การสู้ราคากันข้ามวันข้ามคืนพลิกประวัติศาสตร์การประมูลคลื่น 900 และ 1800 MHz ของประเทศไทย เป็นข่าวครึกโครมเมื่อปลายปีที่แล้ว และบทสรุปของการคว้าชัยชนะของ “ทรูมูฟ เอช” พร้อมคำมุ่งมั่นสัญญาว่าจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศและพัฒนาระบบเทคโนโลยีการสื่อสารและบริการที่ดีที่สุดให้กับคนไทย วันนี้เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมอย่างเด่นชัด ด้วยการพัฒนา 4G พลัส ไปสู่ความเร็วระดับ 4.5 G ที่ขยายสัญญาณครบทุกอำเภอ ทั่วประเทศก่อนใคร พร้อมสร้างมาตราฐานใหม่ของเครือข่ายที่ดีที่สุดในด้านความเร็วแรงให้ลูกค้าของทรูได้รับประสบการณ์ที่ดี และยังเป็นการรองรับรูปแบบการใช้งานดาต้า ที่สูงมากขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน
เรื่องเทคโนโลยีเป็นจุดแข็งที่สำคัญของทรูมูฟ เอช
เรียกได้ว่าเป็น First Mover ในตลาดก่อนเสมอ ตั้งแต่ให้บริการ 3G รายแรก 4G รายแรก และวันนี้เป็นผู้ให้บริการ 4.5G ที่ใช้ได้จริงรายแรกและครอบคลุมครบทุกอำเภอทั่วไทย พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีล่าสุดของโลกอย่าง LTE – ADVANCED มาใช้ เราจะเห็นได้ว่าทรูมูฟ เอช จะคงกลยุทธ์ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดของลูกค้า ด้วยเทคโนยีที่ดีที่สุด อยู่เสมอ เรียกได้ว่าหากคิดถึงเทคโนโลยีการสื่อสารใหม่ๆ เราจะมักจะได้ยินและได้ใช้จากทรูมูฟ เอช ก่อนเสมอ
4G พลัส ความเร็วระดับ 4.5G ของทรูมูฟ เอช เป็นอย่างไร
อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ อุตสาหกรรมโทรคมนาคม จะมีองค์ประกอบแวดล้อม อยู่ 3 ข้อใหญ่ๆ ได้แก่
- สถานีฐาน (จุดเริ่มต้นของการรับส่งสัญญาณ)
- ช่องสัญญาณ (ก็คือคลื่นสัญญาณที่ประมูลกัน)
- มือถือ หรือ Device ที่เราใช้งานกัน
และตอนนี้เรามาสู่ยุคที่อุตสากรรมโทรคมนาคม และการสื่อสารได้พัฒนาไปทั้งระบบแล้ว
เริ่มจากสถานีฐาน ที่ทรูมูฟ เอช พัฒนาสถานีฐานให้เป็นแบบ 4T4R หรือ 4×4 MIMO ซึ่งเทคโนโลยีสถานีฐานแบบนี้จะสามารถรับส่งข้อมูล หรือ ที่เราเรียกว่า Upload / Download มากขึ้นกว่าเดิมถึง 4 ช่องทางในเวลาเดียวกันซึ่งมากที่สุดในปัจจุบัน จากเดิมที่ทำได้แค่ 2 ช่องทาง และไม่ใช่แค่มีแต่ติดตั้งเสร็จแล้วครบทุกอำเภอทั่วทั้งประเทศ ผลลัพธ์คือ ความเร็วเฉลี่ยของ 4G+ จากทรูมูฟ เอช จะสูงมากขึ้นทั้งประเทศ
ถัดมาที่ช่องสัญญาณ ในเรื่องนี้ทุกคนทราบดีว่าทรูมูฟเอช เป็นผู้ให้บริการรายเดียวที่มีคลื่นมากที่สุด จึงได้นำคลื่นมารวมกันเพื่อให้ช่องสัญญาณใหญ่มากขึ้นด้วยเทคโนโลยี การรวมคลื่น (Carrier Aggregation)
ยิ่งช่องสัญญาณใหญ่มากขึ้น การใช้งานดาต้าที่ไฟล์มีขนาดใหญ่ก็จะเร็วมากขึ้น เช่น การดู VDO Streaming ที่ความคมชัดระดับ HD หรือแม้แต่การดูรายการสดต่างๆผ่านมือถือ ก็สามารถทำได้
ซึ่งตอนนี้ในไทย ทรูมูฟ เอช เป็นผู้ให้บริการรายเดียวที่นำคลื่นมารวมกันมากที่สุดถึง 3 คลื่น (3CA)
และสุดท้ายคือมือถือหรือ Device ที่เราใช้งานกันนั้นเอง หลายคนคงยังไม่รู้ว่า มือถือแต่ละรุ่นรับความเร็วเน็ตได้ไม่เท่ากัน เพราะขึ้นอยู่กับ Spec ของแต่ละรุ่น บางรุ่นรับได้ 2CA บางรุ่นรับได้ 3CA
ซึ่งเร็วที่สุดในขณะนี้ แต่ไม่ว่าคุณจะใช้มือถือรุ่นไหน คุณก็จะใช้งาน 4G ได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด
บนเครือข่ายทรูมูฟ เอช เพราะ ให้บริการด้วยคลื่นที่มากที่สุด เรียกได้ว่า มือถือคุณรับเน็ตได้เท่าไหร่ ก็ใช้ได้เต็มประสิทธิภาพ (แต่ความเร็วในการใช้งานยังขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ใช้ในพื้นนั้นๆด้วย)
หากเรามาลองดูกลยุทธ์ที่ทรูมูฟ เอช ใช้ จะเห็นได้ว่าไม่ได้แค่เป็น First Mover ในตลาด แต่ยังเป็น Fast Moving จากการพัฒนาเทคโนโลยีและขยายสัญญาณให้ครอบคลุมทุกอำเภอทั่วไทย อีกด้วย ภายใต้บริบทของปี 2560 จะเป็นช่วงเปลี่ยนและปรับตัวอย่างรวดเร็วของผู้ให้บริการโทรคมนาคม และจะเป็นความท้าทายใหม่ที่ต้องก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมลูกค้าในกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไป หรือองค์กรธุรกิจ อดที่จะรอดูการพัฒนาของวงการโทรคมนาคมไทยในปีต่อไปไม่ได้จริงๆ ว่าจะก้าวสู่ยุค 5G ได้เร็วแค่ไหน