10 ข้อที่จะทำให้คุณรู้จัก LINE MAN มากขึ้นในฐานะ Local Innovation บริการเพื่อคนไทย

เปิดให้บริการในประเทศไทยมาแล้ว 2 ปี สำหรับ LINE MAN จากบริการที่ทีมงาน LINE ประเทศไทย วางแนวคิดและพัฒนาเพื่อให้บริการชาวไทย กับ 5 ประเภทบริการภายใต้ร่มของ LINE MAN คือ บริการสั่งอาหาร, บริการแมสเซนเจอร์, บริการซื้อของสะดวกซื้อ, บริการส่งพัสดุ และบริการเรียกรถแท็กซี่

แนวทางที่ผ่านมาเป็นอย่างไร และก้าวใหม่ในปีต่อๆ ไปของ LINE MAN จะเป็นอย่างไร เราสรุปมาให้ผ่านเรื่องราวและข้อมูลน่ารู้ 10 เรื่อง จากคำบอกเล่าของ คุณอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย…

“LINE MAN ถือเป็นบริการลูกรัก ซึ่งเกิดขึ้นจากไอเดียของทีม LINE ประเทศไทย ถือเป็น Local Innovation เพื่อลูกค้าชาวไทย และกลายเป็นหนึ่งในบริการของ LINE ไทยที่มีการเติบโตสูงมาก”

ผู้ใช้ล้านคนต่อเดือน

เชื่อหรือไม่ว่าในระยะ 2 ปีที่ LINE MAN เปิดให้บริการในประเทศไทยนี้ มีผู้ใช้งานอยู่ที่ 1 ล้านคนต่อเดือน และมีทรานแซกชั่นเติบโตขึ้นถึง 489% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

เป็นแพลทฟอร์มเพื่อความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน

ภาพลักษณ์ที่ LINE MAN ตั้งเป้าในการให้บริการก็คือ การเป็นแพลทฟอร์มอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของคนไทยผ่าน 5 บริการที่นำเสนอ ซึ่งจากกระแสตอบรับที่เกินความคาดหวังนี้ทำให้ LINE ประเทศไทยถึงกับบอกว่า LINE MAN คือ Local Success บริการหนึ่งไม่แพ้แอป LINE หรือ LINE TV ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในไทยเช่นกัน

โดยสถิติที่ LINE MAN ใช้ยืนยันประกอบความสำเร็จในการให้บริการ ได้แก่…

บริการแมสเซนเจอร์ : ที่มีระยะทางรับ-ส่งสิ่งของมากถึง 14 ล้านกิโลเมตร หรือเท่ากับเดินทางไปกลับดวงจันทร์ 18 รอบ

บริการส่งพัสดุ : ที่ช่วยประหยัดเวลาเดินทางของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ได้ถึง 300,000 ชั่วโมง

บริการสั่งอาหาร : ที่สามารถเพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการร้านอาหารได้นับ 100 เท่า (ยกตัวอย่างร้านเกี๊ยวซ่าชื่อดัง Kinza Gyoza ที่มีผู้สั่งซื้อแล้วกว่า 2 ล้านชิ้น เพิ่มรายได้กว่า 100 เท่าตัว)

ผนึกกำลังกับ 5 พาร์ทเนอร์

ขณะนี้ LINE MAN มีพาร์ทเนอร์รวม 5 ราย เพื่อให้บริการประเภทต่างๆ ได้แก่ LALAMOVE, Wongnai, alpha,ninja และสหกรณ์แท็กซี่สยาม

เบอร์ 1 ธุรกิจ Food Delivery

แม้ในปัจจุบันจะมีผู้ให้บริการสั่งและส่งอาหารหลายราย แต่ LINE MAN ยืนยันว่าขณะนี้บริการดังกล่าวกลายเป็นผู้นำในกลุ่ม Food Delivery ด้วยจำนวนร้านอาหารกว่า 40,000 ร้าน มีจำนวนมากกว่าคู่แข่งถึง 10 เท่าตัว

