เมื่อพูดถึงธุรกิจ Home Shopping หรือธุรกิจขายสินค้าทางทีวีในสมัยก่อน ต้องบอกว่าใครนอนเร็วก็อดดู หรือใครไม่ได้เปิดทีวีช่วงบ่ายในวันทำงานก็ไม่ได้ดูเช่นกัน ทว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจ Home Shopping ในบ้านเรามีสีสันมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการหาพันธมิตรเสริมทัพของช่องทีวีดิจิทัล ด้วยการปล่อยเช่าเวลาดีๆ ให้ธุรกิจ Home Shopping ได้เติบโต จากที่เคยออกอากาศช่วงดึก ก็ลงมาอยู่ในช่วงเวลาปกติที่มีผู้ชมเพิ่มขึ้น
การร่วมมือกันของทีวีดิจิทัล และ ธุรกิจ Home Shopping นับเป็นส่วนผสมที่ลงตัว ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด ช่องจำเป็นต้องพัฒนาคอนเทนต์ของตัวเองให้มีคุณภาพ เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ชม และเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ จากข้อมูลของ นีลเส็น ประเทศไทย เผยว่า ปีนี้ตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน มีการใช้งบโฆษณาในทีวีดิจิทัล 8,877 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 21% และแบรนด์ที่ใช้งบโฆษณาสูงสุดในปีนี้คือ ทีวีไดเร็ก ที่ใช้งบไปทั้งสิ้น 872,270 ล้านบาท (ทั้งออนไลน์และออฟไลน์) ณ เดือนเมษายน 2561
ซึ่งการซื้อสื่อโฆษณาช่องทีวีดิจิทัลของทีวีไดเร็คถือว่ามาถูกทางแล้ว เห็นได้จากผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/61 (ม.ค.-มี.ค.2561) ทีวีไดเร็ก มีกำไรสุทธิ 14.32 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีผลการดำเนินงานขาดทุน และเป็นการกลับมามีกำไรสุทธิติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สอง ขณะที่บริษัทฯ มีรายได้รวม 896.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีรายได้รวม 847.19 ล้านบาท โดยที่การเติบโตส่วนใหญ่มาจากทีวีดิจิทัลและช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะ Mobile App
สำหรับแผนต่อไป ทีวีไดเร็ค ยังสานต่อกลยุทธ์โฆษณาทางช่องทีวีดิจิทัลต่างๆ อย่างต่อเนื่อง คุณทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวีไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD เพราะพิสูจน์ว่าได้ผลเป็นอย่างดีในการกระตุ้นความสนใจและเพิ่มปริมาณลูกค้าที่ติดต่อ ดังนั้นบริษัทฯ จึงตัดสินใจร่วมผลิตรายการกับช่อง Spring News ช่องทีวีดิจิทัลหมายเลข 19 ถือได้ว่าเป็นการผนึกกำลังที่จะส่งผลดีต่อทั้งสองฝ่าย และผลที่ได้นับจากวันออกอากาศวันแรกวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก็ได้รับผลตามแผนงาน อย่างไรก็ตามยังคงต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบอีก 2-3 เดือนเพื่อให้การรับชมมีความเสถียรเพียงพอต่อการสร้างการตอบรับ
ขณะเดียวกันทีวีไดเร็คได้มุ่งเน้นการบริหารต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ โดยได้ปรับโครงสร้างการทำงานในกลุ่มบริษัทฯ เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการจัดการและลดกระบวนการที่ซ้ำซ้อนในรอบสามไตรมาส ที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถลดสินค้าคงคลังได้กว่า 50% ส่งผลให้การเงินของบริษัทฯ มีความแข็งแกร่ง นอกจากนั้นได้ลงทุนปรับปรุงความเร็วในการจัดส่งสินค้าถึงมือผู้รับได้ภายใน 24 ชั่วโมงได้สำเร็จ รวมถึงลดปริมาณการจัดส่งที่ผิดพลาดหรือจัดส่งไม่สำเร็จ ทำให้ลูกค้าพึงพอใจที่จะซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น