[บทความนี้เป็น Advertorial]
เชื่อว่าหลายคนคงกำลังวางแผนเที่ยวสำหรับช่วงวันหยุดยาวปลายปีนี้ หรือมีแผนการเดินทางปีหน้าเพื่อให้รางวัลกับตัวเองเพื่อชาร์จพลังก่อนที่จะกลับมาลุยงานที่หนักหน่วงกันใหม่ในปีหน้า
สำหรับคนมิลเลนเนียมและ Generation Z ยุคนี้ มักมี Work-Life Balance ที่ทุ่มเททั้งการทำงานและการพักผ่อน มีหลายผลวิจัยล้วนระบุว่า คนเจนเนอเรชันนี้มักมีกิจกรรมนอกบ้านที่จะช่วยสร้างสมดุลแห่งความสุข ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนหย่อนใจ ด้วยกิจกรรมหาของอร่อย ไปช็อปปิ้ง หรือการทำกิจกรรมที่ให้รางวัลกับตัวเอง
แต่อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้เด็ดขาดของคนเจนฯ นี้ คือ การเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ช่วยเติมเต็มความสุข และสร้างแรงบันดาลใจให้ชีวิต และมักจะเลือกการเดินทางไปในที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร
แนวคิดดังกล่าวนี้ คอนเฟิร์มด้วย Booking.com เว็บไซต์รับจองห้องพักระดับโลก ที่เมื่อไม่นานมานี้ Pepijn Rijvers ผู้บริหารระดับสูงของค่าย Booking.com ได้ออกมาประกาศถึงเทรนด์การท่องเที่ยวที่กำลังเกิดขึ้นปี 2019 นี้ โดยเขาได้สำรวจจากนักท่องเที่ยวกว่า 21,500 คนจาก 29 ประเทศ ออกมาเป็น 8 เทรนด์ท่องเที่ยวมาแรงในปีหน้า ซึ่งเราขอสรุปบางเทรนด์น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟัง อาทิ
เที่ยวเพื่อตามหาความสุขในอดีต
ว่ากันว่านักท่องเที่ยวมิลเลนเนียมและเจน Z ยังมองหาการท่องเที่ยวแบบใหม่ที่จะช่วยเติมเต็มอารมณ์ที่โหยหาชีวิตที่สนุกสนานในแบบวัยเด็กอีกครั้ง จึงไม่แปลกหากเราอาจจะได้เห็นที่พักหลายแห่งมีแนวโน้มการจัดตกแต่งสถานที่หรือกิจกรรมที่ช่วยสะท้อนความทรงจำวัยเด็ก เพื่อตอบสนองนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้
นักท่องเที่ยวยุคนี้ต้องมีเทคโนโลยีช่วย
กระแสการเติบโตของเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ารวดเร็ว กำลังจะมีมากขึ้นในธุรกิจท่องเที่ยวเช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆ เราอาจได้ยินเรื่องราวของ AI (Artificial Intelligence) VR (Virtual Reality) หรือเทคโนโลยีอื่นๆทั้งหลาย แน่นอนมันได้ถูกนำมาใช้ในการท่องเที่ยวและโรงแรมเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวหรือนักเดินทางมากขึ้น เช่น อาจมีแอพลิเคชันที่ติดตามสถานะกระเป๋าเดินทางของคุณได้แบบเรียลไทม์ หรือหากคุณงานยุ่งจนไม่มีเวลาจัดแผนหรือศึกษาข้อมูลที่เที่ยว ต่อไปจะมีเทคโนยี AI ที่เป็นทั้งไกด์และผู้ช่วยวางแผนการเดินทางส่วนตัว คอยให้ข้อมูลเรื่องเที่ยวที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์หรือรสนิยมของคุณ โดยผลสำรวจยังพบว่ามีนักท่องเที่ยวถึง 52% ที่สนใจบริการ Digital Tour Guide
การเดินทางเพื่อตามหาความหมายชีวิต
ในรายงานนี้ยังระบุว่า 56% ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกเชื่อว่าการท่องเที่ยวคือสิ่งที่เสริมประสบการณ์เติมเต็มและสร้างความหมายให้คุณค่ากับชีวิตพวกเขามากขึ้น
