ในประเทศไทยนอกจากตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลหรือที่เราพูดติดปากว่า “รถเก๋ง” และรถจักรยานยนต์ที่มีอัตราการเติบโตรวมถึงอุณหภูมิการแข่งขันที่ร้อนแรงแล้ว ยังมีตลาดรถกระบะที่เป็นตลาดใหญ่และมีการแข่งขันสูงจนเป็นที่น่าจับตามอง เนื่องจากรถกระบะในปัจจุบันเป็นลักษณะของรถยนต์อเนกประสงค์สามารถใช้งานเพื่อการพาณิชย์ได้ ในขณะเดียวกันก็เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลได้เช่นกัน
TOYOTA เรียกได้ว่าเป็นผู้นำในการพลิกโฉมตลาดรถกระบะไทย โดยในปี 2004 ได้เริ่มส่ง Vigo ลงสู่ตลาด ส่งผลให้ TOYOTA ขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำในตลาดรถกระบะอย่างยาวนาน และในปี 2015TOYOTA สร้างประวัติการณ์ให้กับตลาดรถกระบะไทยอีกครั้งด้วยการเปิดตัว Revo รถกระบะสายพันธุ์แกร่ง พร้อมความหนึบและสมรรถนะที่เกินตัว
และในช่วงปลายปี 2017 นี่เอง TOYOTA ปรับโฉมกระบะสายพันธุ์แกร่งใหม่อีกครั้งเพื่อตอบโจทย์ความต้องการใช้รถกระบะที่หลากหลาย พร้อมเปิดตัวรุ่น Top Model อย่าง Hilux Revo Rocco รุ่นตกแต่งพิเศษภายใต้แนวคิด “แกร่งเกินนิยาม” โดย Rocco มาพร้อมกับการออกแบบดีไซน์สุดพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์
กับชุดแต่งพิเศษรอบคันทั้งภายนอกและภายในที่แตกต่างจากรุ่นธรรมดา ที่สื่อให้เห็นถึงความดุดัน แข็งแกร่งแตกต่างจาก Revo ในรุ่นปกติอย่างชัดเจน ตอบภาพความผจญภัยที่ลูกผู้ชายสายพันธุ์ต้องลุยทุกพื้นที่ โดยเฉพาะกระจังหน้าที่ปรับใหม่ให้ดูดุดัน บึกบึนตามสไตล์รถกระบะอเมริกัน พร้อมด้วยสีเทาและสีดำเข้าชุดกับกรอบไฟตัดหมอกสีดำ และชุดตกแต่งกันชนหน้า ชุดตกแต่งซุ้มล้อ และสปอร์ตบาร์พร้อมพื้นปูกระบะ แถมด้วยล้ออัลลอยสำดำขนาด 18 นิ้ว ที่ให้ความรู้สึกทรงพลังและพร้อมยางชนิด All Terrain แบบ White Letter
นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกของ TOYOTA ที่ออกแบบให้ห้องโดยสารดูเข้มและลึกลับน่าค้นหาด้วยโทนสีดำทั้งคัน รวมไปถึงเทคโนโลยี Smart Key ที่ดีไซน์มาให้เฉพาะรุ่นพิเศษ สามารถพบกับ Rocco ได้ทั้งในรุ่น PreRunner และรุ่น 4×4 ทั้งสมาร์ทแคป (Smart Cab) และดับเบิ้ลแคป (4 ประตู)
ไม่เพียงเท่านี้ TOYOTA Revo ยังส่งรุ่นปรับโฉมแบบครบทุกเซ็กเม้นต์ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำแห่งรถกระบะ ด้วยดีไซน์ที่แข็งแกร่ง ดุดัน ผสานขุมกำลังแห่งการขับเคลื่อนที่เต็มพลัง และตอบสนองทุกการใช้งานสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งานภายใต้แนวความคิด “ตัวตนของคนจริง” โดย Hilux Revo รุ่นมาตรฐาน (Standard Cab) จะเน้นตอบสนองกลุ่มใช้งานจริงจังโดยเฉพาะเรื่องของการบรรทุก สู้ทุกการใช้งาน สู้ทุกเส้นทาง สมรรถนะเต็มเปี่ยมกับเวลาที่ไม่เคยรอใคร
Hilux Revo รุ่นสมาร์ท แค็บ (Smart Cab) ตอบสนองความต้องการทุกการใช้งาน ทั้งเรื่องงานบรรทุกที่จริงจังและงานไลฟ์สไตล์ ตัวจริงเรื่องความคุ้มค่า ทนทาน ประหยัดทั้งค่าน้ำมันและค่าบำรุงรักษา ในขณะที่ Hilux Revo รุ่นดับเบิ้ล แค็บ (Double Cab) เหมาะสำหรับกลุ่มครอบครัวที่รักการท่องเที่ยว พร้อมด้วยความสะดวกสบายครบครัน เทียบชั้นได้เท่ากับรถเก๋งหรูๆ แต่ยังคงดีไซน์ดุดัน เข้ม เต็มออพชั่น
เห็น Revo จัดใหม่จัดเต็มขนาดนี้ บอกเลยว่าราคาไม่ได้จัดใหม่เพราะราคาไม่ปรับตามการเปลี่ยนแปลง ช่วยให้ Revo กลายเป็นรถที่มีราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับออพชั่นที่ให้มา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระจกไฟฟ้าที่ TOYOTA จัดเต็มให้ทุกรุ่น แม้แต่รุ่นตัวเล็กสุดคุ้มค่ากับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ GD ที่กินน้ำมันน้อย แต่ให้แรงบิดสูงทำให้สามารถทำความเร็วได้แม้รอบเครื่องยนต์ต่ำ
เมื่อเครื่องยนต์ของ Revo ให้แรงบิดสูงด้วยรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำ นั่นก็หมายความว่าความสึกหรอของเครื่องยนต์น้อยลงตาม ช่วยประหยัดค่าบำรุงดูแลรักษา ไม่ต้องเสียค่าซ่อมและยังช่วยยืดอายุการใช้งานแม้จะผ่านงานสมบุกสมบันมาก็ตาม ที่สำคัญเมื่อเครื่องช้ำน้อยอัตราราคาขายต่อก็ยิ่งดี เรียกว่าคุ้มค่าทั้งการใช้งาน คุ้มค่าเมื่อต้องการขายต่อ
อีกหนึ่งบทพิสูจน์ของ TOYOTA ที่พลิกตลาดรถกระบะไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังปล่อยให้เบอร์ 3 และเบอร์ 4 ของตลาดรถกระบะแข่งขันกันไปพลางๆ ก่อน เพราะก้าวจากนี้ไปคือก้าวของผู้นำตลาดที่จะสยบทุกความเคลื่อนไหวของทุกค่ายรถกระบะและพร้อมสะกดสายตาผู้ใช้งานให้มาโฟกัสอยู่ที่ TOYOTA Hilux Revo เท่านั้น