หากพูดถึงเหล้า “เหมาไถ” หรือ “กุ้ยโจว เหมาไถ” (Kweichow Moutai) คนรุ่นใหม่อาจจะไม่คุ้ยเคยกับชื่อนี้ แต่เชื่อว่าหากถามคนในพ่อรุ่นแม่ จะต้องคุ้นคยชื่อเหล้ายี่ห้อนี้เป็นอย่างดีในฐานะ “สุราจีน” ระดับตำนานจนได้ชื่อว่าเป็น จิตวิญญาณของชาวจีน เป็นเครื่องดื่มที่รัฐบาลจีนเคยใช้ต้อนรับ “แขกบ้านแขกเมือง”จนโด่งดังไปทั่วโลกมาแล้ว ดังนั้นบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเหล้า “เหมาไถ” เหล้าที่ปัจจุบันพยายามทำการตลาดเพื่อเข้าถึงคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะการทำ brand collaboration ในช่วงที่ผ่านมา
เหล้าแบรนด์ “เหมาไถ” ที่เป็นที่รู้จักในทุกวันนี้ เป็นหนึ่งในแบรนด์เหล้าจีนแบบดั้งเดิมที่เรียกกันในภาษาจีนว่า “ไป๋จิ่ว” (Baijiu) แปลตรงตัวว่า white liquor หรือเหล้าขาว มีแอลกอฮอล์ร้อนแรงในระดับ 53% มีประวัติศาสตร์ยาวนานย้อนกลับไปได้มากกว่า 2,000 ปี จากหลักฐานทางโบราณคดีเชื่อว่าการกลั่นเหล้าไป๋จิ่วนั้นเริ่มต้นกันตั้งแต่ยุคราชวงศ์ฮั่น
ยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าพื้นที่ผลิต “เหล้าไป๋จิ่ว” ที่ตำบลเหมาไถ มณฑลกุ้ยโจว อยู่ที่จุดใดแต่มีหลักฐานพบโรงกลั่นแห่งหนึ่งที่ย้อนกลับไปได้ในยุคราชวงศ์หมิง หรือในช่วงปี ค.ศ.1599 หรือกว่า 400 ปีก่อน หลังจากนั้นสูตรการกลั่นเหล้าแบบเหมาไถก็พัฒนาขึ้นในช่วงราชวงศ์ชิง หรือราว ค.ศ.1644-1911
จากนั้นมีตำนานเหล้าขานกันว่าในสงครามกลางเมืองจีนนั้นเหล่าทหารใช้เหล้าเหมาไถในการสร้างความฮึกเหิม รวมไปถึงใช้ฆ่าเชื้อให้บาดแผลที่ได้รับจากสงคราม นับตั้งแต่นั้นเหล้าเหมาไถก็ได้รับความนิยมใช้ดื่มกินกันตั้งแต่งานเฉลิมฉลองระดับชาวบ้านไปจนถึงงานเลี้ยงรับรองระดับประเทศ ก่อนที่จะได้รับยกย่องให้เป็น “เหล้าประจำชาติ” ใน ค.ศ.1951
และนี่คือ 5 เรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้ของเหล้า เหมาไถ
1. เหมาไถ ต้อง “กุ้ยโจว เหมาไถ”
“เหมาไถ” เป็นชื่อเดียวกันกับ “ตำบลเหมาไถ” ในเมืองเหรินหวย มณฑลกุ้ยโจว มณฑลทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน และที่ต้องเป็นตำบลเหมาไถ ก็เพราะว่าเป็นพื้นที่ซึ่งมีธรรมชาติเหมาะกับการผลิตสุรามากที่สุดทั้งสภาพอากาศที่ร้อนในหน้าร้อนไม่หนาวจัดในหน้าหนาว มีลมและฝนที่อยู่ในระดับต่ำ แต่มีอุณภูมิและความชื้นสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “น้ำ” ที่มาจากแม่น้ำฉื่อสุ่ย (Chishui) เป็นต้นน้ำที่มีความสะอาดบริสุทธิ์และมีแร่ธาตุจำเป็นที่ทำให้สุรามีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ที่เป็น “กลิ่นหอมคล้ายซอสถั่วเหลือง” อ่อนๆ แบบเฉพาะของเหมาไถ แม่น้ำฉื่อสุ่ยเป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญที่รัฐบาลจีนถึงกับออกกฎหมายห้ามตั้งโรงงานเคมี
อย่างไรก็ตามในตำบลเหมาไถไม่ได้มีผู้ผลิต ไป๋จิ่ว เพียงรายเดียว แต่ “กุ้ยโจว เหมาไถ” เป็นเจ้าแรกที่ผลิตไป๋จิ่วในแบบอุตสาหกรรมเกิดขึ้นจากรัฐบาลจีนรวมกิจการผู้ผลิตไป๋จิ่วในท้องถิ่น 3 เจ้าเข้าด้วยกันตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 1950 นั่นทำให้เหล้าไป๋จิ่ว ที่จะเรียกว่า “เหมาไถ” ได้จะต้องผลิตโดย กุ้ยโจว เหมาไถ (Kweichow Moutai Co., Ltd.) เท่านั้นส่วนผู้ผลิตรายย่อยอื่นๆจะถูกเรียกว่า “ไป๋จิ่วจากเมืองเหมาไถ” หรือ Mautai Town Baijiu แทน
