VNL
ดูเหมือนว่า “เทรนด์สุขภาพ” จะยังอยู่กับเราไปอีกนาน ซึ่งเป็นผลพวงมาจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ รวมไปถึงหลายโรคที่เรารู้จักกันดีอย่าง เบาหวาน ความดัน หัวใจ เป็นต้น และโรคที่น่ารำคาญอย่าง “ออฟฟิศซินโดรม” ซึ่งโรคภัยไข้เจ็บเหล่านี้สามารถป้องกันได้ด้วยการออกกำลังกาย นั่นจึงทำให้เทรนด์การออกกำลังกายทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะกิจกรรมการออกกำลังกายที่เรียบง่ายที่สุดอย่างการวิ่ง
ผลพวงจากการออกกำลังกายที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ตลาดที่เกี่ยวข้องกับกีฬารับอานิสงส์นี้กันอย่างถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า อุปกรณ์กีฬาต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่สถานที่ที่เปิดให้เช่าเพื่อเล่นกีฬา ล้วนเติบโตขึ้นอย่างมาก แต่ยังมีอีกธุรกิจที่เติบโตขึ้นอย่างมากจากกีฬานั่นคือ “เครื่องดื่มเกลือแร่” และใครที่ยังไม่ทราบตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือตลาดกลุ่มทวีปอเมริกาเหนือที่นำโดยสหรัฐฯ
อะไรที่ทำให้สปอนเซอร์เป็นเจ้าตลาด
สำหรับในประเทศไทยถ้าพูดถึงตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่คงต้องนึกถึง “สปอนเซอร์” ที่เรียกว่าเข้าร้านสะดวกซื้อเมื่อไหร่ต้องได้เห็นอยู่ในตู้แช่ นั่นเพราะปัจจุบันสปอนเซอร์ครองส่วนแบ่งตลาด (Market Shared) สูงถึง 90% เรียกว่าไม่ต้องสืบว่าใครคือเจ้าตลาด โดยมูลค่าตลาดรวมเครื่องดื่มเกลือแร่ของไทยอยู่ที่ 4,713 ล้านบาท โดยมีการเติบโตอยู่ที่ 13.1% สอดรับกับเทรนด์ดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก
โดยคาดว่าในปี 2023 มูลค่าตลาดรวมเครื่องดื่มเกลือแร่ในไทยน่าจะแตะที่ระดับ 5,326 ล้านบาท จากข้อมูลที่สปอนเซอร์รวบรวมมายังพบว่า นอกจากเรื่องของการออกกำลังกายที่ช่วยให้ตลาดเติบโต โดยเฉพาะกลุ่มคน Millennial ที่หันมาออกกำลังกายเพิ่มขึ้นถึง 76% ซึ่งเฉลี่ยจะมีการออกกำลังกายอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง ยังมีในเรื่องของนวัตกรรมที่ช่วยผลักดันให้ตลาดเติบโต
อย่างเช่น เรื่องของเครื่องดื่มไม่มีน้ำตาลแบบ 0% แต่ยังคงให้รสชาติความหวานเหมือนสูตรดั้งเดิม หรือการปรับแพ็คเกจจิ้งใหม่ที่ช่วยให้ดูทันสมัยขึ้นพกพาง่าย ดูและให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับเครื่องดื่มแบบ Casual Drink โดยปัจจุบันในตลาดสามารถเห็นสปอนเซอร์ได้ถึง 4 รูปแบบแพ็คเกจจิ้ง ทั้งแบบขวดแก้วดั้งเดิมที่ยังคงความเป็น Original โดยเติบโตที่ 7% ส่วนแบบกระป๋องเติบโต 16% ขณะที่แบบขวด Pet เติบโต 129% และแบบ Sponsor Active เติบโต 18%
และอีกประเด็นที่น่าสนใจในการเป็นผู้นำตลาดของสปอนเซอร์คือเรื่องของคู่แข่ง ที่ต้องบอกเลยว่าแม้ในตลาดจะมีคู่แข่งแต่ก็เป็นคู่แข่งที่ไม่มีเพาเวอร์ นั่นเพราะส่วนใหญ่คู่แข่งในตลาดไม่ค่อยทำตลาดอย่างจริงจัง ขณะที่สปอนเซอร์รุกตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งด้านการสื่อสารและการเข้าถึงผู้บริโภคผ่านกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะการเป็นผู้สนับสนุนหลักในการรายการวิ่งหลายรายการ
