คนไทยใช้สมาร์ทโฟนสื่อสารเป็นหลัก เพราะคนไทย 44 ล้านคนใช้สมาร์ทโฟนคิดเป็น 70% ของคนไทยทั้งหมด ใช้เวลาเล่นสมาร์ทโฟนเฉลี่ยตกอยู่ที่ 234 นาทีหรือเกือบ 4 ชั่วโมง และที่น่าตกใจคือกว่า 94% ของคนไทยทั้งหมดนั้นใช้ Line
ธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจร้านอาหารส่วนใหญ่กลับไม่ไปออนไลน์
เพราะถ้าดูกันจริงๆ อีคอมเมิร์ซในบ้านเรามีสัดส่วนทางการตลาดแค่ 3.8% ของธุรกิจค้าปลีกทั้งหมดและธุรกิจบริการสั่งซื้ออาหารออนไลน์มีส่วนแบ่งทางการตลาดแค่ 4.9% ของธุรกิจร้านอาหารทั้งหมด
LINE MAN ใช้โมเดลธุรกิจแบบ O2O พาธุรกิจไปออนไลน์ได้อย่างไร?
โมเดลธุรกิจแบบ O2O (Online to Offline) ที่ว่ามันก็คือการนำข้อดีด้านการติดต่อออนไลน์ที่รวดเร็ว ประหยัดเวลาและเงิน ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการเข้าถึงสินค้าและการเดินทาง แอปพลิเคชั่นที่ใช้โมเดลนี้มีกว่า 40 แอปฯไปแล้วในปี 2012 จากเริ่มต้นไม่ถึง 5 แอปฯ บริษัทอย่าง LINE เลยคอยสังเกตว่าแอปฯพวกนี้มีข้อบกพร่องอย่างไร ไม่ตอบโจทย์ตลาดอย่างไรบ้าง
จากนั้นจึงพัฒนา LINE MAN วางตำแหน่งตัวเองเป็นผู้ช่วยส่วนตัวในชีวิตประจำวัน ตอบโจทย์ใช้ง่ายเป็นมิตรกับคนใช้งาน แค่ใช้ LINE IDLog in ได้ทันที แถมมีพาร์ทเนอร์อย่าง Wongnai เว็บไซต์ค้นหาและรีวิวร้านอาหาร, Lalamove บริการด้านขนส่ง รวมถึง Alpha Fast และไปรษณีย์ไทย ทำให้ LINE MAN ให้บริการสั่งซื้ออาหาร สั่งสินค้าผ่านร้านสะดวกซื้อ รับส่งสินค้าและสิ่งของไม่ว่าจะเป็น เอกสารและพัสดุครอบคลุมตลอด 24 ชั่วโมง
เปิดตัวได้ปีเดียว มีคนใช้บริการถึง 500,000 คน!
ฐานผู้ใช้งาน LINE ที่เยอะ โอกาสที่ธุรกิจค้าปลีกและร้านอาหารที่ไม่ไปออนไลน์ และพาร์ทเนอร์ที่แข็มแข็ง จึงทำให้ ทำให้ LINE MAN ประสบความสำเร็จภายในปีเดียว
แหล่งที่มา
งาน LINE MAN ฉลองครบรอบ 1 ปี ตั้งเป้าเบอร์ 1 บริการผู้ช่วยในชีวิตประจำวันของคนไทย โชว์ 4 บริการสุดแกร่งครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร ที่เซ็นทรัลเวิลด์ วันอังคารที่ 7 มิถุนายน 2560