เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด ได้จัดงาน แถลงข่าวสรุปภาพรวมการดำเนินธุรกิจ พร้อมรับฟังวิสัยทัศน์ กลยุทธ์และเป้าหมายสู่ความสำเร็จในปี 2558 รวมถึงเทรนด์การตลาดออนไลน์ต่างๆ ที่น่าสนใจ
โดยได้รับเกียรติจาก คุณทรงยศ คันธมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจของเรดดี้แพลนเน็ตในปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ คือเติบโต 50% ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยปัจจุบันลูกค้าประมาณ 16,000 ราย และมีมูลค่าการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มของเรดดี้แพลนเน็ต 1,000 ล้านบาท ซึ่งทางบริษัทฯ ก็ตั้งเป้ามูลค่าการซื้อขายในปีนี้จะเติบโตอีก 30%
ในปีที่มีผ่านมา สมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) ได้สำรวจภาพรวมธุรกิจในปี 2557 พบว่า คนไทยมีสมาร์ทโฟนราว 30% ของมือถือทั้งหมด และมีโทรศัพท์มือถือ 94.3 ล้านเครื่อง จากจำนวนประชากร 67.9 ล้านคน แสดงให้คนว่า คนไทยมีโทรศัพท์มือถือต่อคนมากกว่าหนึ่งเครื่อง ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นในปีนี้อีกด้วย
โดยปัจจัยการเติบโตทั้งหมดมาจาก จำนวนผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ตลาดใหญ่ขึ้น การสร้างเว็บไซต์ให้รองรับการเข้าถึงทุกอุปกรณ์ การตลาดโฆษณาออนไลน์ที่เติบโตขึ้น และนักธุรกิจรุ่นใหม่ “นักธุรกิจพันธุ์ดิจิทัล” ที่คุ้นเคยกับการซื้อ-ขายออนไลน์อยู่แล้ว
นอกจากนี้ คุณทรงยศ ยังได้ฝากถึงผู้ประกอบการออนไลน์ว่า ถ้าอยากประสบความสำเร็จในปีนี้ สิ่งสำคัญคือ ต้องปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภค เช่น การรับสื่อโฆษณา การใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมถึงการพัฒนาองค์ความรู้เรื่อง Digital Marketing ของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลาง และขนาดใหญ่
และการสร้างบรรยากาศการลงทุนให้เกิดขึ้นภายในประเทศ เพื่อหลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้ว ประเทศไทยจะเนื้อหอม มีบริษัทต่างชาติให้ความสนใจที่จะลงทุนออนไลน์มากมาย ภาครัฐจึงต้องเร่งปรับมาตรฐานด้านการบริการออนไลน์ให้ดีขึ้น แต่ในขณะเดียวกับผู้ประกอบการไทยก็จะต้องแข่งขันกับผู้ค้าจากต่างประเทศอีกด้วย
สำหรับทิศทางธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยในปี 2558 นี้ คุณทรงยศ เผยว่า อย่าประมาณกลุ่ม Mobile Only เพราะจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมแล้วมากกว่า 50% ต้องเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้แม่นยำ อาทิ การทำตลาดบน Facebook ที่จะช่วยให้ต้นทุนการทำโฆษณาต่ำลง คุณจึงต้องรู้ข้อมูล พฤติกรรมของผู้บริโภค และ Big Data การซื้อสินค้าออนไลน์ จ่ายออนไลน์ เนื่องจากในปัจจุบันผู้บริโภคยังไม่มั่นใจที่จะทำธุรกรรมออนไลน์ ทำให้การซื้อขายอยู่ในรูปแบบ ซื้อออนไลน์ แต่จ่ายอ็อฟ์ไลน์ แต่ในปีนี้มีผู้ให้บริการระบบจ่ายเงินแบบ Mobile Payment ทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่น และสุดท้าย การจัดส่งต้องรวดเร็ว และมีคุณภาพ
สำหรับแผนการสนับสนุนผู้ประกอบการในส่วนต่างๆ คุณทรงยศ เผยว่า การใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ความรู้ที่ทันสมัย และมีที่ปรึกษาดูแลอย่างใกล้ชิด จะทำให้ธุรกิจใช้ประโยชน์จากสื่อดิจิทัลได้อย่างสร้างสรรค์ โดยจากรูปจะเห็นว่าทางเรดดี้แพลนเน็ต ได้วางแผนการดำเนินงานไว้อย่างดี โดยแบ่งตามขนาดของธุรกิจ แต่หากถามว่ากลุ่มใดที่น่าเป็นห่วงที่สุด ผู้บริหารเรดดี้แพลนเน็ต กล่าวว่า กลุ่ม SMEs เพราะเป็นกลุ่มที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้ผ่านการลองผิดลองถูกในการทำตลาดออนไลน์มาแล้ว และเป็นกลุ่มที่มีภาระเยอะ ถ้าในปีนี้ยังปรับตัวไม่ได้ก็ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะพวกเขาไม่รู้ว่า ตัวเองไม่รู้อะไร สิ่งแรกที่ต้องทำคือ การเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ ที่จะเข้ามาให้ได้
และเพื่อตอบสนองนโยบาย Digital Economy จากภาครัฐ ในปีนี้เรดดี้แพลนเน็ต จึงได้เดินหน้าจัดงานสัมมนา และฝึกอบรม ในต่างจังหวัด เพื่อให้ผู้ประกอบการทั่วประเทศเข้าถึงธุรกิจดิจิทัลมากขึ้น เน้นการใช้เครื่องมือโฆษณาเพื่อให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย และจะให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการที่ต้องส่งออกสินค้าไปจำหน่ายยังต่างประเทศ และกลุ่มผู้ค้ารายย่อย เพราะทางบริษัทฯ เห็นว่าการใช้ Social Network อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จึงต้องมีเว็บไซต์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถืออีกด้วย ผู้ประกอบการทั่วประเทศจึงมั่นใจได้ว่า ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี เรดดี้แพลนเน็ต พร้อมจะสนับสนุนผู้ประกอบการทุกรายอย่างแท้จริง