ถ้าจะบอกว่าธนาคารให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) มากกว่าเมื่อก่อนก็คงจะไม่แปลกอะไรเนื่องจากพฤติกรรมการใช้เงินในยุคนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากเดิมที่หลายคนจะต้องไปเบิกเงินที่สาขาธนาคารหรือไปกดเงินที่ตู้ ATM ปัจจุบันก็หันมาใช้วิธีการใช้จ่ายผ่านมือถือในรูปแบบของ e-Payment ยิ่งรัฐบาลสนับสนุนให้มีการโอนเงินผ่านพร้อมเพย์ (Promptpay) ที่ไม่มีค่าดำเนินการ ยิ่งช่วยให้การทำธุรกรรมทางการเงินมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น
นั่นจึงเป็นที่มาของรูปแบบการจ่ายเงินแบบใหม่ที่สะดวกยิ่งกว่า e-Payment ผ่าน QR Code ซึ่งปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงการดำเนินการทดสอบระบบมาตรฐานเดียวของ QR Code ในประเทศไทยหรือที่เรียกกันว่า Sandbox เพื่อให้ผู้ใช้งานทั้งฝ่ายผู้ซื้อและฝ่ายผู้ขายใช้งานได้สะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นส่งผลให้ธนาคารหันมาให้ความสำคัญกับการชำระเงินผ่าน QR Code มากยิ่งขึ้น
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)เป็นหนึ่งในหลายธนาคารใหญ่ที่ลงมาเล่นตลาดการชำระเงินผ่าน QR Code อย่างเต็มรูปแบบประกาศเตรียมความพร้อมในการให้บริการชำระเงินผ่าน QR Code ได้ทันทีหลังธนาคารแห่งประเทศไทยยุติ Sandbox ซึ่งจากการสำรวจความเข้าใจของพ่อค้าแม่ค้าสำหรับแอปพลิเคชั่นSCB Easy Pay พบว่าส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจว่าแอปฯช่วยการค้าขายได้อย่างไรอันเนื่องมาจากชื่อแอปฯที่เป็นภาษาอังกฤษและความไม่คุ้นชินกับระบบ QR Code
ประกอบกับ SCB เห็นว่าพฤติกรรมผู้ขายในประเทศไทยส่วนใหญ่ยังคงมีเรื่องความเชื่อเพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นผู้ช่วยเรียกลูกค้าเข้าร้าน เช่น นางกวัก เป็นต้น SCB จึงได้เปิดตัว “แม่มณี” ตัวแทนระบบ QR Code ที่ผสานเทคโนโลยีและความเชื่อเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ภายใต้แคมเปญ “SCB EASY PAY – แม่มณี Money Solution” พร้อมการสื่อสารที่ให้พ่อค้าแม่ค้าเข้าใจถึงระบบการใช้งานได้อย่างง่ายดายและสะดวกเสมือนพ่อค้าแม่ค้ามาคุยด้วยกันเอง
นายธนา เธียรอัจฉริยะ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส Chief Marketing Officer ธนาคารไทยพาณิชย์ ชี้ว่า SCB ยังพบจุดอ่อนการทำการค้าของกลุ่มธุรกิจรายย่อยซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเด็นด้วยกันทั้งเรื่องของลูกค้าไม่มีเงินพอจ่ายต้องออกไปกดเงินที่ตู้ ATM ก่อนและมากกว่า 50% จะไม่กลับมาซื้อสินค้านั้นรวมถึงลูกค้าจ่ายธนบัตรมูลค่าสูง (แบงค์ 1,000 บาท) ทำให้ร้านค้าต้องวุ่นวายในการหาเงินทอนและประเด็นพนักงานภายในร้านที่อาจจะมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการคิดเงิน ส่งผลให้เกิดการทอนเงินผิดหรือมีการยักยอกเงินของร้านเข้ากระเป๋าตัวเอง
เหล่านี้คือจุดอ่อนที่พ่อค้าแม่ค้าต้องประสบปัญหาอยู่ไปบ่อยๆ SCB จึงได้ส่ง “แม่มณี” ช่องทางการชะระเงินด้วย QR Code เข้ามาแก้ปัญหา ด้วยวิธีการจ่ายผ่าน QR Code ทำให้ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาไปหาตู้ ATM เพื่อกดเงินขณะที่ร้านค้าก็ไม่ต้องวุ่นวายกับการหาเงินทอนและยังสามารถป้องกันการทอนเงินผิดพลาดของพนักงงานในร้านหรือการยักยอกเงิน เนื่องจาก QR Code จะเชื่อมต่อโดยตรงกับบัญชีร้านค้าหรือบัญชีเจ้าของร้าน