2.หมัก 8 กรอง 7 กลั่น 9 บ่ม 4 ปี
สิ่งหนึ่งที่ทำให้เหล้าเหมาไถ โด่งดังก็คือกระบวนการผลิตที่พิถีพิถัน นอกจากจากต้องผลิตในตำบลกุ้ยโจวที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสมแล้ว ยังมีความละเอียดอ่อนตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบทั้ง “ข้าวสาลี” และ “ข้าวฟ่าง” ที่จะต้องคัดสรรเป็นอย่างดีมีคุณภาพสูงสุด จากนั้นจากข้อมูลของเว็บไซต์เหมาไถ ระบุว่ากระบวนการผลิตจะประกอบไปด้วยการหมัก 8 รอบ กรอง 7 รอบ และกลั่นอีก 9 รอบ และจะใช้เวลาบ่มอีก 3-4 ปี
การใช้เวลาบ่มอีกเป็นเวลา 3-4 ปี เพื่อให้แอลกอฮอล์ได้ “หายใจ” และมีรสชาตินุ่มละมุนมากขึ้น ขั้นตอนสุดท้ายผู้เชี่ยวชาญการผสม จะนำเหล้าที่แยกบรรจุไว้แต่ละครั้งมาผสมกันด้วยสูตรเฉพาะในถังผสมขนาด 120 ตันนำไปเก็บไว้อีก 6 เดือนก่อนจะนำไปบรรจุขวดและส่งขายไปทั่วประเทศ รวมๆแล้วต้องใช้เวลาผลิตยาวนานถึง 5 ปีเลยทีเดียว
3. “เหมาไถ-นิกสัน” โด่งดังไปทั่วโลก
เหล้าเหมาไถ กลายเป็นหนึ่งใน soft power ของจีนและโด่งดังไปทั่วโลกเป็นครั้งแรกในปี 1972 ยุคของนายกรัฐมนตรีจีนอย่างโจว เอินไหล ที่เลือกใช้ “เหมาไถ”เป็นเครื่องดื่มเลี้ยงรับรองประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน แห่งสหรัฐอเมริกา ที่นับเป็นผู้นำสหรัฐอเมริกาที่ยังอยู่ในตำแหน่งคนแรกที่เดินทางเยือนจีนแผ่นดินใหญ่ เปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศขึ้น โดยในครั้งนั้นมีบันทึกบทสนทนาของสองผู้นำถูกรายงานข่าวไปทั่วโลก
โดยผู้นำจีน โจว เอินไหล อธิบายให้ประธานาธิบดีนิกสันฟังว่า “เหมาไถโด่งดังหลังจากได้รับรางวัลเหรียญทองจากงานประกวด San Francisco World’s Fair ในปี 1915 และในช่วงสงครามเหมาไถถูกใช้รักษาโรคละแผลทุกรูปแบบ” ก่อนที่ ประธานาธิบดีนิกสันจะตอบว่า “เรามาดื่มฉลองด้วยยาครอบจักรวาลนี้กัน”
หลังจากนั้นในปี 1979 นายกรัฐมนตรีเติ้ง เสี่ยวผิงของจีนเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา นายเฮนรี คิสซิงเกอร์ ก็พูดถึงเหล้าเหมาไถไว้ด้วยว่า “ผมคิดว่าถ้าเราดื่มเหมาไถมากพอเราสามารถแก้ไขปัญหาระหว่างเราได้ทุกย่าง”
4. เหมาไถแบรนด์เหล้าอันดับ 1 ของโลก 8 ปีซ้อน
แบรนด์เหมาไถโด่งดังและมีกิจการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องมีมูลค่าบริษัทหรือ Market Cap ในปีนี้มากถึง 309,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 11,451 ล้านล้านบาท นับเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับที่ 26 ของโลก และครองสถิติเป็น “แบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก” มาแล้ว 7 ปีซ้อนและคาดว่าปีนี้จะทำได้เป็นปีนี้เป็นปีที่ 8 ทิ้งห่างบริษัท Diageo ผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบรนด์ดังๆอย่าง Johnie Walker, Guinness รวมถึง Smirnoff ที่ปีนี้อยู่ในอันดับที่ 165 อย่างไม่เห็นฝุ่น