ดังนั้นสำหรับบางคนคือการเดินทางเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ เพิ่มพูนความรู้ให้กับชีวิต กิจกรรมการเที่ยวของเขาอาจเป็นเที่ยวไปฝึกงานไป หรือเลือกลองคอร์สฝึกอบรมเพื่อเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ จากทั่วโลกที่ยังไม่เคยรู้ การทดลองทำในสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อน โดยเฉพาะกลุ่มเจน Z จะอินกับการท่องเที่ยวรูปแบบนี้มากขึ้น
เที่ยวแบบรับผิดชอบต่อสังคม
อีกเทรนด์ที่เราจะเริ่มเห็นมากขึ้นแน่ๆ คือเทรนด์ท่องเที่ยวแนว “จิตอาสา” ที่พบว่ามีถึง 68% ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกแสดงความสนใจที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมด้านวัฒนธรรมหรือสังคมที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเลือกที่จะเป็นอาสาสมัครในที่อื่นๆ รวมถึงการเข้าร่วมในกิจกรรมทางวัฒนธรรมหรือสังคม ที่เป็น Social Movement ต่างๆ มากขึ้น เช่น กลุ่ม LGBT หรือจะเป็นกิจกรรมเกี่ยวกับโลกร้อน ที่เกิดจากความตระหนักในเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น รวมถึงกระแสการรณรงค์ท่องเทียวโดยลดการใช้พลาสติกหรือสร้างขยะที่จะสร้างปัญหาสิ่งแวดล้อมในทุกที่ที่เราไป
เที่ยวทริปย่อย (แต่บ่อยขึ้น)
อีกแนวโน้มที่เราจะได้เห็นมากขึ้น คือแนวโน้มที่คนยุคนี้ส่วนใหญ่จะหันมาเปลี่ยนรูปแบบการท่องเที่ยวในแบบทริปย่อยๆ หรือสั้นๆ ที่ใช้เวลาไม่กี่วัน หรือเดินทางในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์มากขึ้นกว่าในอดีต และมากกว่าการวางแผนการเดินทางแบบเที่ยวเมืองไกลๆ ที่ต้องใช้ระยะเวลา ซึ่งข้อดีของการเที่ยวแบบทริปสั้นๆ นี้ อีกมุมหนึ่งมันก็ทำให้เรามีโอกาสได้เดินทางบ่อยมากขึ้นนั่นเอง
ทีนี้คุณลองย้อนกลับมาสำรวจตัวคุณเองดูกันไหมว่า คุณน่าจะติดเทรนด์นักท่องเที่ยวแนวไหนกันบ้าง?
แต่ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวแบบไหน เราคิดว่าปลายปีนี้ทุกคนต้องกำลังเตรียมที่จะ “เดินทาง” กันอย่างเต็มที่กันแล้ว
โดยก่อนจะเดินทางไปที่ไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือ คุณควรต้องวางแผนเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการในทุกเรื่องอย่างรัดกุม เพื่อให้การเที่ยวไม่มีสะดุด ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมข้อมูลการเดินทาง สิ่งของเครื่องใช้ ไปจนถึงบริหารจัดการเงินในกระเป๋าของคุณให้พร้อมเพื่อให้ตลอดทั้งทริปเป็นไปอย่างราบรื่นไม่สะดุด
ซึ่งสำหรับใครที่มักเดินทางบ่อยๆ หรือไปไหนไกลๆ การจะพกเงินสดไปเยอะๆ ก็คงไม่ดีแน่ เพราะทั้งอาจทำให้ดูแลลำบาก และไม่ปลอดภัยทีเดียว เงินสดยุคนี้เสี่ยงต่อการตกหล่น สูญหาย หรือโดนปล้นได้ ดังนั้น การพกบัตรเครดิตไปใช้งานน่าจะดีกว่า เพราะมีข้อดีมากมาย
อย่าแปลกใจหากวันนี้คนส่วนใหญ่จึงหันมาใช้ “บัตรเครดิต” เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก เพราะ ข้อดีของบัตร ไม่เพียงให้ช่วยอุ่นใจว่าเหมือนมีเงินสำรองในกระเป๋า โดยไม่ต้องพกเงินสดครั้งละมากๆ ไม่ต้องแลกเงินตราต่างประเทศให้วุ่นวาย ทั้งยังสะดวกในการทำธุรกรรมการเงิน เช่น การใช้เป็นวงเงินประกันในการจองที่พัก รถเช่า เป็นต้น
