เทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเรียกว่ามาแน่นอนในช่วงระยะเวลา 10 ปีนี้ ตลาดรถยนต์จะเริ่มเห็นการนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่างๆ ออกวางจำหน่าย แน่นอนว่าเป็นโอกาสครั้งสำคัญของค่ายรถยนต์ใหม่ๆ ที่จะเข้าสู่ตลาดรถไฟฟ้า ขณะที่ค่ายรถยนต์เดิมต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตสู่เซ็กเม้นต์ของรถยนต์ไฟฟ้า แล้วมีการคาดการณ์ว่าภายในระยะเวลา 20 ปีนี้ รถยนต์ไฟฟ้าจะกลายเป็นรถยนต์หลักที่วิ่งอยู่บนท้องถนนทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีใหม่เพื่อสนับสนุนและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับรถยนต์ไฟฟ้าที่จะทำให้รถยนต์ไฟฟ้าไม่ใช่รถยนต์ไฟฟ้า หากนึกภาพไม่ออกลองนึกถึงสมาร์ทโฟนที่ทำได้มากกว่าแค่การสื่อสาร
สำหรับค่ายรถยนต์ขนาดใหญ่การปรับเปลี่ยนมาสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งการทำ R&D หรือการสร้างหน่วยงานใหม่ขึ้นมาอาจช้ากว่าค่ายรถยนต์ที่เพิ่งเกิดใหม่ ค่ายรถยนต์ขนาดใหญ่จึงนิยมใช้วิธีเข้าซื้อกิจการขนาดเล็กเพื่อนำ Know How ที่ได้มาพัฒนาเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการผลิต โดยวิธีดังกล่าวเห็นได้ชัดเมื่อ TOYOTA ค่ายรถยนต์อันดับต้นๆ ของโลกเข้าซื้อกิจการด้านเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติอย่าง Renovo Motors Inc. เพื่อทำงานร่วมกับทีม Woven Planet บริษัทย่อยที่ TOYOTA สร้างขึ้นมาเพื่อพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ
โดยเมื่อช่วงต้นปี TOYOTA เพิ่งเข้าซื้อบริษัท CARMERA Inc. ที่เชี่ยวชาญด้านการปรับปรุงแผนที่บนถนนที่ซับซ้อน และก่อนหน้านั้น TOYOTA เพิ่งจะซื้อธุรกิจขับเคลื่อนอัตโนมัติจาก Lyft เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติในรถยนต์ของ TOYOTA อนาคต สำหรับแพลตฟอร์มของ Renovo ช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์เรียนรู้การทำงานของยานพาหนะ ซึ่งนอกจากจะช่วยศึกษาเพื่อหาปัญหาการใช้งาน เพื่อนำมาปรับแก้ไขและพัฒนาให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ยังช่วยให้เรียนรู้พฤติกรรมของลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง
โดยในช่วงมหกรรมการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกที่กรุงโตเกียว จะเกิดอุบัติเหตุในหมู่บ้านนักกีฬาพาราลิมปิก เมื่อรถบัสของ TOYOTA ที่ติดตั้งเทคโนโลยีการขับเคลื่อนอัตโนมัติชนนักกีฬาพาราลิมปิกจนทำให้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และเหตุการณ์ครั้งนั้นยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน ซึ่งเหตุการณ์นี้จะถือเป็นกรณีศึกษาก่อนนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้งานจริงบนถนนสาธารณะ โดยรถบัสที่นำมาใช้เป็นรถบัสเฉพาะกิจและเหตุการณ์ดังกล่าวช่วยยืนยันว่า แม้จะมีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติแต่ก็ควรมีคนขับที่เป็นมนุษย์อยู่บนรถเพื่อความปลอดภัย
สำหรับบริษัท Woven Planet ถูกพัฒนามาจากหน่วยงานที่ชื่อ Toyota Research Institute-Advanced Development ซึ่งมีหน้าที่ในการพัฒนาเทคโนโลยีโดยเน้นไปที่เรื่องของโซลูชั่นด้านเมืองอัจฉริยะ (Smart City) พลังงานสะอาดและการขับขี่ รวมถึงเทคโนโลยีหุ่นยนต์ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถใช้งานได้สะดวกและง่ายที่สุด
Source: Japan Today