[บทความนี้เป็น Advertorial]
ยุคดิจิทัลนอกจากจะเข้ามาปรับเปลี่ยน (Disrupt) หลายธุรกิจแล้ว ยุคดิจิทัลกำลังจะเข้ามาปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของหลายๆ คนผ่านเทคโนโลยี IoT ที่ทำให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้นกว่าเดิม และนั่นคือความท้าทายของหลายธุรกิจที่ต้องสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถตอบสนองความต้องการในยุคดิจิทัลผ่านเทคโนโลยี IoT
แต่ใช่ว่าจู่ๆ นึกอยากจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนเลย การเปลี่ยนผ่านยุคเทคโนโลยีไปสู่ยุคดิจิทัลจึงมีเหตุผลหลายอย่างที่เป็นตัวเร่งให้เกิดการพัฒนาไปสู่เทคโนโลยี IoT โดยเฉพาะปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเหตุผลแรกเกิดจากประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์ปัจจุบันที่มีประชากรโลกราว 7,600 ล้านคน และจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 8,000 ล้านคนช่วงปี 2030
เหตุผลต่อมา เมื่อประชากรโลกเพิ่มสูงขึ้น ทรัพยากรของโลกจึงมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น เช่น อาหาร ที่อยู่อาศัย เป็นต้น อีกเหตุผลคือการเปลี่ยนผ่านระบบเศรษฐกิจจากซีกโลกตะวันตกมาสู่ซีกโลกตะวันออก เช่น จีน ญี่ปุ่น อินเดียและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นต้น รวมไปถึงเหตุผลด้านสังคม ข้อมูล ข่าวสาร ที่มีปริมาณมากมายกระจัดกระจายไปทั่ว และเหตุผลสุดท้ายคือเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ไบโอเทคโนโลยี นาโนเทคโนโลยี เป็นต้น โดยปัจจุบัน มีอุปกรณ์ที่อัพเกรดมาเป็น IoT จำนวนถึง 8.4 พันล้านชิ้น ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงถึง 31% และยังมีแนวโน้มการเติมโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีบริษัทที่ใช้บริการ IoT ราว 30% คาดว่าในปี 2563 จะมีบริษัทที่เชื่อมต่อกับ IoT มากกว่า 65% เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว ดังนั้นหากไม่มีโครงข่ายที่เหมาะสมกับการใช้งานสำหรับอุปกรณ์ที่มีมากมายอาจจะทำให้การทำงานของอุปกรณ์ดังกล่าว ไม่มีประสิทธิภาพมากเพียงพอ
เพราะโลกธุรกิจ มีการแข่งขันสูง ผู้ประกอบการต่างๆ เริ่มหันมาสนใจนำเทคโนโลยี มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนการให้บริการเพื่อต่อยอดธุรกิจมากขึ้น กลุ่มทรูเคยออกมาพูดเรื่องนี้มาตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ภายใต้แนวความคิด True Smart Life Smart City ที่ต้องการเป็นหนึ่งในภาคเอกชนที่ผลักดันให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสมาร์ท มาวันนี้กลุ่มทรูสานต่อและเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีไอโอทีอย่างเป็นรูปธรรมภายใต้แนวความคิด True IoT – The Future is Real.
