เปิดให้บริการในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับเชนเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านรายใหญ่จากญี่ปุ่น “NITORI” (นิโตริ) สาขาแรกที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 5 บนพื้นที่ขนาด 2,600 ตารางเมตร ซึ่งไทยเป็นหนึ่งใน Strategic Market ของการรุกขยายตลาดนอกญี่ปุ่น และภายในปีนี้ เตรียมเปิดอีก 3 สาขาคือ ซีคอน บางแค, เซ็นทรัลเวสต์เกต และเดอะมอลล์ บางกะปิ
มาดูแผนยุทธศาสตร์ธุรกิจของ “NITORI” กับการเดินหน้าขยาย Network สาขา โดยเฉพาะปักหมุดลงทุนทั่วเอเชีย โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หนึ่งในนั้นคือ ประเทศไทย
1. เอเชียเป็น Growth Driver หลักของ NITORI Group
ปัจจุบัน NITORI มีร้านสาขารวมกว่า 930 สาขา แบ่งเป็นสาขาในประเทศญี่ปุ่น 793 สาขา และในนอกญี่ปุ่น อีกกว่า 137 สาขา เช่น จีน 74 สาขา, ไต้หวัน 56 สาขา, สิงคโปร์ 1 สาขา, มาเลเซีย 1 สาขา และล่าสุดประเทศไทย 1 สาขา
นอกจากญี่ปุ่น ที่เป็นตลาดบ้านเกิด ซึ่งมีฐานตลาดแข็งแรงแล้ว “NITORI Group” ยังแสวงหา Growth Driver ใหม่ที่จะสร้างการเติบโตระยะยาว โดยมองที่ตลาดเอเชีย (นอกเหนือจากญี่ปุ่น) โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากหลายประเทศในภูมิภาคนี้ยังเป็น Emerging Market
จึงมีโอกาสสูงในการเข้าไปปักหมุดลงทุนและขยายเครือข่ายสาขา ให้ครอบคลุมทั่วเอเชียอย่างเต็มกำลัง เพื่อผลักดันให้บรรลุเป้าหมายแผนเปิดร้านให้ได้ 3,000 สาขา ภายใต้พันธกิจ “มอบความเป็นอยู่ที่ดีแก่ผู้คนทั่วโลก” และมียอดขายที่ตั้งเป้าไว้ 3 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 720,000 ล้านบาท ภายในปี 2032
สำหรับการเปิดสาขาในประเทศไทยล่าสุด ถือเป็นตลาดลำดับที่ 3 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อจากมาเลเซีย และสิงคโปร์ที่เปิดให้บริการไปก่อนหน้านี้ในปี 2022 เน้นเปิดในศูนย์การค้าก่อน เนื่องจากมี Traffic อยู่แล้ว
หนึ่งในเหตุผลที่ NITORI Group เลือกเปิดในไทย เนื่องจากดำเนินธุรกิจในไทยมาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะถึงแม้ครั้งนี้จะเป็นสาขาแรกที่ NITORI เข้ามาเปิดให้บริการผู้บริโภคชาวไทย แต่ที่จริงแล้วทาง NITORI Group ได้ก่อตั้งบริษัทในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 1999 มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลจัดส่งสินค้าภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากนี้ยังมีการก่อตั้งโรงงานสยามนิโตริ (Siam Nitori) ผู้ผลิตพรมที่รีไซเคิลจากขวดพลาสติก ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมมีกระบวนการผลิตทั้งหมดภายในโรงงานเป็นของตัวเอง ส่งผลให้มีเครือข่ายซัพพลายเออร์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งมีส่วนร่วมในการผลิตสินค้าให้กับ NITORI Group มาอย่างยาวนาน
หลังจาก NITORI เปิดสาขาในไทยแล้ว ได้วางแผนเปิดสาขาแรกในประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง และเกาหลีใต้เพิ่มเติมอีกด้วย
โดยคาดการณ์ว่าภายในเดือนมีนาคม 2024 NITORI จะมีสาขากระจายทั่วภูมิภาคเอเชีย (นอกญี่ปุ่น) มากถึง 206 สาขา และตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป NITORI มุ่งมั่นที่จะเปิดสาขาใหม่ในต่างประเทศให้ได้ปีละประมาณ 300 แห่ง เพื่อสานต่อพันธกิจและวิสัยทัศน์ของบริษัท
2. ตลาดเอเชียและไทย ยังมีโอกาสสำหรับค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านครบวงจร – ชูจุดขายฟังก์ชันสินค้าสร้างความสะดวกสบาย
การพัฒนาสินค้าของ NITORI ต้องสอดคล้องกับพันธกิจ “มอบความเป็นอยู่ที่ดีแก่ผู้คนทั่วโลก” นี่จึงทำให้จุดเด่นของสินค้า NITORI ต้องตอบโจทย์การใช้ชีวิตในแต่ละวันของผู้คนสะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบที่คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอย เน้นฟังก์ชั่นการใช้งาน ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ และยังตอบโจทย์ด้านสไตล์ สามารถใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วของที่พักอาศัยให้คุ้มค่าที่สุด และสอดรับกับสรีระของคนญี่ปุ่นและคนเอเชีย
“การเปิดสาขาแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2022 นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญของ NITORI Group เพื่อสานต่อพันธกิจและวิสัยทัศน์ของเราอย่างยั่งยืน โดยเราตั้งเป้าหมายว่าตั้งแต่ปีในปี 2023 เป็นต้นไปจะเร่งขยายสาขาในเอเชียเพิ่มมากขึ้น เพื่อชิงส่วนแบ่งในตลาดเอเชียที่มีจำนวนร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านแบบครบวงจรยังไม่มากนัก
เรามุ่งมั่นสร้างสรรค์สินค้าคุณภาพมาตรฐานที่ได้รับการขัดเกลาอย่างพิถีพิถันในแบบฉบับญี่ปุ่นสู่ภูมิภาคเอเชียอย่างเต็มกำลัง เพื่อขจัดความ “ไม่เท่าเทียม ไม่พอใจ และไม่สะดวกสบาย” ที่เป็นปัญหาต่อสภาพความอยู่อาศัย หรือรูปแบบการใช้ชีวิตที่หลากหลายทั่วโลกให้ได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น” คุณทาเคดะ มาซาโนริ กรรมการ, ผู้จัดการทั่วไปแผนก Global Merchandising และผู้จัดการทั่วไปแผนก Global Sales Promotion รับผิดชอบส่วนธุรกิจขายต่างประเทศ บริษัท นิโตริ โฮลดิงส์ จำกัด กล่าว
3. ปักหมุดสาขาแรก “เซ็นทรัลเวิลด์” ใจกลางเมือง ขยายสู่รอบนอกเมือง เข้าถึง Residential Area
NITORI สาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นับเป็น Flagship Store สาขาแรกของเราในประเทศไทย เหตุผลที่เลือกเปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัลเวิลด์ เนื่องจากอยู่ใจกลางเมืองย่านราชประสงค์ เป็นพื้นที่ซึ่งมีความคึกคักตลอดเวลา และเดินทางสะดวก โดยในแต่ละวันมีผู้คนสัญจรกว่า 600,000 คน ขณะเดียวกันเป็นศูนย์การค้าที่สามารถรองรับทุกความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย โดยมีปริมาณลูกค้ามาใช้บริการภายในศูนย์การค้ามากกว่า 150,000 คนต่อวัน และมีอัตราการจับจ่ายใช้สอยค่อนข้างสูง
หลังจากเปิดสาขาเซ็นทรัลเวิลด์แล้ว ภายในปี 2023 NITORI เตรียมเปิดสาขาซีคอน บางแค ในวันที่ 26 ตุลาคมนี้, สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต และเดอะมอลล์ บางกะปิ รวมแล้วเปิด 4 สาขาในปีนี้ นอกจากนี้ยังได้วางแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 25 แห่ง ภายในระยะเวลา 5 ปี โดยในปี 2024 ตั้งเป้าเปิดเพิ่ม 10 สาขา
จะสังเห็นได้ว่าการเริ่มต้นเปิดสาขาแรกที่ใจกลางเมือง เพราะ NITORI ต้องการแบรนด์ดิ้งให้ผู้บริโภคไทยรู้จักมากขึ้น ซึ่งย่านราชประสงค์ เป็นย่านธุรกิจการค้าที่มีทั้งคนไทย และชาวต่างชาติจำนวนมาก ทำให้ผู้บริโภคไทย และต่างชาติใช้บริการได้สะดวก จากนั้น NITORI จะเริ่มขยายไปเปิดในทำเลโซนต่างๆ ของกรุงเทพฯ และทำเลรอบนอกเมือง ซึ่งมีเติบโตของ Residential Area ตามการขยายตัวของระบบคมนาคม ทั้งถนน และรถไฟฟ้า เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรงที่ต้องการซื้อเฟอร์นิเจอร์ และของใช้-ของตกแต่งในบ้าน
อย่างการเปิด NITORI สาขาซีคอน บางแค เจาะลูกค้าที่อยู่ย่านฝั่งธนฯ ขณะที่สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต สามารถครอบคลุมทั้งลูกค้ากรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก และจังหวัดนนทบุรี ส่วนสาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ เจาะลูกค้าที่อยู่ในแถบกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก
ส่วนรูปแบบสาขา ทั้งนี้ NITORI ในญี่ปุ่นมี Store Format ทั้งแบบ Stand Alone บริษัทซื้อที่ดินและสร้างเอง มีขนาดตั้งแต่ 4,500 – 6,000 ตารางเมตร และแบบเปิดในศูนย์การค้า ขนาด 1,500 – 2,000 ตารางเมตร ดังนั้นในการขยายสาขานอกญี่ปุ่น NITORI จะนำโมเดลสาขาเหล่านี้ไปปรับใช้กับตลาดประเทศนั้นๆ อย่างการเปิดสาขาในไทย จะเน้นเปิดในศูนย์การค้าก่อน เนื่องจากมี Traffic คนเดินศูนย์ฯ อยู่แล้ว
“เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเปิดสาขาใหม่ในครั้งนี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีและเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคชาวไทย ตลอดจนช่วยยกระดับการช้อปปิ้งเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านรูปแบบใหม่ พร้อมหวังว่าลูกค้าทุกท่านที่มาใช้บริการที่ร้าน NITORI จะสนุกสนานไปกับการเลือกจับคู่สินค้าตกแต่งบ้านมากยิ่งขึ้น” คุณทาเคดะ มาซาโนริ กล่าวทิ้งท้าย