หากพูดถึงช่วงเวลาที่วงการน้ำดำหรือน้ำอัดลมทำตลาดได้คึกคักที่สุด คงหนีไม่พ้นช่วงซัมเมอร์ ที่ทุกแบรนด์ต้องงัดกลยุทธ์เด็ดออกมาเพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาดที่มีมูลค่าประมาณ 54,900 ล้านบาท ลดลงจากปีที่ผ่านมา 4.7% ซึ่งเป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังอ่อนตัว โดยสามผู้เล่นรายใหญ่อย่าง เป๊ปซี่, โค้ก และเอส ก็ไม่พลาดโอกาสนี้เช่นกัน มาดูกันว่า Top 3 ของเจ้าตลาดน้ำดำมีแคมเปญอะไรน่าสนใจบ้าง
เป๊ปซี่ ชูกลยุทธ์ 4C หวังรักษาฐานแบรนด์เลิฟ ต่อยอดสู่ลูกค้าใหม่
ถือเป็นการฉลองครบรอบ 120 ปีอย่างยิ่งใหญ่ และเป็นแบรนด์ที่อยู่เคียงข้างคนไทยมาแล้วกว่า 65 ปี เป๊ปซี่ ทุ่มงบการตลาดกว่า 300 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ “เป๊ปซี่ ซ่าทุกยุค…ไม่มีเปลี่ยน” ตอกย้ำความเป็นแบรนด์เครื่องดื่มร่วมสมัยที่ครองใจคนรุ่นใหม่ในทุกเจเนเรชันตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ซึ่งในซัมเมอร์นี้เป๊ปซี่อัดกิจกรรมการตลาดเต็มสูบ พร้อมชูกลยุทธ์ 4C คือ การสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร (Comprehensive Communication), การนำเสนอแพ็คเกจจิ้งรุ่นพิเศษ (Commemorative Packaging) การร่วมมือกับแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำในประเทศ (Collaboration with Local Brand) และการสร้างประสบการณ์ร่วมกับผู้บริโภค (Connected Consumer Experience)
ภายใต้กลยุทธ์การตลาดดังกล่าว พร้อมกันนี้ เป๊ปซี่ยังได้เปิดตัวแพ็คเกจจิ้งรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น 4 ลวดลายที่มาจาก 4 ยุค นั่นคือ ยุค 1940 ยุค 1950 ยุค 1980 และ ยุค 2000 เสื้อผ้าคอลเล็กชั่นพิเศษที่เป๊ปซี่ร่วมมือกับเกรย์ฮาวด์ พร้อมรุกสร้างแบรนด์เอ็กซ์พีเรียนซ์กับผู้บริโภคผ่าน “PEPSI GENERATIONS CLUB” คลับสไตล์เรโทรในรูปแบบป๊อบ-อัพใจกลางเมือง ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำตลาดน้ำดำในบรรจุภัณฑ์แบบไม่ต้องคืนขวดและเป็นแบรนด์ที่มียอดขายเติบโตสูงที่สุดในตลาดในปีที่ผ่านมา
โค้ก ร่วมสร้างความภูมิใจผ่าน 24 แหล่งท่องเที่ยวในไทย
หากใครยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้โค้กมีแคมเปญ “Share a coke” ที่เปลี่ยนจากฉลากสีแดงบนขวดโค้กเป็นชื่อเล่นยอดฮิตของคนไทยจำนวน 80 ชื่อ มาพิมพ์ลงบนฉลากเพื่อให้ผู้บริโภคได้ส่งต่อความรู้สึกดีๆ ถึงกัน ซึ่งแคมเปญนี้ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี ล่าสุด โค้ก ส่งแคมเปญใหม่ “ฮูลาฮูล่ากับโค้กหน้าร้อนนี้” ปลุกกระแสการท่องเที่ยวในประเทศไทย พร้อมเปิดตัวฉลากบนกระป๋องและขวด PET ที่พิมพ์ชื่อสถานที่ และแหล่งท่องเที่ยวเด่นๆ 24 แห่งทั่วประเทศไทย
เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ โค้กได้ใช้กลยุทธ์การตลาดแบบครบวงจร 360 องศา ทั้งการจัดทำภาพยนตร์ชุดใหม่ นำแสดงโดยปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์ และมีการใช้สื่อนอกบ้านตามจุดสำคัญๆ ของการเดินทาง อาทิ ท่าอากาศยานดอนเมืองและท่าอากาศยานหลักๆ ครอบคลุมสี่ภาคทั่วไทย อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ยอดตึกใบหยก รวมไปถึงการเป็นพันธมิตรกับสายการบินแอร์เอเชีย
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นแคมเปญที่ปลุกกระแสการท่องเที่ยวในประเทศ เน้นสร้างการรับรู้ และสร้างการมีส่วนร่วมตลอดการเดินทาง
เอส ดึง GOT7 เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ตั้งเป้าขยายฐานแฟนเลิฟวัยทีน
สำหรับ เอส โคล่า ในปีนี้ต้องบอกว่ามาแรงจริงๆ ทั้งในแง่การสื่อสารการตลาด และการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด ล่าสุด เอส ได้ต่อยอดความสำเร็จในการใช้ “GOT7” บอยแบนด์ดังจากเกาหลีเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ปีที่ 3 และในปีนี้เอสได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “ม่วนอีหลี” ที่พาหนุ่ม GOT7 เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวในภาคอีสาน และสวมใส่เสื้อผ้าแบบไทยๆ ภายใต้แนวคิดการสื่อสาร “เอส โคล่า ซ่าซื้ดสุดขั้ว ม่วนอีหลีกับ GOT7” เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มวัยรุ่น และสร้างความรู้สึกใกล้ชิดระหว่างไอดอลกับผู้บริโภค
หลังเผยแพร่ภาพยนตร์โฆษณาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มียอดวิวสูงกว่า 10 ล้านวิว และยังได้รับการชื่นชมที่มีส่วนในการช่วยประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยอีกด้วย
จากความเคลื่อนไหวของทั้ง 3 แบรนด์ ที่เปิดตัวแคมเปญและออกแพคเกจใหม่ ถือเป็นการสร้างสีสันในช่วงซัมเมอร์นี้ได้อย่างน่าสนใจ คาดว่าในปีนี้แต่ละแบรนด์ยังมีแคมเปญใหญ่เตรียมเปิดตัวอีกเพียบ