พฤกษา ลุยตลาดแนวราบระดับหรู ปั้นแบรนด์ “The Palm” ปักหมุดบนทำเลศักยภาพ “กรุงเทพกรีฑา”

  • 12.7K
  •  
  •  
  •  
  •  

นับตั้งแต่เจ้าตลาดอสังหาริมทรัพย์เมืองไทยอย่าง “พฤกษา เรียลเอสเตท” ประกาศบุกเข้าสู่ตลาดบ้านแนวราบไฮเอนด์อย่างเต็มตัวผ่านแบรนด์ The Palm เมื่อสองปีที่แล้วนั้น สภาพการแข่งขันของตลาดบ้านเดี่ยวระดับบนก็เพิ่มดีกรีร้อนแรงมากยิ่งขึ้น

โดยหลังจากความสำเร็จของโครงการ The Palm พัฒนาการ” ซึ่งถือเป็นการชิมลางตลาดบ้านเดี่ยวระดับบนครั้งแรกของพฤกษาเมื่อปี 2560 ที่มาแรงจนต้องจับตา เพราะเพียงอาทิตย์เดียว สามารถรับรู้ยอดขายสูงถึง 300 ล้านบาท จึงได้เกิดเป็นการถอดโมเดล Success Story สู่โครงการใหม่น้องใหม่บนทำเล “กรุงเทพกรีฑา-วงแหวน” มูลค่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2562 โดยตอกย้ำจุดแข็งของแบรนด์เรื่อง “โลเคชั่น” และ “ฟังก์ชั่น”

คุณปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท แวลู บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลกับ Marketing Oops! ถึงแนวทางการดำเนินงานสำหรับตลาดบ้านเดี่ยวของพฤกษา โดยเฉพาะการบุกตลาดไฮเอนด์แนวราบนับจากนี้ว่า เป็นไปตามแผนงานที่ต้องการปรับสัดส่วนของพอร์ตบ้านในสามเซ็กเมนต์ให้มีความสมดุลมากขึ้น

ปัจจุบัน พฤกษาเราเป็นเจ้าตลาดบ้านเดี่ยวในกลุ่มราคา 3-5 ล้านบาทผ่านแบรนด์ The Plant อยู่แล้ว โดยเรายังมีอีกสองแบรนด์ คือ ภัสสร เป็นบ้านเดี่ยวราคา 5-10 ล้านบาท และ The Palm ซึ่งเป็นตลาดบน ราคาราวๆ 10-30 ล้านบาท ซึ่งตามแผนที่วางไว้ คือ ต้องการให้ทั้งสามเซ็กเมนต์ในพอร์ตของเรานี้มีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน”

คุณปิยะ อธิบายว่า จากปัจจุบัน พอร์ตบ้านเดี่ยวราคาระหว่าง 3-5 ล้านบาทยังเป็นสัดส่วนใหญ่ที่สุดในพอร์ตบ้านเดี่ยวของพฤกษา คือ ราวๆ 60% แต่ในอนาคตต้องการจะปรับให้ทั้งสามเซ็กเมนต์มีสัดส่วนใกล้เคียงกัน คือ กลุ่มละ 33% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 3 หมื่นกว่าล้านบาทสำหรับในแต่ละเซ็กเมนต์ รวมเป็นแสนกว่าล้านบาท ซึ่งจะทำให้พอร์ตบ้านเดี่ยวของพฤกษามีความ Healthy มากขึ้น

กลยุทธ์หลักของเรา คือ จับทุกเซ็กเมนต์ของบ้านเดี่ยว เราอยากจะมีลูกค้าครบ ตั้งแต่แบรนด์ “The Plant” สำหรับกลุ่มที่เริ่มต้นอยากจะเริ่มมีบ้าน โดยมีรายได้ประมาณ 4-5 หมื่นบาท แล้วเราก็มีแบรนด์ “ภัสสร” จับกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ประมาณหนึ่งแสนบาท เป็นกลุ่มที่เริ่มขยับตัวเองขึ้นเป็นผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการ จนมาถึงแบรนด์ The Palm ซึ่งเป็นตลาดพรีเมียม จับกลุ่มเป้าหมายที่มีรายได้ราว 2-3 แสนบาท วางตำแหน่งทางการตลาดเป็น Master Living เป็นบ้านสำหรับคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต”

