่งสกปรกในทุกๆ มุมห้อง รวมถึง Redmi Buds 3 Lite นอกจากนี้ยังสามารถรองรับระบบการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant และ Amazon Alexa อีกด้วย
สำหรับรุ่น Redmi Note 11 Pro 5G และ Redmi Note 11 Pro จะวางจำหน่ายในประเทศไทยเร็วๆ นี้ และในรุ่น Redmi Note 11S และ Redmi Note 11 จะวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ Xiaomi Store ทุกสาขาและร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม โดยรุ่น Redmi Note 11S ความจุ 8GB+128GB เปิดตัวที่ 8,299 บาท ขณะที่รุ่น Redmi Note 11 ความจุ 6GB+128GB เปิดตัวที่ 6,999 บาท และรุ่นความจุ 4GB+128GB เปิดตัวที่ 6,299 บาท พิเศษ สำหรับผู้ที่ซื้อในวันที่ 5 – 28 กุมภาพันธ์ 2565 รับทันที Xiaomi Canvas Tote Bag มูลค่า 590 บาท