ผ่าแผนกลยุทธ์ 4E สู่แบรนด์โลก
เพื่อให้ภาพลักษณ์หรือ Brand Perception ของสปอนเซอร์ชัดเจนในสายตาผู้บริโภค ในปีนี้จึงได้เตรียมกลยุทธ์ 4E ที่จะมาช่วยเสริมภาพลักษณ์และการจดจำให้กับแบรนด์สปอนเซอร์ ที่สำคัญยังส่งผลระยะยาวในการขยายตลาดไปสู่ตลาดเครื่องดื่มเกลือในระดับโลกที่จะประกอบไปด้วย Entrenched No.1 Sport Drink โดยจะเน้นการตอกย้ำความเป็นแบรนด์ผู้นำตลาด ด้วยการคว้านักวอลเลย์บอลสาวทีมชาติไทยอย่าง บุ๋มบิ๋ม ชัชชุอร และ เพียว อัจฉราพร มาเป็นพรีเซ็นเตอร์หลักของสปอนเซอร์ ทั้งบนสื่อ TV และ OoH รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง TikTok และ Facebook
Engage & Inspire กับการเข้าไปมีส่วนร่วมในมหกรรมกีฬาต่างๆ ถึง 150 งานตลอดทั้งปี ทั้งการวิ่ง ปั่นจักรยานหรือการแข่งขันแบบไตรกีฬา โดยล่าสุดสปอนเซอร์ได้เป็นผู้สนับสนุนหลักให้กับการแข่งขันวอลเลย์บอล VNL (Women’s Volleyball Nations League 2023) ซึ่งมีการจัดขึ้นที่ประเทศไทย ขณะที่เรื่อง Educational Content จะเน้นนำเสนอความรู้ต่างๆ ที่จะมาช่วยแก้ข้อสงสัยหรือข้อสับสนให้ชัดเจนมากขึ้น อย่างเช่น Sport Drink ต่างจาก Energy Drink อย่างไร
นอกจากนี้ยังมีการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ อย่าง คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในการจัดประชุมวิชาการโภชนาการแห่งชาติ 2023 หรือการให้ความรู้ถึงความสำคัญของเครื่องดื่มเกลือแร่ในการออกกำลังกาย และเรื่องของ Enlarge Category โดยการพัฒนยาผลิตภัรฑ์ใหม่ตามความต้องการของผู้บริโภค อย่างล่าสุดที่พัฒนาสูตรไม่มีน้ำตาล 0% สำหรับคนที่รักสุขภาพในขวด Pet โดยแก้ Pain Point ของผู้บริโภคที่มองว่าไม่มีน้ำตาล 0% รสชาติจะไม่อร่อย ซึ่งสปอนเซอร์สูตรใหม่แม้น้ำตาล 0% แต่ยังคงรสชาติใกล้เคียงเหมือนเดิม
ที่สำคัญในช่วงที่มีการแข่งขันในประเทศไทย สปอนเซอร์จะมีการจัดกิจกรรมหน้าสนามแข่งขัน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้คน โดยจะมีการแจกสินค้าตัวอย่าง (Sampling) ถึง 1 แสนขวดพร้อมด้วยฉลากพิเศษ 4 ลายของพรีเซ็นเตอร์ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ Box Set VNL Limited Edition และเสื้อรุ่นพิเศษ 2 ลาย โดยสามารถซื้อได้ที่หน้าสนามแข่งขันและช่องทาง e-Commerce จำนวนจำกัดเพียง 5,000 เซ็ตเท่านั้น
ถ้าจะบอกให้ถูกต้องบอกว่า นี่คือการปูทางไปสู่ตลาดโลกที่ใหญ่ขึ้นตามแบรนด์รุ่นพี่ก่อนหน้านี้ที่ยึดพื้นที่ตลาดโลกไว้ได้ และหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญคือการเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันกีฬาระดับโลก ซึ่งช่วยสร้าง Awareness ให้กับตลาดโลก ขณะที่ในตลาดไทยแม้จะเป็นเจ้าตลาด แต่เครื่องดื่มเกลือแร่ก็ยังมีหลายอย่างที่ผู้บริโภคยังไม่รู้หรือไม่เข้าใจ การให้ความรู้จึงเป็นสร้างความเข้าใจและ Brand Perception ให้ชัดเจน ส่วนกิจกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่คือการตอกย้ำผูนำตลาด ยกเว้นแต่จะมีคู่แข่งเข้ามาเล่นอย่างจริงจัง ก็อาจจะได้เห็นภาพการแข่งขันในประเทศที่ชัดเจนขึ้น
