ไรด์ แชริ่ง (Ride-Sharing) ถือได้ว่าเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง หากกล่าวถึงไรด์ แชริ่งให้เข้าใจง่าย ๆ คือ การใช้รถร่วมกัน ออกค่าเดินทางร่วมกัน เพื่อไปยังจุดหมายต่าง ๆ นั่นเอง โดยแนวคิดนี้ริเริ่มจากการที่มีประชากรใช้ยานพาหนะบนท้องถนนมากเกินไป ส่งผลให้เกิดปัญหาจราจรแออัดตามมา ซึ่งไรด์ แชริ่งจะเข้ามาช่วยขจัดปัญหาเหล่านี้ ปัจจุบันมีหลายประเทศได้นำมาปรับใช้กับระบบขนส่งมวลชนแบบเป็นรูปประธรรมแล้ว ส่วนในประเทศไทยก็กำลังขับเคลื่อนเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน
ล่าสุด อูเบอร์ ประเทศไทย (Uber) ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มแอปพลิเคชั่นเกี่ยวกับไรด์ แชริ่ง ผนึกกำลังกับ HOWA Taxi สหกรณ์แท็กซี่สุวรรณภูมิ เปิดตัวบริการใหม่ ‘uberTAXI’ โดยตัวบริการจะมีความคล้ายคลึงกับบริการก่อนหน้านี้ของอูเบอร์ แต่ที่น่าสนใจคือ อูเบอร์พยายามจะสร้างฐานตลาดของตัวเองให้ใหญ่ขึ้น ผ่านทางพาร์ทเนอร์ซึ่งมีรถร่วมให้บริการอยู่แล้ว ส่วนในแง่ของแชริ่งนั้น ถือเป็นการขับเคลื่อนที่ดี เนื่องจากพบว่าแท็กซีจำนวนหนึ่งใช้วิธีการหาผู้โดยสารด้วยการขับตามท้องถนนไปเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นการวิ่งรถเปล่า โดยกรุงเทพฯ ล่าสุดให้บริการรถแท็กซีถึง 86,000 คัน ส่งผลให้เกิดปัญหารถติดตามมา
ข้อดีของการใช้บริการอูเบอร์มีดังนี้
ด้านผู้ให้บริการ
1. สามารถสร้างรายได้เสริมจากงานปกติ โดยคิดเป็นเปอร์เซ็น ทางอูเบอร์จะได้ 25% คนขับได้ 75% เช่น หากมีคนใช้บริการแล้วในแอปฯ แจ้งค่าบริการ 100 บาท ทางอูเบอร์จะได้ 25 บาท ส่วนทางคนขับจะได้ 75 บาทนั่นเอง รายได้โอนเอข้าบัญชีทุกสัปดาห์
2. สามารถพัฒนาศักยภาพงานบริการให้ดีขึ้นได้ เช่น อูเบอร์มีบริการสอนภาษาอังกฤษ
3. ได้รับการติชมจากผู้โดยสาร ผ่านทางฟังก์ชั่น แอปพลิเคชั่นของอูเบอร์
4. อยากทำงานตอนไหนก็ได้ เพียงแค่เปิดแอปพลิเคชั่น
ด้านผู้ใช้บริการ
1. ได้รับความสะดวกในการเดินทาง ตลอด 24 ชม.
2. ได้รับความปลอดภัยในการเดินทาง คือ มีระบบตรวจสอบประวัติผู้ขับ และตรวจสภาพรถก่อนให้บริการ
3. สามารถจ่ายได้ทั้งเงินสด และบัตรเคดิตผ่านแอปพลิเคชั่น
4. หมดปัญหาโดนรถแท็กซี่ปฏิเสธ
ทั้งนี้ อนาคตอูเบอร์ได้พยายามผลักดันการใช้เทคโนโลยีผนวกกับระบบขนส่งมวลชนให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อลดปัญหาจราจร ซึ่งในหลาย ๆ ประเทศใช้บริการแพลตฟอร์มดังกล่าวอย่างจริงจังเป็นที่เรียบร้อย ในส่วนของเทศไทยยังคงติดเรื่องกฎหมาย ซึ่งล่าสุดทางอูเบอร์ได้มีการศึกษาร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เพื่อตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0
ส่วนเทรนด์อีกหนึ่งอย่างที่อูเบอร์กำลังศึกษาคือ คาร์พูล (carpooling) ผู้โดนสารสามารถใช้บริการร่วมกับผู้โดยสารด้วยกัน เพื่อไปสู่จุดหมายเดียวกันหรือใกล้เคียงกันได้ เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย ปัจจุบันอูเบอร์ยังไม่เปิดใช้บริการคาร์พูล แต่สำหรับตัวแอปพลิเคชั่นของสมาชิกอูเบอร์ (driver) มีฟังก์ชั่นพิเศษอย่างหนึ่งชื่อว่า Driver Destinations มีลักษณะคล้ายคาร์พูล แต่จะใช้ได้กับผู้ให้บริการขับรถเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ไรด์ แชริ่ง จะไม่กลายเป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไปในอนาคต สังคมจะมีบริการรูปแบบ Sharing Community เพิ่มขึ้น อย่างในประเทศยักษใหญ่อย่างจีนเอง แท็กซี่มีการปรับตัวตามเทคโนโลยีได้ดีมาก บริการ ไรด์ แชริ่ง ต่าง ๆ ถูกใช้จนแทบเป็นเรื่องปกติ อีกทั้ง ยังมีบริการจ่ายค่าแท็กซี่ผ่านบาร์โค้ดได้ง่าย ๆ หากประเทศไทยมีการปรับตัว เชื่อว่าปัญหาจราจรจะลดลง ลดการเกิดอุบัติเหตุ และลดอันดับประเทศที่รถติดมากที่สุดในโลก ซึ่งถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่ประเทศไทยอีกด้วย
