อย่างที่ท่องติดปากกันมาตั้งแต่เด็กว่า คนเราต้องแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน หรือจะดียิ่งกว่า ถ้าเพิ่มการแปรงหลังอาหารด้วย
แต่ถึงแม้เราจะแปรงฟันบ่อยแค่ไหน ก็ไม่ได้รับประกันว่า ช่องปากเราจะสะอาดได้อย่างแท้จริง เพราะนอกจากเรื่องปริมาณหรือจำนวนครั้งในการแปรงแล้ว อีกเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญก็คือ “คุณภาพการแปรงฟัน” ว่า เราแปรงฟันอย่างถูกวิธี และด้วยระยะเวลาที่เพียงพอ คือ ไม่ต่ำกว่า 2 นาทีหรือไม่
แน่นอนว่า ไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้แบบนั้น “แปรงสีฟันไฟฟ้า” ก็เลยเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับใครก็อยากจะเมคชัวร์ว่า ตนเองจะสามารถทำความสะอาดช่องปากได้อย่างครบถ้วน สมบูรณ์จริงๆ รวมไปถึงคนจัดฟัน ผู้สูงอายุ หรือแม้กระทั่งผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้ออ่อนแรง
แปรงสีฟันไฟฟ้าดีตรงไหน?
..เชื่อว่า หลายๆ คนน่าจะยังมีคำถามข้อนี้กวนใจ โดยแม้จะแอบสนใจอยากจะทดลองใช้แปรงสีฟันไฟฟ้ากันอยู่บ้าง แต่ด้วยราคาที่ต่างกันพอสมควรกับแปรงสีฟันแบบทั่วไป จึงต้องคิดเยอะหน่อยว่า ถ้าควักสตางค์ซื้อมาทดลองใช้แล้วจะคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปไหม
จุดเด่นที่เห็นชัดๆ ของแปรงสีฟันไฟฟ้า คือ “ออกแรงน้อยแต่ได้ผลลัพธ์มาก” ซึ่งมีผลงานวิจัยหลายบทความชี้ไปในทางเดียวกันว่า แปรงสีฟันไฟฟ้าขจัดคราบหินปูน และป้องกันโรคเหงืออักเสบได้ดีกว่าแปรงสีฟันธรรมดา
ด้วยความสะดวกในการใช้งาน เพียงแค่จับแปรงในทำมุมที่ถูกต้อง คือ 45 องศา และปล่อยให้แปรงสีฟันไฟฟ้าทำการแปรงให้เรา โดยผู้ใช้แค่ขยับเลื่อนตำแหน่งในการแปรงให้ครบถ้วนทั่วช่องปากเท่านั้น แถมในแปรงสีฟันไฟฟ้าบางรุ่นยังมีระบบจับเวลาในตัว ทำให้ผู้แปรงทราบได้ว่า ใช้เวลาเพียงพอในการแปรงฟันอย่างสะอาดแล้วหรือยัง
นอกจากนี้ แปรงสีฟันไฟฟ้ายังมีพัฒนาการทางเทคโนโลยีขึ้นมาเรื่อยๆ โดยล่าสุด คือ นวัตกรรมที่ใช้พลังสั่นแบบโซนิค ซึ่งช่วยให้สามารถขจัดคราบพลัคและหินปูนได้ดียิ่งขึ้น อย่างเช่นแปรงสีฟันไฟฟ้าแบรนด์ Sparkle ซึ่งมีความโดดเด่นที่เทคโนโลยีนี้ โดยมีจำหน่ายใน 4 รุ่นด้วยคุณสมบัติที่แตกต่างกัน
เริ่มจาก Sparkle Sonic Toothbrush Daily White Plus ขจัดคราบพลัคด้วยพลังการสั่น ผ่านคลื่นโซนิคความเร็วสูงถึง 22,000 ครั้งต่อนาที ขนแปรงดูปองท์ไนลอน ปลายกลมมน 80% ช่วยนวดเหงือก
ขณะที่ Sparkle Sonic Toothbrush Pro Active ขจัดคราบพลัคด้วยพลังการสั่น ผ่านคลื่นโซนิคความเร็วสูงถึง 36,000 ครั้งต่อนาที โดยมีให้เลือกใช้งาน 3 โหมด คือ โหมด White ดูแลฟันขาวด้วยประสิทธิภาพการขจัดสิ่งสกปรกและคราบพลัค/คราบหินปูนที่ยึดเกาะกับผิวฟันให้ฟันขาวเป็นเงา ส่วนโหมด Clean เพื่อดูแลความสะอาด ขจัดคราบหินปูนและคราบพลัคในแต่ละวัน และยังมีโหมด Massage เป็นโหมดนวดเหงือก, ขจัดคราบ เพื่อดูแลเหงือก นวดเหงือกอย่างนุ่มนวล ทำให้ฟันและเหงือกสะอาดสุขภาพดี
ส่วน Sparkle Sonic Toothbrush Triple Active ขจัดคราบพลัคและหินปูนด้วยพลังการสั่น หัวแปรงทำงานสูงสุด 40,000 ครั้งต่อนาที ขนแปรง Spiral ซอกซอนดีเยี่ยม ทำให้ฟันขาวสะอาดเงางาม มาพร้อม 3 ฟีเจอร์ คือ โหมด White เพื่อฟันขาวสะอาด โหมด Sensitive เพื่อการดูแลอย่างอ่อนโยน และโหมด Gum Care ดูแลเหงือก
ปิดท้ายด้วยรุ่น Sparkle sonic Advanced Active ขจัดคราบพลัคและหินปูนด้วยพลังการสั่น หัวแปรงทำงานสูงสุด 40,000 ครั้งต่อนาที ขนแปรง Spiral ซอกซอนดีเยี่ยม ทำให้ฟันขาวสะอาดเงางาม
นอกจากเทคโนโลยีทำความสะอาดด้วยพลังการสั่นแบบโซนิคแล้ว Sparkle sonic Advanced Active ยังมาพร้อมโหมดทำความสะอาดให้เลือก 5 โหมด ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ประกอบด้วย โหมด white สำหรับดูแลฟันขาว โหมด clean ดูแลความสะอาด โหมด Sensitive ดูแลอย่างอ่อนโยน โหมด Gum care ดูแลเหงือก และ โหมด Deep Clean ดูแลความสะอาดอย่างล้ำลึก
วิธีการใช้ก็ไม่ซับซ้อน แค่กดเลือกโหมดที่ต้องการ ใส่ยาสีฟัน สอดแปรงเข้าไปในปากก่อนเปิดสวิทช์ เพื่อป้องกันยาสีฟันกระเด็น แล้วเริ่มต้นใช้งาน เพียงเท่านี้ก็สามารถทำความสะอาดฟัน ดูแลช่องปากได้ตามต้องการ
ส่วนเรื่องราคานั้นก็ถือว่า ไม่แรงจนเกินไป มีให้เลือกเริ่มต้นตั้งแต่ไม่ถึงหนึ่งพันบาท โดยถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นแล้วก็ถือว่า ย่อมเยาเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์มากกว่า
แปรงสีฟันไฟฟ้า Sparkle Sonic Toothbrush จึงถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทั้งในแง่ประสิทธิภาพและราคา ผู้สนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sparklethailand.com
