หากกล่าวถึงความเป็นมาของ FinTech คงอาจต้องนับย้อนกลับไป แต่หากเป็นเรื่องของ Digital Banking ต้องยกให้ TMB โดยเฉพาะการเปิดตัวแบรนด์ย่อยอย่าง ME ที่มีเป้าหมายในการเป็นตัวแทนด้าน Digital Banking และดูเหมือนว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี
ME เริ่มเข้าสู่ตลาด Digital Banking เมื่อ 6ปีที่ผ่านมาโดยเป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ซึ่งเป้าหมายของ Digital Banking คือการช่วยให้เจ้าของบัญชีสามารถทำธุรกรรมการเงินด้วยตนเองเพื่อผลตอบแทนที่มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการฝาก โอน เช็คยอดเงินและเช็คดอกเบี้ยสะสมได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่ต้องไปสาขาและไม่จำเป็นต้องมีสมุดบัญชี สามารถทำได้ด้วยตัวเองผ่านช่องทางออนไลน์หรือแอพพลิเคชั่น และบริการ Call Center ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ทำให้ MEสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและแปลงต้นทุนเหล่านั้นเป็นผลตอบแทนคืนเป็นดอกเบี้ยสูง ส่งผลให้ ME สามารถให้ดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไปถึง 4.5 เท่าหรือ 1.7% ต่อปี ในปีที่ผ่านมา ME โดยเปิดตัว ME BOT ระบบอัจฉริยะที่สามารถตอบคำถามเบื้องต้นได้แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชม. ผ่านช่องทาง Facebook Messenger และยังเป็นครั้งแรกของธนาคารไทยที่พัฒนา ME Application ปัจจุบันมียอดผู้ใช้งานกว่า 1.7 แสนราย
โดย นางสาวมิ่งขวัญ พัฒนวงศ์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารส่งเสริมการตลาดลูกค้าบุคคล TMB และ ME ชี้ว่าตลอดระยะเวลา 6 ปี ที่ผ่านมา แบรนด์ ME ได้เริ่มดำเนินการเป็น Digital Banking แห่งแรกของประเทศไทยด้วยการเปิดตัวบัญชีเงินฝากภายใต้คอนเซ็ปต์ “Self-Service Banking to Get More”ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้ารวมมากกว่า 300,000 บัญชี โดยในปี 2560 จำนวนลูกค้าใหม่ของ ME เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 21% และตลอด 6 ปีที่ผ่านมาเมื่อรวมแล้วมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 63% และจำนวนลูกค้า ME คิดเป็น 5% ของพอร์ตลูกค้ารายย่อยทั้งหมดของ TMB
ME ยังพบว่าลูกค้ากว่า 80% เป็นคนรุ่นใหม่ถึงวัยทำงาน ช่วงอายุตั้งแต่ 18-46 ปี แสดงให้เห็นว่าลูกค้าของ ME มีทั้งกลุ่ม Gen X, คนวัยทำงานและคนรุ่นใหม่ Gen Y และ Gen M ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่เปิดรับสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ พรัอมใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ต ชอบความคล่องตัว ต้องการบริหารเวลาด้วยตนเอง และไม่สะดวกไปทำธุรกรรมที่สาขา โดยสัดส่วนของลูกค้าในกรุงเทพและปริมณฑลอยู่ที่ 73% และต่างจังหวัด 27% โดยมีสัดส่วนยอดเงินฝากเฉลี่ยประมาณ 1.5 แสนบาทต่อบัญชี
สำหรับปี 2561 นี้ ME ตั้งเป้าเพิ่มลูกค้าใหม่ไม่น้อยกว่า 20% โดยจะยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ตามแนวทาง“Need-Based” และ “Simple & Easy” ตอบสนองความต้องการอย่างตรงจุด รวมไปถึงการนำเสนอดอกเบี้ยสูงแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ ผ่านความต้องการ 3 ด้านด้วยกัน
MORE Convenient ความสะดวกสบายในการใช้งานที่มากขึ้น MORE Safe ความปลอดภัยกับระบบบัญชีแบบปิดที่โอนไปยังบัญชีออมทรัพย์ที่เป็นชื่อเจ้าของบัญชีเท่านั้น และ MORE Services & Products การนำเสนอบริการและผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ โดยในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะให้บริการเรื่องของการปลดล็อคการโอนเงินแบบต่างธนาคารสามารถทำได้ฟรีแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง จากเดิมที่สามารถโอนฟรีต่างธนาคารได้ 2 ครั้งต่อเดือน
การฉลองครบรอบ 6 ปีของแบรนด์ ME เป็นการชี้ให้เห็นถึงการเติบโตของแบรนด์ที่แตกตัวออกมาจากแบรนด์ใหญ่อย่าง TMB ซึ่งที่ผ่านมาแบรนด์ TMB ยังติดภาพลักษณ์ธนาคารที่มีความเก่าแก่ ในขณะที่ ME ช่วยให้ภาพลักษณ์ดูเด็กลง การวางเป้าหมายในเรื่องของบัญชีเงินฝากให้มากขึ้นนั้น เป็นไปได้ว่าในอนาคต ME น่าจะสามารถสร้างบริการทางการเงินใหม่ๆ มาตอบสนองความต้องการกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็น First Jobber และอยากได้บริการแบบ Digital Lending
Copyright © MarketingOops.com