ตอบโจทย์ครบทั้ง “โลเคชั่น-ฟังก์ชั่น”

สำหรับเซ็กเมนต์พรีเมียมผ่านแบรนด์ The Palm ซึ่งพฤกษาเริ่มชิมลางเมื่อสองปีที่แล้วบนทำเลพัฒนาการ คุณปิยะ บอกว่า ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ด้วยจุดแข็ง คือ โลเคชั่นที่อยู่ในเมือง ใกล้ทางด่วน เดินทางสะดวก ขณะที่ฟังก์ชั่นการใช้งานก็ตอบความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้อย่างครบถ้วน จนถือเป็น Success Story ที่พฤกษายึดถือในการเป็นแก่นคิดสำหรับโครงการถัดมาอย่าง “The Palm กะทู้-ป่าตอง” ที่จังหวัดภูเก็ตซึ่งผลตอบรับก็ค่อนข้างดี และล่าสุดคือ โครงการ “The Palm กรุงเทพกรีฑา-วงแหวน” ที่จะเปิดตัวในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2562 นี้

บ้านของพฤกษาเราจะโดดเด่นเรื่องพื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชั่น เทียบกับบ้านบนที่ดินขนาดใกล้เคียงกัน แต่ของเราจะฟังก์ชั่นจะตอบโจทย์การอยู่อาศัยแบบ Luxury ได้มากกว่า โดยที่ The Palm ทุกฟังก์ชั่นกว้างขวาง โอ่อ่า เรามี 4 ห้องนอนบวกกับอีกหนึ่งห้องแม่บ้าน ที่จอดรถได้ถึง 3-4 คัน มีห้องนั่งเล่น มีห้อง family room สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน      

ขณะเดียวกัน ด้วยความที่เราเป็นเบอร์หนึ่งของอุตสาหกรรม ทำให้เราสามารถต่อรองกับซัพพลายเออร์ได้สินค้าในราคาที่ดีกว่าเจ้าอื่นๆ ในตลาด ทำให้ลูกค้าที่ซื้อบ้านของเราแล้ว จะได้วัสดุที่คุณภาพดีกว่า คุ้มค่ามากกว่า” คุณปิยะกล่าวถึงจุดแข็งที่ทำให้พฤกษาแจ้งเกิดในตลาดบ้านเดี่ยวไฮเอนด์

สำหรับโครงการล่าสุดอย่าง The Palm กรุงเทพกรีฑา นั้น ก็ยังคงตอกย้ำจุดแข็งเรื่อง “โลเคชั่น” และ “ฟังก์ชั่น” ซึ่งทางพฤกษามีความมั่นใจมาก

จุดเด่นของ The Palm กรุงเทพกรีฑา อยู่ที่ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย เพราะทั้งโครงการมีเพียง 91 ยูนิต ทำให้การใช้พื้นที่ส่วนกลางเป็นไปอย่างส่วนตัว เรียกว่า คุ้มค่ามาก ขณะที่ตัวบ้านเราก็ออกแบบให้พื้นที่ใช้สอยเกิดประโยชน์สูงสุด ครบถ้วนเรื่องการใช้งาน

มีทั้งหมดสาม Type คือ ตัวแรกมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 222 ตารางเมตร ที่ดิน 62 ตารางวา มี 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ หนึ่งห้องลิฟวิ่งรูม และห้องอเนกประสงค์ ราคาขายเริ่มต้นที่ 10 ล้านบาท

Type ที่สอง มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 253 ตารางเมตร บนที่ดิน 70 ตารางวา มี 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ มีห้องพักผ่อน ห้องอเนกประสงค์ ห้องรับแขก และมีทั้งครัวไทย ครัวฝรั่ง จอดรถได้ 2-3 คัน ราคาเริ่มต้นที่ 12 ล้าน

ส่วน Type สูงสุด คือ มีพื้นที่ใช้สอยมากถึง 292 ตารางเมตร บนที่ดิน 80 ตารางวมี 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ มีครัวทั้งครัวฝรั่ง ครัวไทย มีห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก ห้องอเนกประสงค์ จอดรถได้ 3-4 คัน ราคาประมาณ 16 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 3 Type นี้ มีห้องแม่บ้านทุกยูนิตโดยแยกจากตัวบ้าน ซึ่งถือว่า ฟังก์ชั่นครบถ้วน ตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์” คุณปิยะ กล่าวอธิบาย

