แบรนด์ “SONY” ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งระดับโลก แม้ว่าจะประสบอุปสรรคมากมายขนาดไหน SONY ก็สามารถพลิกมุมกลับมาสู่ตำแหน่งผุ้นำตลาด นี่คือหนึ่งในข้อดีของ SONY อีกสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือการปรับตัวที่ SONY เรียกว่าพร้อมทิ้งความยิ่งใหญ่ในภาพลักษณ์เดิมๆ ลงแบบชนิดที่เรียกว่าพลิกหน้ามือกันเลยทีเดียว
ในอดีตต้องยอมรับว่า SONY เป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเลคทรอนิกส์ที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดทีวี รวมไปถึงการก้าวเข้าสู่ตลาดโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งก็ประสบความสำเร็จจนก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำตลาด แต่หลังจากตลาดเกิดการแข่งขันอย่างรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะการเข้ามาของสินค้าจีนที่เข้าทำตลาดด้วยราคา ทำให้ SONY ค่อยๆ ลดบทบาทลง ส่วนตลาดเครื่องเกมคอนโซลอย่าง PlayStation ก็ถูกเกมออนไลน์จนหลีกหนีผลกระทบไม่พ้น
นอกจาก SONY จะมีชื่อเสียงในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ Hardware แล้ว SONY ยังได้มีการพัฒนาในส่วนของ Software หรือที่ในปัจจุบันเรียกว่า “คอนเท้นต์ (Content)” โดยเฉพาะในเรื่องของภาพยนตร์และเพลง รวมไปถึงการพัฒนาตัวเกมด้วยเช่นกัน ซึ่งในช่วงหลังกลุ่มคอนเท้นต์ได้รับความิยมเพิ่มมากขึ้น ยิ่งเมื่อเทคโนโลยีพัฒนามาถึงการเข้าสู่โลกเสมือนจริงหรือ Metaverse คอนเท้นต์ยิ่งมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น
โดย SONY มองว่า Metaverse จะกลายเป็นโลกเสมือนที่เปิดพื้นที่ทางสังคม และจะกลายเป็นศูนย์กลางขแงการเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง และการ์ตูนที่จะมาบรรจบพบกันในเวลาเดียวกัน และเมื่อมองย้อนกลับมาดูที่ SONY จะพบว่าในธุรกิจที่เกี่ยวกับหนัง เพลง เกม กลายเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้กับ SONY มากกว่าอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ต่างๆ แม้ว่าจะมีการพัฒนาอุปกรณ์เพื่อเชื่อมโยงโลก Metaverse
และหากวิเคราะห์กันให้ดีจะเห็นว่า ธุรกิจภาพยนตร์ของ SONY Pictures มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากการที่ภาพยนตร์หลายเรื่องจาก SONY เริ่มทะยอยออกฉายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Spider-Man, 007, Venom และ Jumanji เป็นต้น ประกอบกับโรงภาพยนตร์ทั่วโลกเริ่มกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ หลังปิดตัวชั่วคราวไปจากสถานการณ์โรคระบาด
ด้านธุรกิจดนตรีอย่าง SONY Music ก็มีโอกาสเติบโต ทั้งในแง่ของเพลงประกอบภาพยนตร์ รวมไปถึงเพลงจากศิลปินต่างๆ ยิ่งไปกว่านั้น SONY ยังสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์ม Music Streaming ได้ ช่วยให้ธุรกิจดนตรีสามารถเติบโตได้อย่างดี และการขยายไปสู่ Padcast ที่ดูเหมือนจะเติบโตได้เป็นอย่างดีในแผ่นดินสหรัฐฯ
ขณะที่ SONY Interactive ผู้พัฒนาเกมก็มีแผนขยับตัว โดยเริ่มมีแผนเข้าลงทุนในบริษัทผู้ผลิตเกมต่างๆ เพื่อขยายเกมให้เข้าสู่ทุกแพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็น PlayStation, PC, SmartPhone เป็นต้น ซึ่งคอนเท้นต์ที่จะเกิดขึ้นทาง 3 ธุรกิจสามารถขยายเข้าไปสู่โลกเสมือนอย่าง Metaverse ได้ และจะกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการนำคอนเท้นต์ต่างๆ เข้าถึงผู้ใช้งานได้อย่างใกล้ชิด
สิ่งที่ SONY ตั้งเป้าไว้คือการนำเทรนด์เหมือนที่ SONY Walkman เคยสร้างไลฟ์สไตล์ใหม่ในการพกพาความบันเทิงติดตัวไปในช่วงปี 1979 และ SONY ก็หวังว่าเทรนด์ในอนาคตการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมจะสามารถทำได้บน Metaverse นอกจากนี้ SONY ยังทุ่มเทกับการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อให้กลายเป็นหนึ่งช่องทางในการเข้าสู่แพลตฟอร์มบนโลก Metaverse
Source: Reuters