หลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ลงนาม (Executive order) ห้ามพลเรือนจาก 7 ประเทศมุสลิม ได้แก่ อิรัก ซีเรีย อิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน และเยเมน เดินทางเข้าสู่สหรัฐฯ เป็นเวลาอย่างน้อย 90 วัน หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงนั้น ปรากฏว่าบรรดาบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย
ทั้งนี้ บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ Silicon Valley นั้นได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะพนักงานหลายคนเป็นคนจาก 7 ประเทศที่ถูกแบนตามคำสั่งดังกล่าว ซึ่งทำให้บริษัทเหล่านี้ออกตัวประกาศจุดยืนที่จะเข้าช่วยเหลือพนักงานที่อยู่ในข่าย 7 ประเทศดังกล่าว
Google นำโดย Sundar Pichai ซีอีโอ ได้เรียกพนักงานต่างชาติที่เดินทางออกนอกประเทศ ให้รีบเดินทางกลับสหรัฐฯ ทันที ซึ่งคาดว่าพนักงานของ Google มีอยู่ราว 200 คน นอกจากนี้ ยังได้ตั้งกองทุนประมาณ 2 ล้านเหรียญฯ เพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายแก่พนักงานที่อยู่ในข่าย 7 ประเทศมุสลิมดังกล่าว
Uber ได้ตั้งกองทุน 3 ล้านเหรียญฯ เพื่อช่วยเหลือคนขับที่ทำงานกับแพล็ทฟอร์มนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพ โดยซีอีโอ Travis Kalanick กล่าวด้วยว่า จะให้การช่วยเหลือด้านกฎหมายแก่พนักงานขับรถที่เผชิญกับปัญหาการส่งตัวกลับ พร้อมกับเงินชดเชยที่สูญเสียรายได้
Lyft สตาร์ทอัพบริการโดยสารรถร่วมันแบบ On-demand เองก็ประกาศจะบริจาคเงิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กับ ชสหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน (ACLU) เพื่อสนับสนุนการต่อสู้ในอีก 4 ปีข้างหน้า กับนโยบายที่กีดกันการเดินทางของประธานาธิบดีสหรัฐฯ และยังมีนักลงทุนอีกมากที่ประกาศสนับสนุน ACLU
Facebook โดยมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ระบุว่า เป็นนโยบายหว่านแหมากเกินไป และกำลังประเมินสถานการณ์จะให้การปกป้องพนักงานอย่างไร
Netflix โดยซีอีโอ Reed Hastings ระบุว่า การกระทำของทรัมป์กำลังทำร้ายพนักงานเน็ตฟลิกซ์ทั่วโลก และเป็นนโยบายที่ขัดต่อความเป็นอเมริกันชน ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องร่วมมือกันเพื่อปกป้องคุณค่าความเป็นอเมริกันที่จะมอบเสรีภาพและโอกาสแก่ทุกๆ คน
Airbnb โดยซีอีโอ Brian Chesky เสนอที่พักฟรีให้กับผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสหรัฐฯ โดยรายละเอียดจะเป็นอย่างไรยังไม่ได้มีการเปิดเผยอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐมีคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินพลเมืองจาก 7 ประเทศดังกล่าวชั่วคราว สำหรับผู้ได้วีซ่าหรือสถานะผู้ลี้ภัยก่อนมีคำสั่งของทรัมป์ หลัง ACLU ยื่นคำร้อง โดยมีผู้ที่ถูกควบคุมตัวตามสนามบินจากคำสั่งดังกล่าวราว 200 คน