ตามรอยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ผ่าน 5 กลุ่มธุรกิจ จากผู้ประกอบการไทย

  • 102
  •  
  •  
  •  
  •  

เพื่อเป็นการดำเนินรอยตามแนวพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ในฐานะที่ทรงเป็น “กษัตริย์นักคิด นักพัฒนา” ผู้ประกอบการและนักออกแบบต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนา “ความคิดสร้างสรรค์” ให้สอดรับกับกระแสยุคปัจจุบัน เปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ให้กลายเป็นมูลค่า โดยไม่ลืมรากฐานความเป็นไทยที่มีความได้เปรียบเป็นทุนเดิม เป็นหนึ่งในทางออกที่จะขับเคลื่อนประเทศไทย ได้อย่างยั่งยืน

ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) หน่วยงานที่ส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการต่างๆ ภายในประเทศให้สามารถดึงความคิดสร้างสรรค์มาประยุกต์กับทุนทางวัฒนธรรมและสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการ ได้จัดทำนิทรรศการ “Baht & Brain” เพื่อนำเสนอตัวอย่างความสำเร็จของผู้ประกอบการไทย โดยแบ่งเป็น 5 กลุ่มธุรกิจ ซึ่งแต่ละธุรกิจได้แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการและนักออกแบบไทยมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเอง ไม่หยุดอยู่กับที่ เปิดใจรับนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ทันสมัยต่างๆ และนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ พัฒนาธุรกิจ เปลี่ยนมันสมองและภูมิปัญญาไทยให้กลายเป็น จุดเด่น และเป็นที่ยอมรับในสายตาคนทั่วโลกได้

1. กลุ่มเกษตรและอาหาร (Agriculture and Food)

1-%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%a9%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%a3-2

ประเทศไทยมีชื่อเสียงด้านการเกษตรและอาหารติดอันดับต้นๆ ของโลกเมื่ออาศัยความได้เปรียบด้านภูมิประเทศและภูมิอากาศเป็นทุนเดิม และทำการเพิ่มเติมนวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยต่างๆเพื่อให้ผลิตภัณฑ์และบริการในกลุ่มธุรกิจนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จะทำให้ประเทศไทยสามารถทยานสู่การเป็นที่ 1 ในธุรกิจเกษตรและอาหาร และกลายเป็น “แหล่งอาหารของโลก” จากผลผลิตท้องถิ่นที่มีมูลค่าและเป็นที่ต้องการระดับโลก

โดยตัวอย่างของความคิดสร้างสรรค์ที่ประยุกต์ใช้กับกลุ่มธุรกิจนี้และประสบผลสำเร็จ คือ สมาร์ทฟาร์ม ระบบเทคโนโลยีวิเคราะห์สภาพภูมิอากาศและอุตุนิยมวิทยาเพื่อกำหนดรูปแบบการเพาะปลูกที่เน้นเพิ่มผลผลิต และประหยัดทรัพยากรไปในเวลาเดียวกัน

2. กลุ่มหัตถกรรม (Craft)

2-%e0%b8%ab%e0%b8%b1%e0%b8%95%e0%b8%96%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%a1-1

หนึ่งในธุรกิจที่เกิดขึ้นจากศิลปวัฒนธรรมไทยที่กลายเป็นที่รู้จักระดับโลก โดยธุรกิจงานฝีมือและหัตถกรรมเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของงานออกแบบและงานศิลปะของไทย จึงเป็นแหล่งรวมของแรงงานสร้างสรรค์ที่มีมากกว่า 323,000 คนทั่วประเทศ (ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติ) ฉะนั้นการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดข้อจำกัดในการผลิตงานฝีมือ ทั้งในด้านการเพิ่มปริมาณการผลิต และสร้างความเป็นไปได้ในการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ที่จะต่อยอดงานหัตถกรรมแบบดั้งเดิมให้ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ในปัจจุบันมากขึ้น และมีมูลค่าสูงขึ้นตามลำดับ ตัวอย่างความสำเร็จของนักออกแบบในกลุ่มนี้ อาทิ การผลิตผ้าทอจากเส้นใยสแตนเลส ที่นำเสนอความแปลกใหม่ และสามารถนำไปใช้ต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิ เสื้อผ้าดีไซน์แปลกใหม่ กระเป๋าถือป้องกันคลื่นรบกวน และวัสดุบุผนังป้องกันคลื่นรบกวน

