ได้ฤกษ์ OfficeMate เปิดคลังสินค้าแห่งใหม่ ที่ล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยี Automation การเตรียมสินค้าเพื่อส่งมอบ ช่วยเสริมศักยภาพการส่งมอบสินค้า เมื่อผสานระบบ Logistic กับเทคโนโลยี TMS ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งมอบแบบ 24 ชั่วโมง เล็งต่อยอดสู่การเป็น Supplier Logistics
B2B Supplier
ในยุคที่หลายธุรกิจเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองไปสู่ดิจิทัล เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าในกลุ่ม Consumer ได้ง่าย ตอบโจทย์ความง่ายในการค้นหาและซื้อสินค้า ทว่าเมื่อหลายธุรกิจตัดสินใจเข้าสู่ดิจิทัลสภาพการตลาดแบบ Red Ocean ก็เกิดขึ้น เมื่อสินค้ามีมากความต้องการขาย (Supply) ก็มากขึ้นตาม การหั่นราคาเพื่อสร้างแรงจูงใจจึงเกิดขึ้น และนั่นหมายถึงสภาพตลาดที่แข่งขันกันดุเดือด
OfficeMate เป็นหนึ่งในหลายธุรกิจที่ปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัล นอกจากนี้ยังมีโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC – Eastern Economic Corridor) ที่ทาง OfficeMate สนใจ นั่นจึงทำให้ OfficeMate ลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท สร้างคลังสินค้าที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยี พร้อมจับกลุ่มธุรกิจ (B2B) ที่จะเข้ามาอยู่ในพื้นที่ EEC
คลังสินค้า Automation รองรับคำสั่งซื้อ
สำหรับคลังสินค้าใหม่นี้ วิลาวรรณ ฤกษ์เกรียงไกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ OfficeMate ชี้ว่า คลังสินค้าใหม่แห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC – Eastern Economic Corridor) ในจังหวัดฉะเชิงเทราบนพื้นที่กว่า 50,000 ตร.ม. พร้อมด้วยบริการจัดส่งด้วยรถขนส่งมากกว่า 200 คันต่อวัน
โดยเทคโนโลยีระบบจัดการคลังสินค้าประกอบไปด้วย 3 เทคโนโลยีหลัก ทั้งระบบ ASRS (Automated Storage & Retrieval System) เทคโนโลยีการจัดเก็บสินค้าในแนวสูงบนชั้นวางสูง 12 เมตร เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่เพื่อรองรับสินค้าพร้อมขายสูงสุด พร้อมค้นหาสินค้าอัตโนมัติและนำสินค้าออกด้วยแขนกลอัจฉริยะตามคำสั่งซื้ออย่างถูกต้อง แม่นยำและรวดเร็ว
I-PACK (Automatic Forming & Packing System) ระบบขึ้นรูปกล่อง ติดบาร์โค้ดและแพ็คกล่องสินค้า พร้อมสมาร์ทเซ็นเซอร์ที่วัดความสูงสินค้า เพื่อตัด พับ และปิดกล่องให้พอดีกับขนาดสินค้า ซึ่งช่วยลดความเสียหายระหว่างนำส่งสินค้า และ UNI-SHUTTLE เทคโนโลยีการจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติเพื่อรอนำส่ง โดยทำงานร่วมกับระบบ TMS (Transport Management System) เพื่อติดตามรถขนส่งและคำนวณเส้นทางการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้มั่นใจว่าลูกค้ากว่า 99% จะได้รับสินค้าที่ถูกต้องครบถ้วนอย่างรวดเร็ว
ต่อยอด ecosystem ตอบโจทย์การขาย