ในขณะที่ปี 2022 ที่ผ่านมาเหมาไถทำกำไรไปได้ 62,700 ล้านหยวนหรือราว 3.2 แสนล้านบาท ในขณะที่รายได้รวมสูงถึง 127,000 ล้านหยวนหรือคิดเป็นเงินไทย 6.45 แสนล้านบาท ส่วนในครึ่งปีแรกของปี 2023 เหมาไถทำกำไรสุทธิไปแล้วถึง 35,980 ล้านหยวนหรือราว 1.85 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนแล้วถึง 21%
ในขณะที่รายได้รวมของเหมาไถสูงถึง 70,990 ล้านหยวนหรือ 3.65 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้น 20% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2022 ที่ผ่านมาและเชื่อว่าสิ้นปีนี้จะสามารถทำตัวเลขพุ่งสูงขึ้นไปได้อีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเหมาไถเพิ่งประกาศลงทุนสร้างโรงงานผลิตและโกดังเก็บสินค้าเพิ่มอีกคิดเป็นมูลค่า 15,000 ล้านหยวนหรือ 79,000 ล้านบาทไปเมื่อปลายปี 2022 ที่ผ่านมา
5. เหมาไถ ทำสถิติเหล้าแพงที่สุดในโลก 54 ล้านบาท
ราคาโดยทั่วไปของเหมาไถขวดขนาด 500 มิลลิลิตรที่คนทั่วไปหาซื้อได้อาจมีราคาตั้งแต่หลักพันต้นๆ ไปจนถึงหลัก 7,000 กว่าบาทไล่ไปจนถึงหลักหมื่นแต่สำหรับเหล้าเหมาไถขวดเก่าที่หายากแล้วจะมีราคาสูงถึงหลักล้านบาทโดยเฉพาะเมื่อเดือนมกราคมปีก่อนสำนักประมูล Christie’s เพิ่งจัดประมูลเหมาไถรุ่น WuXing Moutai ปี 1959 ไปได้ในราคา 960,000 หยวนหรือราวๆ 4.8 ล้านบาท
แต่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 สำนักข่าว South China Morning Post รายงานว่า ในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกันมีเหล้าเหมาไถ อายุ 80 ปี ก็ถูกประมูลไปในเมืองหางโจว ที่มูลค่าสูงถึง 1.7 ล้านหยวน คิดเป็นเงินไทยก็สูงถึง 8.6 ล้านบาท หรือถ้าย้อนกลับไปอีกในปี 2011 เหล้าเหมาไถในรุ่น Lay Mau ปี 1935 ก็เคยถูกประมูลไปในราคาสูงถึง 10.7 ล้านหยวน คิดเป็นเงินไทยก็พุ่งไปถึง 54 ล้านบาททำสถิติเหล้าที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก
ด้านบนนี้คือภาพของเหล้าเหมาไถ ที่แพงที่สุดในโลก ติดแบรนด์ Lay Mau หนึ่งใน 3 โรงกลั่นก่อนที่จะถูกรวมไปตั้งบริษัทกุ้ยโจว เหมาไถ โดยข้อมูลระบุว่าเหมาไถรุ่น Lay Mau นี้คาดว่าจะหลงเหลืออยู่ในประเทศจีนเพียง 6 ขวดเท่านั้นและในจำนวนนั้น 3 ขวดเป็นขวดเปล่า เรียกได้ว่าหายากและราคาแพงสุดๆจริงๆ
เหมาไถ นับว่าเป็นแบรนด์ระดับตำนานของจีนที่ยังคงความยิ่งใหญ่ทั้งในแง่ประวัติศาสตร์และการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลายปีให้หลังแบรนด์เหมาไถก็เริ่มทำการตลาดให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงง่ายขึ้นเช่นการทำ Brand Collaboration กับแบรนด์กาแฟอย่าง Luckin ที่ทำกาแฟผสมเหล้าจนกลายเป็นกระแสฮิต นอกจากนี้ยังมีการจับมือกับ Mars Inc. ทำช็อกโกแลตสอดไส้เหล้าออกมาให้ได้ชิมกัน เรื่อยไปจนถึงเปิดร้านไอศครีมเป็นของตัวเองในปี 2022 ที่ผ่านมาเรีกได้ว่าน่าติดตามจริงๆว่าต่อไป กุ้ยโจวเหมาไถ จะมีกลยุทธ์การตลาดที่จะสร้างกระแสอะไรอีกในอนาคต
ที่มา: Kweichow Moutai, Christies, WSJ, Companiesmarketcap,China Daily,