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวที่ฉลาดใช้ มักเลือกใช้บัตรเครดิตที่คุ้มค่า โดยพิจารณาจากการให้คะแนนสะสม การใช้เครดิตเงินคืนเมื่อใช้จ่าย โดยเฉพาะบัตรที่สามารถนำคะแนนมาแลกตั๋วเครื่องบิน สะสมไมล์
อย่างเช่น บัตรเครดิตบลูไดมอนด์ (Blue Diamond Credit Card) จากธนชาต ถือเป็นอีกหนึ่งบัตรเครดิตที่น่าสนใจในตอนนี้ ด้วยจุดเด่นของบัตร คือ การให้คะแนนสะสมที่เพิ่มขึ้น สูงสุดถึง 4 เท่า และการนำเอาคะแนนสะสมมาแลกตั๋วเครื่องบินได้ โดยทางลัดหรือวิธีการที่ทำให้สะสมคะแนนได้เร็วก็ไม่อยากเลย เพียงแค่การทานข้าวในแต่ละมื้อปกติ ที่ให้ทุก 12.50 บาท เท่ากับ 1 คะแนน หรือได้เท่ากับ 1 ไมล์ และนำคะแนนที่ได้นี้ไปแลกไมล์ตั๋วเครื่องบินได้ทั่วโลก กับ 16 สายการบินชั้นนำที่เลือกได้ แบบไม่จำกัดสายการบินใดสายการบินหนึ่งเหมือนกับบัตรอื่นๆ เพราะสามารถแลกผ่านระบบการแลกไมล์ของธนชาตเอง
ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับบัตรเครดิตหมวดเดียวกัน บัตรบลูไดมอนด์จากธนชาต สามารถแลกบินได้เร็วกว่า เพียงลูกค้าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตธนชาต BLUE Diamond ในหมวดต่างๆ ที่สามารถทำคะแนนได้เร็ว เช่น ในหมวดร้านอาหาร 12.5 บาท รับ 1 คะแนน ในหมวดท่องเที่ยว 8.33 บาท รับ 1 คะแนน ในหมวดสกุลเงินต่างประเทศ 6.25 บาท รับ 1 คะแนน หรือทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ในหมวดปกติ 25 บาท รับ 1 คะแนน โดยลูกค้าที่ใช้จ่ายตามเงื่อนไขสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์การแลกคะแนนนี้ได้ ตั้งแต่ 1 ส.ค. 61 – 31 มี.ค. 62
สำหรับคะแนนสะสมที่มีสามารถแลกได้ทั้งเส้นทางในประเทศและต่างประเทศแบบไป-กลับ 1 ที่นั่ง แบบไม่ต้องรอโอนคะแนนไปเป็น mileage เช่น เส้นทางในประเทศ ใช้คะแนนเพียง 15,000 คะแนน, ฮ่องกง ไทเป ใช้คะแนนเพียง 35,000 คะแนน, โตเกียว โอซาก้า โซล ใช้คะแนนเพียง 45,000 คะแนน, ลอนดอน ปารีส ซูริก ใช้คะแนนเพียง 70,000 คะแนน เป็นต้น และหากคะแนนสะสมไม่เพียงพอลูกค้าสามารถใช้คะแนน+ชำระเงินเพิ่มสำหรับการแลกบินได้ หรือจะใช้คะแนนสะสม T-Reward ทุก 1,000 คะแนน แลกรับส่วนลด 100 บาท หรือเลือกผ่อนชำระ0% นาน 4 เดือน สำหรับค่าตั๋วเครื่องบินและบริการทางการท่องเที่ยวผ่านบัตรเครดิตธนชาต โดยสามารถทำรายการทั้งหมดนี้ ผ่านธนชาต Contact Center 1770 กด 5 กด 3 หรือโทรตรงบริษัท Global Union Express (G.U.E.) ซึ่งเป็นบริษัทจองตั๋วชั้นนำที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 40 ปี ที่ธนชาตให้เป็นผู้ดูแลได้
เรียกว่า บัตรเครดิตบลูไดมอนด์ (Blue Diamond Credit Card) นี้ออกมาตอบโจทย์กลุ่ม ROP Lover ชอบท่องเที่ยว-ช้อปปิ้ง รักการสะสมคะแนนเป็นชีวิตจิตได้ไม่ใช่น้อยเลย
แถมสมัครได้ง่าย เพียงมีรายได้ต่อเดือนตั้งแต่50,000 บาทขึ้นไป ก็สามารถสมัครได้ โดยผู้สมัครสามารถลงทะเบียนผ่าน เว็บไซต์ http://bit.ly/2Q9h85o
หรือสนใจอ่านรายละเอียดข้อมูลได้ที่ : http://bit.ly/2Q9h85o
[บทความนี้เป็น Advertorial]