ขณะที่ วรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) ชี้ว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา OfficeMate เติบโตเฉลี่ยปีละ 9% โดยในปี 2561 OfficeMate มียอดคำสั่งซื้อกว่า 6.5 ล้านคำสั่งซื้อ โดยเป็นยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์มากกว่า 1 ใน 4 ของยอดขายรวม ผ่านช่องทางเว็บไซต์ officemate.co.th และ OfficeMate Mobile App กว่า 14 ล้านครั้ง ซึ่งเป็นการขายแบบ B2B
นอกจากนี้ยังโฟกัสการให้บริการรับสั่งซื้อออนไลน์ภายในร้าน OfficeMate (E-ordering @Store) ที่ปัจจุบันสร้างยอดขายคิดเป็นสัดส่วน 12% ของยอดขายในร้าน นอกจากนี้ยังพบว่าลูกค้ากว่า 21% มีพฤติกรรมช้อปมากกว่าหนึ่งช่องทาง (Omni Channel) ซึ่งสร้างยอดขายได้มากถึง 49% ของยอดขายรวม
ไม่เพียงเท่านี้ OfficeMate ยังเตรียมขยายธุรกิจในรูปแบบ Franchise ในชื่อ OfficeMate Plus โดยผู้สนใจสามารถใช้เงินลงทุน 2.9 ล้านบาทต่อร้านค้า ด้วยรูปแบบคลังสินค้าใหม่จะช่วยให้กลุ่ม Franchise ลดปัญหาเรื่องการสต็อคสินค้า เพราะที่คลังแห่งใหม่สามารถจัดส่งได้ภายใน 24 ชม. โดยตั้งเป้าอนาคตอันไกลไว้ที่ 1 อำเภอ 1 OfficeMate Plus
ยิ่งไปกว่านั้น สินค้ากลุ่มเครื่องเขียนยังใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวเป็นหลักในการซื้อขายแบบ B2B จำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มภาครัฐ การขยายธุรกิจในรูปแบบ Franchise จะช่วยให้เข้าถึงการขายแบบ B2B โดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวได้ง่าย ซึ่งอนาคต Franchise จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของ Salesforce เพื่อส่งเสริมการขายในแบบความสัมพันธ์ส่วนตัว
กลยุทธ์ความสำเร็จสู่การ Transform
การสร้าง ecosystem ถือเป็นสิ่งสำคัญในยุค Digital Transformation นอกจากการพัฒนาเทคโนโลยีคลังสินค้า ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน ecosystem โดยตลาดเครื่องสำนักงานกลุ่มเป้าหมายหลักจะเป็นกลุ่มธุรกิจองค์กร ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคในการใช้เครื่องเขียนต่างๆ มักจะนำอุปกรณ์ในสำนักงานมาใช้ร่วมกับเรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะกลุ่ม SME ที่อุปกรณ์บางอย่าง เช่น กรรไกร สก็อตเทป กระดาษ เป็นต้น ถูกนำไปใช้ที่บ้าน
คุณวรวุฒิยังชี้ว่า กลยุทธ์ที่จะช่วยสร้างการเติบโตและเติมเต็ม ecosystem ให้สมบูรณ์ประไปด้วย 3 กลยุทธ์หลัก O-F-M โดยกลยุทธ์ O หรือ O2O Service Excellence ยกระดับการบริการกลุ่มลูกค้า B2B แบบ One-Stop Solutions ด้วยสินค้าที่ครอบคลุมความต้องการของทุกธุรกิจ ไม่ใช่แค่เครื่องใช้สำนักงานเพียงอย่างเดียว เช่น กลุ่มสินค้าโรงงานและสินค้าธุรกิจ HORECA โดยอนาคตตั้งเป้าเข้าถึงกลุ่มอาหารและกลุ่มยา-เครื่องมือแพทย์
ซึ่งคลังสินค้าแห่งใหม่นี้สามารถตอบโจทย์การจัดเก็บและจัดส่งสินค้าที่แม่นยำ รวดเร็ว มั่นใจได้ ด้วยต้นทุนโลจิสติกส์ที่ต่ำลง ขณะที่กลยุทธ์ F หรือ Franchise Stores Nationwide สนับสนุนให้ร้านค้าปลีกรายย่อยแปลงสภาพในลักษณะร้านแฟรนไชส์ “OfficeMate Plus” โดยแต่ละร้านจะลงทุนอยู่ที่ 2.9 ล้านบาท พร้อมใช้เทคโนโลยีและระบบการจัดการเหมือนร้าน OfficeMate ทุกประการ