“เนื่องจากรูปแบบการชำระเงินจริงๆ แล้วก็คือการนำเงินจากบัญชีหนึ่งไปใส่ในอีกบัญชีหนึ่งหรือก็คือการโอนเงินนั่นเอง ซึ่งรัฐบาลได้มองการณ์ไกลมากที่เห็นอนาคตจะต้องมีการโอนเงินแทนรูปแบบการชำระเงินแบบเดิมๆ รัฐบาลจึงมีการเปิดตัวพร้อมเพย์ (Promptpay) ที่สามารถโอนเงินตั้งแต่ 1-5,000 บาทได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (Transaction) เมื่อระบบ QR Code อยู่บนพื้นฐานของพร้อมเพย์ ทำให้ผู้ใช้สามารถซื้อสินค้าราคาตั้งแต่ 1-5,000 บาทได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายอื่นใด”
นอกจากนี้คุณธนายังชี้ว่า ในต่างประเทศที่มีการชำระเงินผ่าน QR Code อย่างจีนและอินเดียก็ยังประสบปัญหามาตรฐานการใช้ QR Code ที่มีมากกว่า 1 มาตรฐานทำให้ร้านค้าต้องมี QR Code มากกว่า 1 Code ส่วนผู้ใช้เองก็ต้องเลือกใช้ QR Code ให้ตรงกับระบบที่ตัวเองใช้ ขณะที่มาตรฐานเดียวของ QR Code ในประเทศไทยที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำลังดำเนินการทดสอบอยู่นั้น จะช่วยให้ผู้ซื้อสามารถใช้แพลตฟอร์ม QR Code ของแต่ละธนาคารที่ตัวเองใช้อยู่ได้ ด้านผ็ขายก็ใช้ QR Code เพียง Code เดียวเท่านั้นซึ่งสามารถใช้ได้กับทุกธนาคาร
“ในอนาคตหากการทดสอบมาตรฐานเดียว QR Code ของธนาคารแห่งประเทศไทยสำเร็จแอปพลิเคชั่นSCB Easy Payจะมีลูกเล่นออกมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชั่นเรื่องของการสร้าง QR Code ด้วยตัวเอง (QR Code Generate) ผ่านแอปฯ หรืออย่างในปัจจุบันที่ผู้ขายสามารถทราบความเคลื่อนไหวบัญชีผ่านระบบแจ้งเตือน SCB Connect บน LINE แพลตฟอร์ม เพราะผลสำรวจพ่อค้าแม่ค้ามากกว่า 90% ใช้แอปพลิเคชั่น LINE เป็นต้น”
นอกจากนี้ธนาคารไทยพาณิชย์ยังได้เตรียมแผนการสื่อสารการตลาดแบบ 360 องศา โดยเฉพาะภาพยนตร์โฆษณา (TVC) ที่ได้ “ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในฐานะตัวแทนร้านค้า และจะเริ่มออกอากาศหลังธนาคารแห่งประเทศไทยประสบผลสำเร็จในการทดสอบมาตรฐานเดียว QR Code แล้ว รวมถึงการจัดกิจกรรมทั่วประเทศโดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการใช้งานที่จะมีมากขึ้นทั่วประเทศ
“เราต้องยอมรับว่าคู่แข่งของเรามีความแข็งแกร่งมาก ซึ่งการดำเนินการตามรูปแบบเดิมๆ ก็จะเป็นเดินตามเกมของคู่แข่ง ดังนั้นจึงต้องใช้โอกาสนี้ในการสร้างความเข้าใจและสร้างความเชื่อมั่นในระบบ QR Code ของ SCB แน่นอนว่าอนาคตจะต้องมีการแข่งขันอัดโปรโมชั่นกันอย่างเต็มที่ เพื่อแย่งชิงจำนวนบัญชีเงินฝากซึ่งถือเป็นฐานที่สำคัญของการใช้จ่ายผ่าน QR Code ในอนาคต”
ทั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ตั้งเป้าว่าจะสามารถสร้างคิวอาร์โค้ดออกไปได้กว่า 500,000 บัญชีภายในสิ้นปี 2018 โดยระบบ QR Code จะแบ่งออกเป็น 2 ระบบทั้งแบบPhysical ที่ราคาจะถูกกำหนดไว้ที่ราคาเดียว เมื่อสแกน QR Code ระบบจะทำการชำระตามที่ได้กำหนดไว้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าราคาเดียวกันทั้งร้าน และแบบ Dynamic ที่ราคาจะแปรผันตามสินค้าแต่ละชนิด และคาดว่าในร้านที่มีสินค้าหลายชนิดที่ราคาแตกต่างกัน จะมีการแยก QR Code ตามแต่ประเภทและชนิดของสินค้า ซึ่งทำให้ร้านค้าอาจมีมากกว่า 1 QR Code
Copyright © MarketingOops.com