ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อัตราการเติบโตของตลาดเครื่องดื่มในบ้านเราไม่สู้ดีนัก ผิดกับเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริ้งค์ที่เติบโตเล็กน้อย เพียง 2-3% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้บริโภคไม่ใช้จ่ายเงินเท่าที่ควร บวกกับเทรนด์การดูแลสุขภาพที่มาแรง ทำให้ผู้บริโภคความสำคัญกับการกินมากขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดและกำลังซื้อของผู้บริโภค “เซ็ปเป้ ” ในฐานะผู้นำตลาดฟังก์ชันนอลดริ้งค์ กลุ่ม Beauty Drink ที่มีส่วนแบ่งการตลาด 28% จึงเดินหน้าเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมเดินเครื่องกลยุทธ์การตลาดรูปแบบใหม่ๆ ออกมา
หากใครยังจำได้ ปีที่แล้วมีไวรัลเซ็ปเป้ สีฟ้าโด่งดังอย่างมากในโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นการปลุกกระแสเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริ้งค์ให้กลับมามีสีสันอีกครั้ง ปีนี้เซบเป้ได้ชูแนวคิดการนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค พร้อมเดินหน้าเปิดตัวสินค้าใหม่อีกหลายรายการ โดยใช้งบการทำ R&D กว่า 100 ล้านบาทต่อปี
เสริมทัพความแข็งแกร่งด้วยผู้เชี่ยวชาญในอุตฯ เครื่องดื่มมากว่า 27 ปี
ในปี 2561 บริษัทฯ ได้เสริมทัพผู้บริหารฝ่ายขายและการตลาด โดยดึง คุณวรพงศ์ เกียรติดำรงวงศ์ อดีตผู้บริหารระดับสูงของเนสท์เล่ที่มีความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญด้านการขายและการตลาดในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มมากว่า 27 ปี มาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายและการตลาด (Chief Commercial Officer) เพื่อรับผิดชอบด้านการพัฒนากลยุทธ์ กำหนดแผนการตลาดต่างประเทศและในประเทศไทย
ปีนี้ เซ็ปเป้ ตั้งงบการตลาดไว้ที่ 300 ล้านบาท เดินหน้าทำตลาดตลอดปี ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อเพิ่มยอดขาย และขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ พร้อมเปิดตัวสินค้าใหม่ Beauty Jelly เปิดตัววันที่ 5 เมษายนนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยว่าใครจะเป็นพรีเซนเตอร์ ด้าน “เพรียว คอฟฟี่” มีแผนใช้งบการตลาดสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก เน้นการตลาดอีเวนต์ On ground และมีคิวเปิดตัวสินค้าใหม่ช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้เช่นกัน
ในส่วนของการทำตลาดต่างประเทศ บริษัทฯ ไม่ได้แค่เข้าไปวางจำหน่ายอย่างเดียว แต่จะเข้าไปทำตลาดร่วมกับพาร์ทเนอร์ในประเทศนั้นๆ ด้วย ทั้ง TVC และ ณ จุดขาย
โตด้วยนวัตกรรม ทำด้วยความสุข
นอกจากสินค้าใหม่ในกลุ่มเครื่องดื่ม เซ็ปเป้ ยังเตรียมเปิดตัวขนมเพื่อสุขภาพ ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ แนวทางการดำเนินงานในปีนี้จะอยู่ภายใต้แนวทาง ‘Innovate to Grow, Innovate to Win’ หรือ ‘โตด้วยนวัตกรรม ทำด้วยความสุข’ โดยเราทุกคนจะร่วมสร้างองค์กรแห่งนวัตกรรมร่วมกันอย่างยั่งยืน มุ่งเน้นพัฒนาสินค้าของคนไทยที่มีศักยภาพเพื่อนำไปสร้างให้เป็นที่รู้จักในตลาดโลก ซึ่งปัจจุบันเรามีสินค้าใหม่ที่มีศักยภาพเป็นจำนวนมาก โดยเราเชื่อว่าจิตวิญญาณในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อย่างไม่หยุดนิ่ง จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯ และทำให้ SAPPE เติบโตในตลาดโลกได้อย่างแข็งแกร่ง
คุณปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เผยว่า ในปี 2017 เซ็ปเป้ มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,687 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 8% กลุ่มสินค้าที่ทำรายได้มากที่สุดคือ กลุ่มน้ำผลไม้ อยู่ที่ 71% ตามมาด้วย ฟังก์ชันนอลดริ้งค์ 14%, ฟังก์ชันนอล พาวเดอร์ 12% และ เครื่องดื่ม RTD 1% ทั้งนี้ รายได้ส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ 64% และในประเทศ 36% โดยตั้งเป้ารายได้ของปี 2018 ไว้ที่ 10-15%
ในอีก 3 ปีข้างหน้า เซ็ปเป้ จะเดินหน้าสู่การเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม เป็นผู้นำในการผลิตสินค้าต่างๆ ที่ไม่ได้มีแค่เครื่องดื่มอย่างเดียว แต่จะขยายไลน์สินค้าให้ครอบคลุมทุกความต้องการ และเพิ่มกำลังการผลิตให้มากขึ้น
จากแผนทั้งปีของเซ็ปเป้ที่กล่าวมานี้ ดูท่าว่าจะสร้างความคึกคักให้ตลาดฟังก์ชันนอลดริ้งค์ได้ไม่น้อยทีเดียว จากเดิมที่เติบโต 2 เกือบๆ 3% ในปีนี้คงต้องดูกันไปยาวๆ ว่าจะมีสินค้าตัวไหนเป็นดาวเด่นกระตุ้นตลาดชันนอลดริ้งค์ได้เหมือนปีที่แล้ว