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าอนาคต Franchise อย่าง OfficeMate Plus จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของ Salesforce เพื่อส่งเสริมการขายในรูปแบบความสัมพันธ์ส่วนตัว นออกจากนี้ OfficeMate Plus ยังรับบริการรับสั่งซื้อออนไลน์ที่หน้าร้าน พร้อมให้บริการจัดส่งถึงที่ทั่วประเทศ ช่วยคลังสินค้าของ OfficeMate เป็นเสมือนคลังสินค้าของร้านค้าเฟรนไชส์ ช่วยให้ร้านค้าเฟรนไชส์ไม่ต้องสต็อคสินค้าที่ร้าน
M หรือ Marketplace for B2B Solutions โดย OfficeMate เตรียมเปิดตัว B2B Marketplace ในปลายปีนี้ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการธุรกิจ B2B รายย่อยมีโอกาสในการเข้าถึงลูกค้า โดยสามารถขายสินค้าได้มากขึ้นและเติบโตไปพร้อมกับ OfficeMate โดยไม่ต้องกังวลกับการลงทุนในด้านโลจิสติกส์ นอกจากนี้ใน Marketplace for B2B Solutions ยังมีระบบ Payment ให้อีกด้วย
สร้างโอกาสใหม่สู่การเป็น Supplier Logistics
ด้วยคลังสินค้าแห่งใหม่ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงในการจัดเก็บและบรรจุหีบห่อพัสดุภัณฑ์ รวมไปถึงระบบ Logistics ที่ทันสมัย ส่งผลให้คลังสินค้าแห่งนี้รองรับการจัดเก็บและพร้อมบบรจุภัณฑ์ จัดส่งถึงที่หมายในระยะเวลา 24 ชม. นอกจากเรื่องของเทคโนโลยีที่เป็นหัวใจสำคัญแล้ว ตัวทำเลที่ตั้งคลังสินค้ายังสะดวกต่อการขนส่งอีกด้วย รวมไปถึงเนื้อที่คลังสินค้าที่พร้อมขยายเพิ่มเติมหากมีความต้องการใช้บริการที่เพิ่มขึ้น
โดย คุณวิลาวรรณ เพิ่มเติมว่า ด้วยศักยภาพของคลังสินค้าทำให้คลังสินค้า OfficeMate แห่งนี้สามารถรองรับการจัดเก็บและบรรุหีบห่อ พร้อมบริการด้านขนส่งได้ในทุกอุตสาหกรรม โดยที่ดำเนินการเปิดไปแล้วคือ กลุ่มสินค้าโรงงานและสินค้าธุรกิจ HORECA โดยอนาคตคาดว่า OfficeMate จะสามารถเข้าถึงกลุ่มอาหารและกลุ่มยา-เครื่องมือแพทย์ เนื่องจากภาครัฐส่งเสริมเรื่องของแพทย์ทางไกล อนาคตการซื้อขายยาผ่านระบบออนไลน์จังน่าจะเกิดขึ้นได้ และคลังสินค้าแห่งนี้พร้อมสับสนุนอุตสาหกรรมเหล่านั้น
สำหรับการปรับตัวดังกล่าว คุณวิลาวรรณ ชี้ว่า ในอนาคตธุรกิจด้าน Supplier ให้อุตสาหกรรมอื่น จะใช้ชื่อที่แตกต่างจาก OfficeMate เนื่องจากตัวชื่อถูกกำหนดให้ทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าอุปกรณ์สำนักงาน และอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจด้านอื่น โดยธุรกิจใหม่อาจจะใช้ชื่อว่า COL Factory, COL Medical, COL Food เป็นต้น ทั้งนี้กำลังอยู่ในช่วงของการดำเนินตามแผนงาน ซึ่งยังไม่มีการสรุปชื่อที่จะใช้ในอนาคต
นี่คือการปรับตัวครั้งใหญ่ของ OfficeMate หลังจากก้าวเข้ามาสู่ Digital Transformation ซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อ และความคาดหวังในการได้รับสินค้า คือแรงผลักดันที่ทำให้คลังสินค้าแห่งใหม่ตอบสนองความต้องการ รวมไปถึงอุตสาหกรรมอื่นที่มีแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป จาการถูก Digital Disruption