“มาชิตะ” ย้ำภาพลักษณ์สาหร่ายคุณภาพพรีเมี่ยมเกาหลีแท้ 100% คว้า 5 หนุ่มจากบอยแบนด์เกาหลีสุดฮอต “NCT” จากค่ายบันเทิงยักษ์ใหญ่ เอสเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเมนท์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เจาะวัยรุ่น วัยทำงานตอนต้น คาดหวังกระตุ้นส่วนแบ่งตลาดทั้งปีเพิ่ม 3%
คุณธิติพร ธรรมาภิมุขกุล ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาด ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2560 บริษัทได้วางแผนการดำเนินธุรกิจ การทำตลาดผลิตภัณฑ์สแน็คสาหร่ายแบรนด์ “มาชิตะ” เพื่อสร้างการเติบโตให้กับผลิตภัณฑ์ และขยายฐานผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทได้ประเดิมจัดกิจกรรมใหญ่รับต้นปี สร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการตลาดสาหร่าย ด้วยการดึงศิลปินบอยแบนด์เกาหลีชื่อดังระดับเอเชีย “NCT” หรือ เอ็นซีที จากค่าย S.M. Entertainment (เอสเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเมนท์) มาเป็นพรีเซ็นเตอร์
ทั้งนี้ การคว้า “NCT” เนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นบอยแบนด์ดาวรุ่ง “อันดับ 1” ของค่ายเอสเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ซึ่งเป็นค่ายเดียวกับคยูฮยอน แห่งวง Super Junior พรีเซนเตอร์เกาหลีคนแรกของมาชิตะด้วย โดยพรีเซ็นเตอร์คนใหม่จะช่วยผลักดันสินค้าให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นมากขึ้น รวมถึงวัยทำงานตอนต้น อายุระหว่าง 12-25 ปี ที่สำคัญยังช่วยตอกย้ำแบรนด์มาชิตะให้แข็งแกร่งมากขึ้นในด้านการเป็นสาหร่ายแท้จากประเทศเกาหลี 100% และมีการผลิตด้วยเทคนิคเฉพาะโรงงานเกาหลีแท้ๆ เท่านั้น
สำหรับศิลปินทั้ง 5 คนที่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสาหร่ายมาชิตะครั้งนี้ นำโดยเตนล์(Ten) สมาชิกสัญชาติไทยคนแรกของค่าย, แทยง(Taeyong), แจฮยอน(Jaehyun), โดยอง(Doyoung) และมาร์ค(Mark)
“นอกจากนี้สาหร่ายมาชิตะยังเป็นสาหร่ายหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่การันตีความอร่อยระดับสากลด้วยรางวัล Superior Taste Award จากสถาบัน International Taste & Quality Institute (iTQi) สถาบันที่รับรองรสชาติของอาหารและเครื่องดื่มที่มีรสชาติดีเลิศ จากประเทศเบลเยี่ยม อีกทั้ง แบรนด์มาชิตะ เป็นแบรนด์สาหร่ายรายแรกของไทยที่มีการนำพรีเซ็นเตอร์เกาหลีมาใช้เป็นกลยุทธ์การทำตลาด เริ่มจากหนุ่ม “คยูฮยอน” ศิลปินจากค่ายเอสเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เป็นเวลา 5 ปี กลยุทธ์ดังกล่าวส่งผลให้แบรนด์ มาชิตะมีการเติบโตหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการรับรู้และจดจำแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น การสร้าง แบรนด์เอนเกจเมนท์กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ส่วนการเลือก 5 หนุ่มจาก “NCT” เนื่องจากเป็นบอยแบนด์ดาวรุ่งอันดับ 1 ของค่ายเอสเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ประกอบกับความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างมาชิตะกับค่าย ทำให้เกิดความร่วมมือกันอีกครั้ง”
ปัจจุบันมาชิตะมีผลิตภัณฑ์สาหร่ายประเภททอด 3 รสชาติ ได้แก่ รสออริจินัล รสสไปซี่ และรสสไปซี่บาร์บีคิวเกาหลี สาหร่ายอบสไตล์เกาหลี 2 รสชาติ ได้แก่ รสออริจินัล และรสสไปซี่ และสาหร่ายย่าง 2 รสชาติ ได้แก่ รสซอสเกาหลี และรสหมึกย่างเกาหลีสามรส พร้อมเตรียมออกรสชาติใหม่ ๆ เพื่อกระตุ้นตลาดและขยายฐานผู้บริโภคต่อเนื่อง
สำหรับเป้าหมายจากการทำตลาดครั้งนี้ บริษัทต้องการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดรวมสาหร่าย จาก 17% เป็น 20% ภายในปี 2560
ส่วนภาพรวมตลาดสาหร่ายในปี 2559 มีมูลค่าประมาณ 2,600 ล้านบาท แบ่งเป็นสาหร่ายทอดมูลค่า 1,820 ล้านบาท หรือสัดส่วนประมาณ 70% สาหร่ายอบ 442 ล้านบาท สัดส่วน 17% สาหร่ายย่าง 325 ล้านบาท สัดส่วน 12.5% และสาหร่ายเทมปุระ 13 ล้านบาท สัดส่วน 0.5%