นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นประธานใน “พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือวางแผนพัฒนาธุรกิจ S-Curve และนวัตกรรมดิจิทัล” ระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) โดยได้รับเกียรติจาก พันเอก สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและบริหารความยั่งยืน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามฯ
พันเอก สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (CAT) เปิดเผยว่า ความร่วมมือกับ ปตท. จะเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมกลไกการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบาย “ไทยแลนด์ 4.0” โดยการลงนาม MOU ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์มุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมดิจิทัล เทคโนโลยี S-Curve และอื่นๆที่เกี่ยวข้องร่วมกัน ซึ่งจะเกิดเป็นอุตสาหกรรมใหม่ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และในพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
จากความร่วมมือ MOU ครั้งนี้ CAT จะดำเนินการออกแบบพัฒนาและบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการสื่อสารต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานร่วมกันกับ ปตท. และบริษัทกลุ่ม ปตท. ใน ทุกมิติ อาทิ การเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งในและระหว่างประเทศ ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และระบบรักษาความปลอดภัยบนเครือข่าย เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ (Connectivity) และการเชื่อมโยงอุปกรณ์เครือข่ายในยุคดิจิทัล (IoT Platform) รองรับบริการอัจฉริยะในยุค 4.0 โดยความร่วมมือดังกล่าวมุ่งขยายขีดความสามารถ CAT และ ปตท. ในการให้บริการแก่ประชาชน สนับสนุนให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลกได้สูงยิ่งขึ้น รวมทั้งลดภาระการลงทุนซ้ำซ้อนในระยะยาว จากการนำทรัพยากรและความรู้ความสามารถของบุคลากรของทั้งสององค์กรมาใช้ให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุด
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและบริหารความยั่งยืน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โครงการความร่วมมือวางแผนพัฒนาธุรกิจ S-Curve และนวัตกรรมดิจิทัลระหว่าง ปตท. และ CAT ถือเป็นความตั้งใจของ ปตท. ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติและรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพลังงาน เพื่อร่วมผลักดันนโยบาย “ไทยแลนด์ 4.0” ของภาครัฐ ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดย ปตท. จะใช้ประสบการณ์และความชำนาญภายในองค์กร พัฒนาและผลักดัน
เทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้านพลังงาน โรโบติกส์ ออโต้เมชั่น และระบบอัจฉริยะ รวมถึงบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภคและสาธารณูปการต่างๆ ทั้งระบบบริหารจัดการพลังงาน น้ำ และของเสีย ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องด้วย
“โครงการความร่วมมือพัฒนาธุรกิจ S-Curve และนวัตกรรมดิจิทัล ระหว่าง 2 รัฐวิสาหกิจไทยในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือครั้งสำคัญเพื่อร่วมกันต่อยอดอุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพ หรือ First S-Curve และการพัฒนอุตสาหกรรมใหม่ หรือ New S-Curve ภายใต้ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของภาครัฐ เพิ่มศักยภาพทางการค้าและการแข่งขันให้กับประเทศด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม จากความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของบุคลากรทั้ง 2 หน่วยงาน โดย ปตท. และ CAT จะร่วมกันสนับสนุนข้อมูล ส่งเสริมการเรียนรู้ระหว่างกันเพื่อบรรลุข้อตกลงร่วมกัน จะสร้างความเชื่อมั่นและความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในด้านการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมดิจิทัลได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงเพิ่มโอกาสการเชิญชวนนักลงทุนที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจในอนาคต และเกิดผลประโยชน์ที่แท้จริงกับประเทศสืบต่อไป” นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ประธานในพิธี กล่าวเสริมในตอนท้าย