ให้มากกว่าด้วย นวัตกรรม “Pruksa Living Tech

นอกจากเรื่องการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยอย่างคุ้มค่า มีการใช้วัสดุคุณภาพสูง ในราคาที่สมเหตุสมผลแล้ว ในโครงการ The Palm ยังได้นำเอาแนวคิด Pruksa Living Tech ซึ่งเป็นการรวมรวมเอานวัตกรรม เทคโนโลยีเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในการอยู่อาศัยมาปรับใช้อย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย

คุณปิยะ อธิบายว่า ที่ The Palm กรุงเทพกรีฑา มีระบบเฟรชแอร์ เป็นระบบระบายอากาศในบ้าน ระบายความร้อนออกสู่นอกบ้าน เพื่อให้ความร้อนในบ้านลดลง และมีการยังใช้พลังงานโซลาร์เซลสำหรับการใช้ไฟในส่วนกลาง เช่นที่คลับเฮาส์ซึ่งจะช่วยให้ส่วนกลางไม่ต้องจ่ายค่าไฟแพง

ในเรื่องของความปลอดภัย ที่โครงการนี้มีระบบความปลอดภัยถึง 4 ชั้น ตั้งแต่ประตูทางเข้า จนถึงการกั้นระหว่างโซนอยู่อาศัย มี CCTV กล้องวงจรปิด รวมถึงประตู Magnetic Door และในบ้านก็มีระบบ Door Lock เพื่อการอยู่อาศัยอย่างมั่นใจ และยังมีการนำแนวคิดสมาร์ทโฮมมาใช้ ให้ลูกบ้านสามารถดูกล้องวงจรปิดได้ผ่านทางสมาร์ทโฟน

จุดแตกต่างที่โดดเด่นของเรา คือ ในราคาเดียวกัน แต่บ้านของเราจะมีฟังก์ชั่นที่ครบถ้วนมากกว่า เราการันตีว่า เราให้ได้มากกว่า โดยเฉพาะเรื่องของความเป็นส่วนตัวที่หาจากโครงการอื่นในละแวกใกล้เคียงกันนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะเรามีแค่ 91 ยูนิต แต่เรามีคลับเฮาส์ขนาดใหญ่ และจัดเต็มทั้งสวนและพื้นที่ส่วนกลางให้ลูกบ้านสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ ได้ความเป็นส่วนตัว ขณะเดียวกันเรื่องของโลเคชั่นก็เป็นอีกจุดเด่นสำคัญ โดยทำเลนี้เชื่อมต่อได้ทุกที่ จะเข้าเมือง หรือไปสนามบินก็สะดวก สเปควัสดุที่เหนือระดับ ก็ถือเป็นจุดเด่นของเรา เพราะเราซื้อของได้คุ้มค่ากว่า”

เกี่ยวกับศักยภาพของทำเลกรุงเทพกรีฑานั้น คุณปิยะ เอ่ยว่า เทรนด์ปีนี้ชัดเจนมาก คือ การบูมของโซนฝั่งตะวันออก โดยที่ทำเลกรุงเทพกรีฑา-วงแหวนนั้นถือว่าเดินทางสะดวกมาก อยู่ใกล้ทางด่วน ใกล้แอร์พอร์ตเรลลิงค์ จะไปสนามบินสุวรรณภูมิก็สะดวก หรือถ้าจะเข้าเมืองก็ไม่ไกล

ในช่วงหลังทำเลโซนนี้จึงบูมมาก แต่พฤกษาได้ที่ดินผืนนี้มาในราคาค่อนข้างดี ซึ่งปัจจุบันที่ดินย่านนี้ก็ขึ้นมาแล้วประมาณ 30% แล้ว ผู้ซื้อก็จะได้กำไรราคาที่ดินด้วย” คุณปิยะ กล่าว

โดยมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของโครงการ The Palm กรุงเทพกรีฑา ว่า จะสามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัย พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ผู้ครอบครองได้อย่างแท้จริง


  • 12.7K
  •  
  •  
  •  
  •