ในงานแถลงข่าวที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย คุณทานากะได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐาน และความรู้ความชำนาญที่โตชิบาจะนำมาใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสนับสนุนการสร้างอนาคตที่ดีกว่า และสังคมที่ปลอดภัย มั่นคง และสะดวกสบาย
คุณทานากะยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีต่อโตชิบาว่า สำหรับโตชิบาแล้ว ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือเป็นศูนย์กลางการผลิตสำหรับธุรกิจหลักๆ ของโตชิบามาอย่างยาวนาน ซึ่งรวมถึงเซมิคอนดักเตอร์ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ และ SSD ในธุรกิจการจัดเก็บข้อมูล, อุปกรณ์ส่งและจ่ายไฟ และมอเตอร์อุตสาหกรรม ตลอดจนทีวีและเครืองใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน
เพื่อสานต่อธุรกิจของบริษัทในภูมิภาคนี้ โตชิบาจะเริ่มดำเนินธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานแห่งใหม่ในอินโดนีเซีย ตามแผนการจัดตั้งเครือข่ายระดับภูมิภาค พร้อมทั้งส่งเสริมโครงการริเริ่มด้านบริการสุขภาพ โดยคุณทานากะกล่าวว่า “ขณะนี้เรากำลังก่อสร้างโรงงานผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์แห่งใหม่ในมาเลเซีย เพื่อให้ดำเนินงานควบคู่กับสำนักงานขายอุปกรณ์การแพทย์ที่เราได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน เนื่องจากเราได้ผลักดันให้ธุรกิจบริการสุขภาพเป็นหนึ่งในสามธุรกิจที่เป็นเสาหลักของบริษัท”
เมื่อพิจารณาถึงความสัมพันธ์ระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และญี่ปุ่น คุณทานากะได้อ้างอิงถึงผลการสำรวจล่าสุด ซึ่งพบว่า 33% ของประชากรในภูมิภาค ซึ่งนับว่าเป็นกลุ่มประชากรที่ใหญ่ที่สุด ณ ขณะนี้ มองญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุด โดยเขาแสดงความเห็นว่า “ปัจจุบันภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีข้อได้เปรียบมากมายอย่างที่ญี่ปุ่นไม่มี เช่น การขยายตัวของเศรษฐกิจในระดับสูง และแรงงานวัยหนุ่มสาวมากความสามารถ ตลอดจนมิตรภาพที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเรามีความสำคัญมากยิ่งขึ้น” พร้อมเสริมว่า “เราได้จัดตั้งศูนย์กลางการผลิตเชิงกลยุทธ์หลายแห่งในภูมิภาค และด้วยเหตุนี้เอง การรับประกันเสถียรภาพในการจ่ายกระแสไฟฟ้า การกำหนดมาตรการป้องกันภัยพิบัติ และการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม จึงล้วนแต่มีความสำคัญสำหรับเรา เหมือนกับที่มีความสำคัญต่อผู้คนที่นี่”
โตชิบามีแผนการลงทุนเป็นจำนวนหนึ่งพันล้านดอลลาร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเท่ากับจำนวนเงินที่ทางกลุ่มบริษัทได้ลงทุนในภูมิภาคนี้ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา คุณทานากะอธิบายว่า “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่เปี่ยมไปด้วยพลังและวิสัยทัศน์อันกว้างไกล เช่นเดียวกับโตชิบา และมากกว่าอื่นใด ผมปรารถนาให้โตชิบา กรุ๊ป มีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อทำความเข้าใจและตอบสนองต่อคุณลักษณะที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ผมต้องการให้โตชิบาเติบโตไปพร้อมกับประเทศและชุมชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการสืบสานคุณค่าและภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน อีกทั้งบรรลุเป้าหมายของเราในการสร้างสังคมที่ปลอดภัย มั่นคง และสะดวกสบาย ตามวิสัยทัศน์ ‘Human Smart Community’”
