ในยุคที่ร้านสะดวกซื้อมีอยู่ทุกตรอกซอกซอย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ร้านโชห่วย หรือร้านค้าข้างบ้าน จึงต้องเข้มแข็งให้ได้มากที่สุด เมื่อดูจากพฤติกรรมผู้บริโภค ที่มักจะซื้อของใช้ในบ้านจากร้านใกล้บ้าน แทนการไปห้างสรรพสินค้าหรือซูเปอร์มาร์เก็ต ทางรอดของโชห่วยจึงอยู่ที่เซอร์วิสมายด์ ความเข้าใจในตัวลูกค้า รู้ว่าสินค้าแบบไหนที่ตอบโจทย์ชุมชนจริงๆ
หนึ่งในพันธกิจของยูนิลีเวอร์ทั่วโลกคือ การทำธุรกิจอย่างยั่งยืนเพื่อให้คู่ค้าอยู่ได้ “ร้านติดดาว” จึงเป็นหนึ่งในโมเดลธุรกิจที่ยูนิลีเวอร์ประเทศไทยให้ความสำคัญมาโดยตลอด เพราะเป็นการเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าของยูนิลีเวอร์ ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น และยังช่วยให้คู่ค้ามีรายได้เพิ่มขึ้น ปัจจุบันยูนิลีเวอร์มีร้านติดดาวทั้งสิ้น 10,500 ร้านทั่วประเทศ
เสริมศักยภาพการทำธุรกิจให้ร้านโชห่วยในชุมชน
โครงการร้านติดดาวเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2555 เป็นหนึ่งในแผนการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืน (Unilever Sustainable Living Plan: USLP) เพื่อพัฒนาร้านค้าปลีกและร้านโชห่วย ให้มีศักยภาพในการทำธุรกิจ ด้วยการนำความรู้ในการบริหารจัดการเข้ามาช่วยร้านค้า อาทิ การจัดวางสินค้า การทำโปรโมชั่น การบริการ เป็นต้น โดยร้านที่จะเข้าร่วมโครงการต้องผ่านเกณฑ์ 3 ข้อ ได้แก่ 1.ร้านอยู่ในทำเลที่ดี หรือในย่านชุมชน 2. มีกลุ่มสินค้ามากกว่า 14 กลุ่ม และ 3. เจ้าของร้านต้องให้ความร่วมมือ นอกจากนี้ สินค้าที่จำหน่ายในร้าน ไม่จำเป็นต้องเป็นของยูนิลีเวอร์ทั้งหมด เจ้าของร้านสามารถนำสินค้าท้องถิ่น หรือแบรนด์อื่นมาจำหน่ายได้
เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ลงมือทำจริง ผ่านโครงการ เดอะ มาสเตอร์
หลังจากทำต่อเนื่องมา 5 ปี ยูนิลีเวอร์ได้นำความรู้มาต่อยอดเป็นหลักสูตรการเรียนรู้ โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย ผ่านโครงการ “เดอะ มาสเตอร์” เพื่อให้นักศึกษาได้ลงมือปฏิบัติในสนามจริง ตลอดจนเสริมสร้างรายได้พิเศษ ด้วยการลงพื้นที่พัฒนาร้านโชห่วยให้เป็นร้านติดดาวที่เป็นศูนย์กลางของชุมชนที่ช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพและราคาคุ้มค่าสำหรับทุกคนในทุกวัน พร้อมช่วยเสริมศักยภาพทางธุรกิจและขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนของร้านติดดาว ทั้งนี้ ในจังหวัดเชียงใหม่มีร้านติดดาวจากโครงการ 30 ร้าน เติบโตขึ้น 40% และจังหวัดเชียงราย 40 ร้าน เติบโตขึ้น 43%
หน้าที่ของน้องๆ นักศึกษาคือการยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนอย่างรอบด้านและยั่งยืน ปรับปรุงร้านโชห่วยแบบเดิมๆ ให้เป็นร้านที่มีความทันสมัย พร้อมแนะนำโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะร้านติดดาว การสะสมแต้มเพื่อแลกของรางวัลสำหรับสมาชิก ฯลฯ ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขาย และดึงดูดลูกค้าให้มากขึ้น เรามีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมร้านกัสจัง ในจ.เชียงใหม่ ทางเจ้าของร้านบอกกับเราว่า หลังเข้าร่วมโครงการ ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
1 หมู่บ้าน 1 ร้านติดดาว ตั้งเป้าเพิ่ม 10% ต่อปี
ปัจจุบันยูนิลีเวอร์มีร้านติดดาวทั้งสิ้น 10,500 ร้านทั่วประเทศ และยอดซื้อที่ร้านค้าซื้อสินค้าจากศูนย์จัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 12% เป้าหมายต่อไปของยูนิลีเวอร์อยู่ที่ 1 หมู่บ้าน 1 ร้านติดดาว เมื่อดูจากตัวเลขจำนวนหมู่บ้านทั่วประเทศที่มี 74,965 หมู่บ้าน ยังเห็นโอกาสที่จะเติบโตเพิ่มได้อีกมาก คุณอภิชาติ ศาลิคุปต รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายพัฒนาลูกค้า บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เผยว่า ยูนิลีเวอร์ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนร้านติดดาวไว้ที่ 10% ต่อปี
อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการร้านติดดาว ต้องบอกว่า Win-Win ทั้งยูนิลีเวอร์และร้านค้า ทางฝั่งยูนิลีเวอร์ก็ได้เพิ่มช่องทางการขาย กระจายสินค้าไปสู่ชุมชน ทางฝั่งร้านค้าก็ได้พัฒนาร้านให้รองรับความต้องการ และเพิ่มยอดขายอีกด้วย
