ใครที่ไปตามแหล่งเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม ตอนนี้อาจจะได้เห็นโครงการ Mix Use ขนาดใหญ่ผุดขึ้นมาอย่างมากมาย บางจังหวัดถึงขนาดมี 2-3 แห่ง โดยเฉพาะ “เซ็นทรัล” ที่กำลังบุกตลาดเมืองท่องเที่ยวหลัก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการท่องเที่ยวที่กลับมาเติบโตเพิ่มขึ้น และอีกส่วนเป็นผลมาจากการลดขนาด Coverage Area เพื่อให้สามารถเข้าถึงนักช้อปได้ง่ายมากขึ้น
เปิด 2 โครงการ Mix Use ใหม่
หนึ่งในกลยุทธ์เข้าถึงตลาดการท่องเที่ยวคือ การพัฒนาโครงการ Mix Use ที่ช่วยผลักดันศักยภาพทั้งเมืองหลัก-เมืองรอง ที่จะช่วยสร้างรายได้ให้กับธุรกิจท้องถิ่น (Local Wealth) โดยในปีนี้มีการเปิด 2 โครงการใหม่ ทั้งโครงการเซ็นทรัล นครสวรรค์ ที่ได้ทำการเปิดตัวและสร้างกระแส Talk of the Town ยกระดับเมืองสู่ Gateway to the North
นอกจากนี้ช่วงปลายเดือนมีนาคม ยังเตรียมเปิดตัว โครงการเซ็นทรัล นครปฐม ประตูที่เชื่อมต่อภาคตะวันตกอย่างกาญจนบุรีและราชบุรี รองรับการเดินทางผ่านถนนมอเตอร์เวย์สายตะวันตก โดยมีจุดเด่นพื้นที่สวนขนาดใหญ่สำหรับทุกคนในครอบครัว พร้อมดีไซน์สะท้อนอัตลักษณ์เมืองอย่างพระปฐมเจดีย์ ที่มีการใช้กระเบื้องสีและลายเดียวกับองค์พระปฐมเจดีย์
ที่สำคัญในปี 2568 ยังเตรียมเปิดตัว โครงการเซ็นทรัล กระบี่ ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 4,500 ล้านบาท เติมเต็ม Retail Lifestyle ให้กับกระบี่ ซึ่งได้รับการพัฒนาให้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก เห็นได้จากกำลังซื้อที่เติบโตขึ้นอย่างชัดเจนของผู้ประกอบการท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว โดยปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว
ถอดรหัส 1 จังหวัดมากกว่า 1 สาขา
นอกจากการขยายสาขาไปตามหัวเมืองท่องเที่ยวแล้ว จะเห็นว่าหลายจังหวัดมีการขยายสาขามากกว่า 1 แห่งขึ้นไป ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเก็บข้อมูลการขยายตัวและศักยภาพของแต่ละพื้นที่ ยกตัวอย่างเช่นที่จังหวัดนครปฐม ที่ก่อนหน้านี้มี เซ็นทรัล ศาลายา ไปแล้ว และมีการขยายโครงการเซ็นทรัล นครปฐม ที่เป็นโครงการ Mix Use
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเซ็นทรัล ศาลายา เจาะกลุ่มพื้นที่การเติบโตของเมือง ที่มีการขยายตัวของโครงการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก ขณะที่เซ็นทรัล นครปฐมจะเน้นเจาะกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในโซนภาคตะวันตกอย่างกาญจนบุรีและราชบุรีเพื่อให้สะดวกในการเดินทาง อีกทั้งยังรองรับโครงการมอเตอร์เวย์สายตะวันตกที่ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ครบทุกเฟส
ไม่เพียงเท่านั้น เซ็นทรัลยังมีแนวคิดในการลด Coverage Area ให้เล็กลงเพื่อเสริมศักยภาพการให้บริการที่ดีขึ้นในแต่ละพื้นที่ที่ดีขึ้น ยกตัวอย่างใกล้ กทม.อย่างจังหวัดชลบุรี ที่ปัจจุบันมีเซ็นทรัลปาเข้าไปถึง 4 แห่ง ทั้งเซ็นทรัล ชลบุรี, เซ็นทรัลมารีนา, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช และ เซ็นทรัล ศรีราชา ซึ่งจังหวัดชลบุรีถือเป็นพื้นที่ศักยภาพสูง ทั้งการเป็นเมืองท่องเที่ยวและพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ
ตอกย้ำ The Ecosystem for All
หนึ่งในความสำเร็จที่สำคัญของเซ็นทรัลคือการสร้างโมเดลธุรกิจ The Ecosystem for All เชื่อมโยงทุกธุรกิจทั้ง Retail-Residence-Hotel-Office ภายใต้โครงการ Mix Use พร้อมทั้งยังเตรียมทุ่มงบกว่า 121,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี (พ.ศ.2567-พ.ศ.2571) เดินหน้าแผนพัฒนาทั้งการสร้างโครงการใหม่และยกระดับโครงการปัจจุบันแบบเต็มรูปแบบ
ในปีที่ผ่านมา เซ็นทรัลประสบความสำเร็จสามารถสร้าง New High ด้านผลประกอบการ โดยปี 2566 มีรายได้ 46,790 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 26% อีกทั้งการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPNREIT ทำรายได้เพิ่มขึ้น 16% โดยในปีนี้จะมีโครงการที่เปิดให้บริการใหม่ทั้งสิ้น 13 โครงการ ทั้งศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครสวรรค์ และเซ็นทรัล นครปฐม, โครงการที่อยู่อาศัย 10 โครงการ และโรงแรมแห่งใหม่ที่ระยอง โดยจับมือกับ International Chain ระดับโลก
