ภาพยนตร์โฆษณาสะเทือนอารมณ์ ซาบซึ้งน้ำตาซึม บาดลึกเข้าไปในหัวใจของคนดู ได้กลายเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ต้นตำรับโฆษณาเรียกน้ำตาอย่าง “ไทยประกันชีวิต” ไปแล้ว ที่ใครได้เห็นก็จดจำได้ในทันที และเมื่อออกโฆษณาใหม่ๆ ทีไร ก็จะเป็นกระแสและมีแง่คิดที่ผู้คนได้พูดถึงกันเสมอ
อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่า ไทยประกันชีวิต แบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการสื่อสารให้คนตระหนักถึงคุณค่าของการมีชีวิต และคุณค่าของความรักมาโดยตลอด กลับมาครั้งนี้ได้กระตุกคนดูให้กลับไปสู่การดูแลกันด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด นั่นคือ “การให้ความรักต่อกัน” ล่าสุด! ไทยประกันชีวิตส่งหนังโฆษณาตัวใหม่ “แม่รู้อะไรบ้าง” (Mother Knows Best) ออกมาตอกย้ำ คุณค่าของความรักว่าเป็นสิ่งที่ทรงพลัง และเป็นสิ่งที่ดูแลชีวิตได้ดีที่สุด แต่ก่อนที่จะไปเจาะลึกแนวคิดของไทยประกันชีวิต อยากจะให้ทุกคนได้ดูหนังโฆษณาด้านล่างนี้ก่อน แล้วก็อย่าซึ้ง จนลืมดูู Message ที่พวกเขาต้องการจะสื่อกันด้วยล่ะ
httpv://youtu.be/HwBRP5VuW0Q
สิ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่อินไปกับเรื่องราวของแม่ลูกคู่นี้ได้ ไม่ใช่เพียงเพราะเนื้อเรื่องที่สะท้อนชีวิตจริงแต่เพียงอย่างเดียว เพราะสิ่งที่จับหัวใจผู้ชมได้น่าจะมาจากแนวคิดหลักของโฆษณา ที่เริ่มมาสถานการณ์สังคมไทยในปัจจุบันที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากในชีวิตประจำวันอย่างเลี่ยงไม่ได้ แน่นอนว่าเทคโนโลยีช่วยให้ชีวิตเราสะดวกสบาย และรวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันการพัฒนาแบบก้าวกระโดดของเทคโนโลยีกลับทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคนในครอบครัว จนเราหลงลืมความรัก ความห่วงใยระหว่างกันไป
นับว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากที่จะทำหนังโฆษณาให้ลึกเข้าไปแตะหัวใจคนดูได้ในเวลาเพียง 3 นาที เราลองมาอ่านที่มาและแรงบันดาลใจ ของทีมงานผู้สร้างสรรค์หนังเรื่องนี้กันดู
คุณคิดว่าคุณเป็นคนโลกไหน? …. โลกใหม่หรือโลกเก่า
ผมก็เคยถามตัวเองแบบนั้นเช่นกัน เมื่อก่อนถ้าผมอยากรู้เรื่องมดสักตัวคงต้องขึ้นรถเมล์หลายต่อเพื่อไปห้องสมุด และใช้เวลาทั้งวันอยู่ในนั้นกับบรรณารักษ์รุ่นแม่ หรือไปร้านหนังสือสักที่ ก็ไม่รู้ว่าจะได้รึเปล่า
แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องทําแบบนั้นแล้ว แค่นิ้วเดียวทุกอย่างก็ง่ายไปหมด
โลกเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วกว่าเรื่องที่ผมเล่าให้ฟัง เหมือนมันเปลี่ยนทุกครั้งที่ผมกระพริบตา และไม่ว่าคุณจะเห็นมันหรือไม่ มันก็มีส่วนในการสร้างเส้นบางๆให้เกิดขึ้น เพื่อแบ่งเราออก ว่าเราเป็นประชากรของโลกไหน ไม่เว้นแม้แต่คนในครอบครัวเดียวกัน (เอาเข้าจริงผมว่าหลายครอบครัวก็เริ่มคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องนานแล้วล่ะ) เราต่างคุยกันถึงเรื่องในโลกของตัวเอง แล้วก็อดเปรียบเทียบกันไม่ได้ สุดท้ายก็ใช้ความรู้เป็นเครื่องมือวัดอํานาจว่าใครมีมากกว่าใคร
มันจริงหรอ? ที่คนฉลาดกว่าดูแลคนอื่นได้ดีกว่า เอางี้! ลองปล่อยให้โลกมันวิ่งของมันไป แล้วก็ไม่ต้องไปตามด้วย มันน่าจะดีถ้ามีหนังเรื่องหนึ่งที่ทำให้เราช้าลงเพื่อทบทวนว่า เราเกิดมามีชีวิตถึงวันนี้ได้ด้วยอะไร? อะไรคือสิ่งที่สําคัญกับชีวิตจริงๆ?
มันคือความรักนะ ความรักเป็นสิ่งที่ดูแลเรามาตลอดชีวิต ถ้าเราเข้าใจว่านี่คือคุณค่าของความรัก ที่ทําให้ชีวิตเรามีคุณค่าและตั้งมันเป็นพื้นฐานในชีวิต ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปเร็วแค่ไหน ผมว่าเส้นบางๆ ที่ดูเหมือนจะหนาขึ้นทุกครั้งที่กระพริบตา ก็กลายเป็นเพียงแค่เส้นสมมุติ…ที่ไม่มีอยู่จริง
ถ้าจะพูดกันตามตรงประโยคที่ว่า “ให้รัก…ดูแลชีวิต” ฟังแล้วอาจจะดูหวานเลี่ยนไปสักหน่อย แต่เพราะรักรึเปล่า? ที่ทำให้เราผ่านคืนวันแย่ๆ ทำให้เติบโตและมีชีวิตมาได้ถึงทุกวันนี้ ถึงแม้เทคโนโลยีจะช่วยเราได้ในหลายๆ อย่าง แต่แท้จริงแล้วไม่ว่ายุคไหนๆ สิ่งที่ดูแลชีวิตได้ดีที่สุดก็ยังเป็นความรักความห่วงใยระหว่างคนในครอบครัวต่างหาก คุณล่ะ? หลังจากดูหนังโฆษณาเรื่องนี้จบ พร้อมที่จะให้ความรักกับตัวเองและคนรอบข้างบ้างหรือยัง