หากจะกล่าวถึงแสนสิริในมุมของการตลาดและดิจิตอล เราคงนึกภาพออกว่าแสนสิริมักจะเป็นผู้นำทางด้านนี้ จากที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัวแคมเปญและกิจกรรมต่างๆ มากมายที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตออนไลน์ของผู้บริโภค และลูกบ้านของแสนสิริมาโดยตลอด และหากมองถึงเรื่อง CSR (Corporate Social Responsibility) ของแสนสิริที่ทำขึ้นเพื่อสังคมไทย ก็ต้องนึกถึง “แสนสิริ Social Change” ซึ่งผู้บริโภคหรือนักการตลาดอย่างเราๆ อาจจะไม่เคยทราบมาก่อนว่า แสนสิริ ได้มีการรณรงค์ให้ยุติการใช้แรงงานเด็กทุกรูปแบบที่ธุรกิจของแสนสิริมีความเกี่ยวข้อง ถึงขั้นได้มีการระบุในสัญญาการก่อสร้างของทุกโครงการ ว่าจะไม่สนับสนุนผู้ว่าจ้างที่มีการใช้แรงงานเด็กในทุกกรณี รวมถึงสิทธิในการบอกเลิกสัญญาว่าจ้างในทันที หากพบว่าคู่ค้าละเมิดสัญญาดังกล่าว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครที่ทราบ ก็ต้องรู้สึกยินดีที่ได้รับทราบถึงการรณรงค์นี้ไปด้วย
เรื่องดีๆ ของปี 2015 กำลังจะเกิดขึ้น
ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558 นี้ ทางแสนสิริจะมีการประกาศความร่วมมือกับองค์การ UNICEF ประเทศไทย และพันธมิตรในการก่อสร้าง ประกาศจุดยืนลงนามสัญญา MOU สนับสนุนการยุติแรงงานเด็กในไซต์งานก่อสร้าง และขยายความร่วมมือในการทำพื้นที่ Child Space พื้นที่สำหรับเด็กในไซต์งานก่อสร้าง ในแบบที่เรายังไม่เคยเห็นใครจะมีแนวคิดได้ถึงเพียงนี้ อย่างไรก็ตาม แนวคิดที่ว่านี้อาจจะดูไม่แตกต่างจากการช่วยเหลือเด็กทั่วๆไป แต่ที่เรามองว่าแตกต่างและคิดไม่ถึง ก็คือ การที่แสนสิริสามารถมองเห็นถึงปัญหาของเด็กเล็กในบ้านของตนเอง ในครอบครัวของคนงานก่อสร้าง และนำปัญหามาสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และน่าประทับใจ
แสนสิริมองเห็นอะไร
ในไซต์งานก่อสร้างจะมีเด็กๆอยู่มากกว่า 40 คน ส่วนใหญ่มาจาก กัมพูชา พม่า ลาว ติดตามผู้ปกครองที่เดินทางเข้ามาเป็นแรงงานสำคัญเด็กกลุ่มนี้นอกจากจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ที่เสี่ยงต่ออันตรายแล้ว ยังไม่สามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานที่พวกเขาควรจะได้ เช่น การฉีดวัคซีน การเข้าถึงระบบการศึกษา แม้ว่าตามกฎหมายแล้วเด็กทุกคนที่อยู่ในประเทศไทยควรได้รับสิทธิ์เท่าเทียมกัน
แน่นอนว่าแม้ว่าชีวิตของเหล่าคนงานจะต้องดิ้นรนเพื่อปากท้อง แต่พ่อแม่ของเด็กๆก็อยากให้ลูกได้อยู่ในที่ปลอดภัย ได้มีโอกาสพัฒนา เรียนรู้ และเข้าโรงเรียนเหมือนเด็กคนอื่นๆ
“ก่อนที่เราจะออกไปทำโครงการอื่นๆเพื่อช่วยเด็ก เราควรที่จะเริ่มต้นที่ธุรกิจของเราก่อน ทำองค์กรเราให้เป็นมิตรกับเด็กโดยแท้จริง ทำงานกับพันธมิตรของเรา ในการดูแลลูกหลานคนงานของเรา” — แนวความคิดของคุณเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่แสนสิริ ที่ดูแลงานด้าน CSR โดยตรง
โครงการ ‘พื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก’ ในสถานที่ก่อสร้าง หรือ The Good Space จึงได้มีขึ้นเพื่อให้เด็กในไซต์ก่อสร้างไม่ว่าจะสัญชาติใด มีสิทธิ์ได้ใช้ทำกิจกรรมที่จัดให้อย่างปลอดภัย และเป็นอีกหนึ่งวิธีปกป้องคุ้มครองเด็กจากการใช้แรงงานเด็กอีกด้วยเด็กที่อายุไม่เกิน 14 ปีสามารถใช้ The Good Space เพื่อการเรียนรู้เบื้องต้นสำหรับเด็ก เสริมทักษะและพัฒนาการเบื้องต้น รวมทั้งเป็นพื้นที่ปลอดภัยจากอันตราย หรืออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ในไซต์ก่อสร้าง โดยเฉลี่ยแล้ว งานก่อสร้างจะแล้วเสร็จใช้ระยะเวลาประมาณ 1,300 วัน ระยะเวลานี้ก็คืออายุไขของ The Good Space ก่อนที่จะถูกรื้อทำลายลงทุกครั้งเมื่องานก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ เพราะคนงานจะถูกย้ายไปตามไซต์งานต่างๆ เพื่อเริ่มงานใหม่ และนี่ก็คือระยะเวลาของโอกาสที่เด็กๆ สามารถ เรียน เล่น และ พัฒนาตัวเองอย่างปลอดภัย ถ้าพวกเขาโชคดี ที่ไซต์งานใหม่ก็อาจจะมี The Good Space รอพวกเขาอยู่ แต่ถ้าไซต์งานใหม่ไม่มี The Good Space ก็จะเป็นการยากที่เด็กๆ จะสามารถพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง และเด็กๆ อาจจะวิ่งเล่นในสถานที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายจากสิ่งก่อสร้าง และสามารถเกิดอุบัติเหตุกับพวกเขาได้
ได้เห็นโครงการและแนวคิดดีๆแบบนี้แล้ว รู้สึกอยากมีส่วนร่วม หรือไม่ก็เริ่มมองหาโอกาสในการช่วยเหลือสังคมในแบบยั่งยืนบ้างแล้ว