ส่งผลให้ภายในปี 2567 จะมีโครงการศูนย์การค้า 42 โครงการ, คอมมูนิตี้ มอลล์ 17 โครงการ, ที่อยู่อาศัย 43 โครงการ, โรงแรม 10 โครงการ, และออฟฟิศ 10 โครงการ การพัฒนาโครงการขนาดใหญ่จะยิ่งช่วยสร้างเงินสะพัด ยกระดับคุณภาพชีวิตและช่วยกระจายรายได้ในจังหวัด พร้อมเชิดชูอัตลักษณ์ไทย สร้างเมืองเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพมากขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในการกระตุ้น GDP และเศรษฐกิจประเทศ
เปิดพื้นที่ใหม่สู่ Centre of Life
นอกจากโครงการ Mix Use ขนาดใหญ่แล้ว จะมีการปรับโฉมศูนย์แบบ Turnaround ทั้งหมด 6 ศูนย์การค้า ทั้ง เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า รองรับกำลังซื้อที่สูงขึ้น, เซ็นทรัล บางนา ที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้า Top Tier ย่านบางนา, เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ กับ Concept Mall ใหม่ตอบโจทย์ Eco Art Lifestyle และ เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ Build New Lifestyle Landmark ยิ่งใหญ่ ครบครันที่สุดในย่านสำหรับเมื่องท่องเที่ยวใหญ่
klao
รวมไปถึงการเตรียมปรับโฉม เซ็นทรัล พัทยา เพื่อรองรับกำลังซื้อจากนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก และ เซ็นทรัล มารีน่า ที่จะปรับเป็น Outlet Format จากการมองเห็นโอกาสที่มาจากพฤติกรรมการช้อปของนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่ง และการเปิด เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ ที่มองเห็นการเติบโตของพื้นที่และไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้คน โดยจะมีการลงทุน Asset Enhancement ถึง 23,000 ล้านบาท
จับมือพันธมิตรเติบโตอย่างยั่งยืน
ไม่เพียงแต่การสร้างโครงการใหม่ ในด้านการเติบโตอย่างยั่งยืน เซ็นทรัลก็ยังมีกลยุทธ์ที่สำคัญทั้ง
- Evolving Centre of Life: ดูแลทุกโครงการเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าอยู่เสมอผ่าน Customer Insight ทั้งในประเทศและกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยมีศูนย์การค้าที่เป็น Tourist Mall กว่า 10 สาขา พร้อมมอบทุกความต้องการแบบ One-Stop Destination และมีการวางกลยุทธ์ทั้ง Whole Journey ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นทาง-ปลายทาง และยังเป็น Trendspotting Pioneer ที่แบรนด์ระดับโลกจะมาเปิด First Store
- Ignite Newness: ผลักดันจังหวัดที่มีศักยภาพให้เป็นเมืองท่องเที่ยว ร่วมกับพันธมิตรคู่ค้าและท้องถิ่น สร้างประสบการณ์แปลกใหม่ผ่านโครงการ Mix Use ทั้งการมีห้างเซ็นทรัลและโรงพยาบาล ต่อยอดการเป็นเมืองศิลปวัฒนธรรมระดับประเทศ และสร้างพื้นที่ Recreation space ตอบรับความเป็นเมืองแห่งมหาวิทยาลัย ยกระดับด้วย Digitalized Services และ Experience App เพื่อให้บริการต่างๆ ด้วย B2B2C Seamless Solution
- Holistic partnership & Data-Driven Solutions: ดึงจุดแข็งของ Ecosystem ช่วยปั้นธุรกิจคู่ค้าผ่าน The 1 BIZ พร้อมใช้งานสำหรับแบรนด์ทุกระดับ ช่วยแบรนด์ประหยัดต้นทุนและเวลาในการทำ CRM โดยใช้ Database จากฐานข้อมูล The 1 ช่วยให้แบรนด์สร้างโอกาสเติบโตอย่างก้าวกระโดด รักษาลูกค้า Loyalty ดึงดูดลูกค้าใหม่ และเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ โดยเซ็นทรัลจะช่วยคู่ค้าตัดสินใจเลือกเจาะตลาดได้ถูกต้องตามจุดแข็งของแบรนด์
โดยมีเป้าหมายในการสร้างและพัฒนาพื้นที่เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและชุมชน รวมถึงสิ่งแวดล้อมให้เติบโตควบคู่ไปกับการเดินหน้าทางเศรษฐกิจและขับเคลื่อนประเทศไทย ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการจ้างงานกว่า 120,000 คนทั่วประเทศ และทุกการขยายโครงการใหม่จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นหลายพันคนโดยเฉลี่ยมากกว่า 80% เป็นคนท้องถิ่นของเมืองนั้นๆ ด้านแผนงานความยั่งยืนยังคงเดินหน้าตามเป้าหมาย NET Zero 2050 ร่วมกับทุกฝ่ายใน The Ecosystem for Al