เวลานี้ไม่ว่าจะไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประเภทไหน ก็ล้วนแต่เต็มไปด้วยการแข่งขันที่ดุเดือด “ธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน” ก็เช่นเดียวกัน หากมองภาพรวมการแข่งขันของปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าผู้ให้บริการสถานีน้ำมันหลายแบรนด์ หันมาพัฒนาปั๊มให้ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ให้มากขึ้น ทำให้ภาพลักษณ์ของปั้มน้ำมันเป็นมากกว่าการจำหน่ายน้ำมัน
ล่าสุด เชลล์ ก็เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่รุกธุรกิจค้าปลีกอย่างจริงจัง เป้าหมายของเชลล์คือ การขยายสัดส่วนธุรกิจ Non-Oil (การขยายเชิงพาณิชย์) ให้ได้ 50% ของจำนวนสาขาทั้งหมด จากเดิมที่มี 20% ภายในปี 2568 โดยชู 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การขยายสาขา, โฟกัสธุรกิจ Non-Oil ให้มากขึ้น และพัฒนาบริการในทุกด้าน
1. ปัจจุบันเชลล์มีสถานีบริการน้ำมัน 520 สาขา และตั้งเป้าขยายสาขาให้ได้ 800 สาขาภายในปี 2565 แบ่งออกเป็น 2 โมเดล คือ เชลล์ลงทุนเอง และผู้แทนจำหน่ายลงทุน
2. สู้ศึก Non-Oil เต็มรูปแบบ ด้วยร้านกาแฟ เดลี่ คาเฟ่ (delicafé) ร้านค้าสะดวกซื้อ เชลล์ ซีเล็ค (Shell SELECT) ศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเชลล์ เฮลิกส์ พลัส (Shell HELIX OILCHANGE+) และ ศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถจักรยานยนต์เชลล์ แอ๊ดว้านซ์ มอเตอร์ แคร์ เอ็กซ์เพรส (Shell Advance Motor Care Express)
• ร้านกาแฟ เดลี่ คาเฟ่ (delicafé) เป็นแบรนด์ของเชลล์โดยเฉพาะ ซึ่งเชลล์ทั่วโลกจะมีร้านเดลี่ คาเฟ่ เพียงแต่ในไทยจะเป็นแห่งแรกของโลกที่ชูคอนเซปต์ Breathing Space to Recharge เป็นพื้นที่ที่ลูกค้าให้พักผ่อน ทานกาแฟ และขนมสูตรเฉพาะ ในราคาสบายกระเป๋า ปัจจุบันเชลล์มีร้านกาแฟ เดลี่ คาเฟ่ ทั้งหมด 55 สาขาทั่วประเทศ และตั้งเป้าขยายเพิ่มอีกปีละอย่างน้อย 30 สาขา
• ร้านค้าสะดวกซื้อ เชลล์ ซีเล็ค (Shell SELECT) ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 76 สาขา เชลล์เตรียมปรับปรุงทุกสาขาทั่วประเทศให้เป็น Shopping Destination ที่มีสินค้าหลากหลาย และแตกต่างกันไปในแต่ละสาขา เป็นแหล่งของฝากทั้งขาเข้า-ขาออก นอกจากนี้ ภายในร้านยังมีพื้นที่สำหรับนั่งรับประทานภายในร้านเพื่อความสะดวกสบายของลูกค้ามากขึ้น หลังจากได้รับใบอนุญาติให้เช่าที่ภายในสถานีน้ำมันจากภาครัฐ เชลล์ได้เปิดให้ผู้ประกอบการ SME เข้ามาทำธุรกิจได้
• จากชื่อเดิม โปรเซิร์ฟ เชลล์ได้รีแบรนด์ครั้งใหญ่ เปลี่ยนชื่อเป็น ศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเชลล์ เฮลิกส์ พลัส โดยเพิ่มห้องพักขณะรอ และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องภายในเวลาที่รวดเร็ว ปัจจุบันมี 350 สาขา และเตรียมเปิดเพิ่มอีกปีละ 35 สาขา นอกจากการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์ที่เราคุ้นเคยแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เชลล์ได้โฟกัสกลุ่มรถจักรยานยนต์มากขึ้น ในชื่อ Shell Advance Motor Care Express โดยตั้งเป้าจะเปิดให้ครบ 200 สาขาภายในปีนี้
• เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ลูกค้าได้ครบวงจร เชลล์ได้ร่วมมือกันพันธมิตรธุรกิจร้านอาหารและการจัดส่งพัสดุชั้นนำในไทย อาทิ Kerry Express, A&W, Burger King, KFC, The Pizza Company, McDonald’s, Citibank, SCB, KTC และธนาคารกรุงศรี
3. ต้องยอมรับว่าเพื่อพูดถึงปั๊มน้ำมัน นอกจากน้ำมันแล้ว คนส่วนใหญ่มักนึกถึงห้องน้ำ เชลล์ได้ปรับปรุงห้องน้ำมากกว่า 50 แห่งต่อปี โดยร่วมมือกับ SCG ในการออกแบบและการใช้วัสดุต่างๆ โดยปรับปรุงให้สะอาด สว่าง ปลอดภัย และสวยงาม ปัจจุบันเชลล์มีห้องน้ำรูปแบบใหม่กว่า 200 แห่ง
ในส่วนของการชำระเงินด้วย QR Code เชลล์ได้ร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ในการพัฒนาระบบ QR Payment เพื่อชำระค่าน้ำมันเชื้อเพลงครั้งแรกในไทยภายใต้คอนเซปต์ Digital Cashless Station นำร่องสถานีบริการน้ำมันไร้เงินสดเต็มรูปแบบ ณ สถานีบริการน้ำมันเชลล์เลิศตระการ ตรงข้ามธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่รัชโยธิน
ด้านงานบริการที่เป็นหัวใจหลัก คุณอรอุทัย ณ เชียงใหม่ กรรมการบริหาร ธุรกิจการตลาดค้าปลีก บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เผยว่า กลยุทธ์หลักของเชลล์คือการส่งมอบบริการที่เป็นเลิศ ผ่าน 3 จุดแข็งของแบรนด์ ทั้งนวัตกรรม พันธมิตร และบุคลากร เชลล์ได้ลงทุนกับศูนย์ฝึกอบรมบุคลากร เพื่อการให้บริการที่ประทับใจ เพราะเราไม่ต้องการให้ลูกค้าที่เข้ามาออกจากปั๊มเชลล์อย่างมีความทุกข์
อนึ่ง เชลล์มีจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการเฉลี่ยสัปดาห์ละ 3,000,000 คน และในปีที่ผ่านมาเชลล์เติบโตขึ้น 6% ซึ่งเติบโตมากกว่าตลาดน้ำมันอยู่ที่ 3.5%
จากกลยุทธ์ทั้งหมดนี้ คงบอกได้ชัดเจนว่า ผู้บริโภคไม่ได้มองหาน้ำมันที่มีคุณภาพอีกต่อไป สถานีบริการน้ำมันจึงต้องมีบริการและสินค้าอื่นๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค ซึ่งนี่เป็นแผนระยะยาวตลอดปีของเชลล์ แม้วันนี้จะยังไม่ใช่เบอร์หนึ่งในตลาด แต่ต่อจากนี้ไปคงต้องจับตาดูว่า เชลล์จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้ตัวเองได้หรือไม่ จากเดิมที่มีเพียง 13%