3. กลุ่มบริการ (Service)

3-%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3-%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%a5%e0%b8%95%e0%b8%9f%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%a1%e0%b8%97%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%97

 

กลุ่มธุรกิจบริการโดยเฉพาะการท่องเที่ยว เป็นหนึ่งในรายได้หลักของประเทศ และประเทศไทยเป็นยังได้รับเลือกให้เป็น “เป้าหมายของการท่องเที่ยวระดับโลก” (World’s top travel destination) หากสามารถประยุกต์แนวคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวในยุคปัจจุบัน และใช้เทคโนโลยีเป็นตัวอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มเป้าหมายที่กระจายอยู่ทั่วโลก จะทำให้เกิดรายได้จากธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ

โดยตัวอย่างความสำเร็จ คือ แพลตฟอร์มทัวร์ชุมชน ที่เน้นวิเคราะห์ความต้องการของนักท่องเที่ยวในแต่ละกลุ่ม และประสานงานกับชุมชนท้องถิ่นเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับ ความเป็นไทยอย่างแท้จริง ด้วยความสะดวกและสบายไปในขณะเดียวกัน

4. กลุ่มไลฟ์สไตล์ (Lifestyle)

4-%e0%b9%84%e0%b8%a5%e0%b8%9f%e0%b9%8c%e0%b8%aa%e0%b9%84%e0%b8%95%e0%b8%a5%e0%b9%8c-%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%ad%e0%b8%a5%e0%b8%b3%e0%b8%ad%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%a3

หนึ่งในธุรกิจใหม่ที่สร้างรายได้ และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในยุคปัจจุบัน ผ่านการถ่ายทอดวัฒนธรรมและวิถีความเป็นไทยสู่กิจกรรมบันเทิงต่าง ๆ อาทิ การแสดงดนตรี ภาพยนตร์และแอนนิเมชั่น และรายการเกมโชว์ สู่สายตาผู้ชมทั่วโลก ใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงโลกให้สามารถเข้าถึงสารจากทั่วทุกมุมโลกผ่านอินเทอร์เน็ท กระจายกลิ่นอายความเป็นไทย และเปลี่ยนเป็นมูลค่าเข้าประเทศอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างสำเร็จในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ อาทิ การขายลิขสิทธิ์รายการเกมโชว์ของบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ วงดนตรีหมอลำที่สร้างชื่อเสียงระดับโลก เดอะพาราไดซ์บางกอก (The Paradise Bangkok Molam International Band) และภาพยนตร์แอนนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จในเวทีนานาชาติจาก The Monk Studios

5. กลุ่มกีฬา (Sport)

5-%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b8%ac%e0%b8%b2-%e0%b8%84%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%a5%e0%b8%99

กีฬาไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง “มวยไทย” เป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจจากคนทั่วโลก มีค่ายฝึกที่ขึ้นทะเบียนกับสภามวยโลกกระจายอยู่ใน 128 ประเทศทั่วโลก แต่ปัญหาหลักคือหลักสูตรขาดมาตรฐาน สภามวยไทยโลกจึงได้แต่งตั้งคณะทำงานมวยไทยไอกล้าขึ้นเพื่อจัดทำหลักสูตรออนไลน์ (iGLA Muaythai Animation Education System – iMAES) ผ่านการประยุกต์นวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้มวยไทย กลายเป็น “ทรัพย์สินทางปัญญาประจำชาติ” ที่ถ่ายทอดผ่าน หลักสูตรการสอนที่ได้มาตรฐานแบบออนไลน์ แอนนิเมชั่น และเกม ที่เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงของชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จะเห็นได้ว่า ทั้ง 5 ธุรกิจข้างต้นล้วนเป็นธุรกิจที่ไทยมีความได้เปรียบเป็นทุนเดิมในด้านต่างๆ ทั้ง ความหลากหลายด้านกลุ่มเป้าหมาย และความหลากหลายทางประเภทธุรกิจ หากผู้ประกอบการและนักออกแบบแบบสามารถคว้าโอกาส ใช้ความได้เปรียบประยุกต์เข้ากับแนวคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัย จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์และบริการอย่างทวีคูณ อันจะนำไปสู่การพาประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง และสามารถรักษาพื้นที่การแข่งขันในยุคปัจจุบันได้อย่างประสบความสำเร็จ


  • 102
  •  
  •  
  •  
  •