SCB ได้สร้าง Big Challenge ด้วยการประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์ม Food Delivery ในชื่อ ‘Robinhood’ ภายใต้จุดขาย ไม่เก็บค่า GP-ไม่ชาร์จเพิ่ม เพื่อเป็นอีกหนึ่งโมเดลธุรกิจในการสร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ และเป็นการต่อยอด Digital Transformation ยุทธศาสตร์หลักในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
ที่มาของแพลตฟอร์มนี้ เกิดจากไอเดียของ ‘อาทิตย์ นันทวิทยา’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ในช่วง Work from home จากการระบาดของโควิด-19 ซึ่งต้องการคืนกลับสู่สังคม และเห็นว่า SCB มีลูกค้าเป็นร้านอาหารเป็นจำนวนมาก จึงได้คิดจะพัฒนาแพลตฟอร์มนี้ขึ้นมาเพื่อให้ทั้งร้านอาหาร คนส่ง และลูกค้า ได้รับผลประโยชน์เต็มที่ในเวลาที่สังคมเปลี่ยนแปลงไป
สำหรับจุดเด่นของ ‘Robinhood’ ได้แก่
1.ไม่คิดค่า GP (ขณะที่ผู้ให้บริการรายอื่น มีการเก็บอยู่ที่ 30-35% และเป็น pain point ของธุรกิจนี้ที่ยังเป็นประเด็นถกเถียงกันอยู่)
2.สมัครฟรี
3.ได้เงินเร็วภายใน 1 ชั่วโมง หลังจากส่งอาหารเสร็จสมบูรณ์
4.มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อ เพราะนอกจากเป็นแพลตฟอร์ม Food Delivery แผนต่อไป คือการพัฒนาให้ Robinhood นำเสนอบริการอื่น ๆ อาทิ สินเชื่อ เป็นต้น
“เราไม่ได้ต้องการเป็นแชมป์หรือยูนิคอร์น และไม่ต้องการแข่งกับใคร เพราะเราสร้างมาเพื่อเป็นทางเลือก และคืนกลับสู่สังคม ส่วนการดึงคนมาใช้บริการ จะเน้นสื่อสารให้เห็นว่า เราเป็นอีกทางเลือกที่เป็นประโยชน์ทั้งคนสั่ง คนขับ และร้านอาหาร และไม่มีการทำโปรโมชั่นเหมือนผู้ให้บริการรายอื่น เพราะถ้าทำนั่นหมายถึงต้นทุนของเราจะเพิ่มขึ้น เท่ากับขุดหลุมให้ตัวเองตกลงไป เนื่องจากเราไม่ได้คิดค่าธรรมเนียม”
“ครั้งนี้ถือเป็นการสร้าง Big Challenge สำหรับเรา เพราะเป็นการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ ที่สามารถเพิ่มโอกาสและ Value ให้กับองค์กร SCB ให้เป็นมากกว่าผู้ให้บริการทางการเงิน สร้าง Culture ใหม่ ให้ไม่ว่าจะอยู่ในสนามไหน หรือมีโอกาสธุรกิจใหม่ ๆ เข้ามา จะทำให้เราพร้อมสู้และอยู่รอดได้”
ทั้งนี้ ‘Robinhood’ ใช้เวลาพัฒนา 3 เดือน มีบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ในเครือของ SCB 10X เป็นผู้ดำเนินการ และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งเบื้องต้นได้จับมือกับบริษัทเดลิเวอรี่สัญญาติไทยอย่าง SKOOTAR ทำหน้าที่เป็นผู้จัดส่ง โดยให้บริการในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึงขยายไปสู่ต่างจังหวัดในอนาคต
สำหรับเป้าหมายของการให้บริการ ช่วงแรกคาดว่า จะมีร้านค้าเข้ามาบนแพลตฟอร์มกว่า 20,000 แห่ง และเพิ่มเป็น 40,000-50,000 แห่งภายในสิ้นปี 63 ขณะที่จำนวนผู้ใช้บริการนั้น ยังไม่ได้ตั้งเป้าหมายชัดเจน เนื่องจากขึ้นอยู่กับว่า สามารถสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าได้ดีแค่ไหน
หากประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องยอดการใช้จ่ายและจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการ Robinhood จะถูกพัฒนาให้เป็นมากกว่าแพลตฟอร์ม Food Delivery อาทิ การให้บริการสินเชื่อ เป็นต้น