True เห็นอนาคตที่เทคโนโลยี IoT จะกลายเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการและจะกลายเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำเนินชิวิตในอนาคต รวมถึงการเป็นส่วนช่วยในการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งได้พัฒนาจนสามารถใช้งานได้จริงแล้ว อาทิ สนามลู่ปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต (Happy and Healthy Bike Lane) สนามบินสุวรรณภูมิ สมาร์ทโฮม สมาร์ทออฟฟิศ สมาร์ทคาร์ และอุปกรณ์ต่างๆ ของ True IoT เช่น True Kidz Watch และ Robotis mini เป็นต้น
Source Update 28 March 2018
เพื่อสนับสนุน IoT ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดและเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ True ลงทุนเพื่อสร้างระบบนิเวศ IoT (IoT Ecosystem) ที่มีส่วนประกอบสำคัญ 5 อย่าง
Best Network โดยเป็นผู้ให้บริการ NB-IoT อันดับ 1 ครอบคลุมทั่วประเทศเพียงรายเดียว สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้อุปกรณ์สามารถใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น ลดปัญหาแบตเตอรี่หมดไว ซึ่ง True เชื่อว่าระบบเครือข่ายเน็ตเวิร์คที่ดีจะช่วยให้การทำงาน IoT มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น True จึงวางแผนพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยแผนการติดตั้งโครงข่าย LTE-M (Cat-M1) ซึ่งเป็นมาตราฐานโครงข่ายระดับโลกอีกรูปแบบหนึ่ง ให้ครอบคลุมทั่วประเทศในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ เพื่อรองรับการทำงานของอุปกรณ์ IoT อย่างเต็มรูปแบบ
Best of Multi-Platforms เพื่อให้สามารถใช้งานได้หลากหลายและครอบคลุมมากที่สุด IoT จึงต้องสามารถทำงานได้บนแพลตฟอร์มที่หลากหลายเพื่อรองรับความต้องการที่ต่างกันออกไป โดย True มีความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก 3 แพลตฟอร์มขนาดใหญ่อย่าง China Mobile, Ericsson, Huawei และแพลตฟอร์มระดับโลกอีกหลายรายกำลังตามมา ซึ่งในปัจจุบันทั้ง 3 แพลตฟอร์มที่ True มีเมื่อรวมกันทั่วโลกจะมีอุปกรณ์ IoT มากกว่า 200 ล้านชิ้น ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถรองรับการทำงานได้ทุกรูปแบบ
Source Update 28 March 2018
Best Business Partner การสร้างระบบเครือข่ายที่ดีจำเป็นต้องมีพันธมิตรที่สำคัญ โดยปัจจุบัน True IoT มีคู่ค้ามากกว่า 120 ราย ครอบคลุมบริการที่หลากหลาย และมีพันธมิตรในระดับโลกจะช่วยให้ได้รับความรู้และประสบการณ์ที่สามารถนำมาปรับใช้กับประเทศไทยได้อย่างดีที่สุด
Maker Community มากที่สุด 17 แห่ง True ได้สนับสนุนพื้นที่ให้กับกลุ่มนักพัฒนาที่ถือเป็นกลุ่มนวัตกรสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของ IoT ในประเทศไทยที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ รวมไปถึงกลุ่ม Startup เพื่อรองรับการพัฒนาเทคโนโลยีในการใช้งาน IoT ในอนาคต และ Digital Platform ที่จะรองรับการใช้งานเทคโนโลยี IoT ได้อย่างเต็มรูปแบบเพื่อการบริการแบบ End to End อย่างเช่น ระบบ E-Payment บริการคลาวด์ eSIM แพลตฟอร์มเพื่อการจัดการซิมและอื่นๆ ที่ในอนาคตจะกลายเป็นเรื่องสำคัญและจะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของหลายๆ คน
นอกจากนี้ True ยังเพิ่มความคุ้มค่าไปอีกขั้นด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษกับโปรแกรมการใช้เทคโนโลยี IoT จาก True ด้วยอุปกรณ์บอร์ดสื่อสาร True NB-IoT Board ในราคาเพียง 1,150 บาท พร้อมสิทธิ์ในการรับ-ส่งข้อมูลไม่จำกัดบนเครือข่าย NB-IoT ฟรีนาน 1 ปี และแพ็คเกจที่ยืดหยุ่นให้เลือกระหว่าง แพ็คเกจค่าบริการรายปี ราคา 330 บาทหรือคิดเป็นค่าบริการ 27.5 บาทต่อเดือน หรือคุ้มค่ามากขึ้นด้วยแพ็คเกจค่าบริการ 3 ปีในราคา 800 บาทหรือคิดเป็นค่าบริการ 22.2 บาทต่อเดือน
Source Update 28 March 2018
เรียกได้ว่าแพ็คเกจที่ True จัดมานั้นคุ้มค่าที่สุดในตลาด บนโครงข่าย IoT อันดับ 1 ครอบคลุมทั่วประเทศ และพร้อมสำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลายหลากทั่วโลก ซึ่งทั้งหมดนี้ True จัดให้เพื่อนักพัฒนา ผู้ประกอบการและลูกค้าทั่วไป สำหรับทุกๆ ท่านที่กำลังมองหาเทคโนโลยีที่จะมาช่วยลดต้นทุนหรือค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ให้มากขึ้นและก้าวทันเทคโนโลยีในยุคดิจิทัล
สนใจผลิตภัณฑ์และบริการ True IoT ได้ทาง Website และ Facebook Fanpage
[บทความนี้เป็น Advertorial]