“วันนี้ LINE MAN คือเบอร์ 1 ในตลาด Food Delivery เราทำให้ผู้คนไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปร้านด้วยตัวเอง ไม่ต้องเจอปัญหารถติด และยังมีจำนวนร้านอาหารมากมาย พร้อมกับช่วยให้ธุรกิจร้านอาหารเติบโตขึ้นจากเดิม แม้ตลาดดังกล่าวจะมีมานานแล้วแต่ตลาดก็ไม่เปลี่ยนแปลง ผู้ให้บริการรายอื่นอาจเน้นที่ร้านอาหารพรีเมี่ยมซึ่งไม่ใช่ร้านที่คนทั่วไปต้องการบริโภคในแต่ละวัน แต่ LINE MAN รวมร้านดังบนโซเชียลมีเดีย ร้านพรีเมี่ยม หรือแม้แต่ร้านสตรีทฟู้ด เราก็มีให้บริการเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวัน”

เสิร์ฟบริการเรียกรถแท็กซี่ถูกกฎหมาย แก้ Pain Point โดนปฏิเสธ!

บริการLINE TAXI ที่ LINE MAN ร่วมมือกับสหกรณ์แท็กซี่สยาม ซึ่งมีแท็กซี่ในระบบกว่า 60,000 คัน จากจำนวนแท็กซี่ทั้งหมด 90,000 คันในกรุงเทพฯ ทำให้ LINE MAN มั่นใจว่ามีรถแท็กซี่แบบถูกกฎหมาย 100% พร้อมให้บริการอยู่ทั่วกรุงเทพฯ ขณะที่รถมอเตอร์ไซค์ที่ให้บริการประเภทอื่นนั้น LINE MAN มี LALAMOVE เป็นพาร์ทเนอร์ โดยระบุว่ามีจำนวนกว่า 5,000 คัน พร้อมให้บริการ

“ปัจจุบันมีผู้ให้บริการเรียกรถแท็กซี่ 6 แอป แต่เราเชื่อว่าผู้บริโภคยังต้องเผชิญปัญหาเช่นเดียว ทั้งการถูกปฏิเสธ ไม่มีรถในช่วงเวลาเร่งด่วน หรือเวลาฝนตก ทำให้เราพัฒนาบริการ LINE TAXI ซึ่งเพิ่งเริ่มให้บริการไม่นานก็มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและได้ผลตอบรับที่ดีจากผู้ใช้บริการ”

คนนิยมเรียก LINE TAXI จาก “สยามพารากอน”

เป็นเรื่องน่าแปลกใจเมื่อข้อมูลที่ถูกเปิดเผยจาก LINE MAN ระบุว่า พิกัดที่ลูกค้านิยมเรียกใช้บริการ LINE TAXI คือ สยามพารากอน ซึ่งเป็นทำเลใจกลางเมืองที่มี BTS ช่วยเชื่อมต่อการเดินทางอยู่แล้ว จึงสามารถสะท้อนได้ถึงความต้องการใช้งานการแท็กซี่เพื่ออำนวยความสะดวก และความต้องการตัวเลือกในการเดินทาง รวมถึงปัญหาการไม่มีรถแท็กซี่รองรับบริการได้เพียงพอกับความต้องการ

บริการแมสเซนเจอร์และบริการส่งพัสดุ ฮีโร่พ่อค้าแม่ขายออนไลน์

ด้วยจุดเด่นของทั้ง 2 บริการ ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ค้าออนไลน์ได้เป็นอย่างมาก รับเทรนด์การซื้อขายสินค้าผ่านโซเชียลและออนไลน์ในไทยที่เติบโตขึ้นอย่างมาก เนื่องจาก LINE MAN ให้บริการแบบDoor-to-door Pick up, ช่วยให้ประหยัดต้นทุนการจัดส่งสินค้าด้วยตนเอง และมีแจ้งเตือนสถานะผ่าน LINE ทำให้บริการแมสเซนเจอร์ ซึ่งเป็นการส่งสิ่งของแบบเร่งด่วนภายในวันเดียวมีอัตราการเติบโต 7 เท่าตัวต่อปี ขณะที่บริการส่งพัสดุ ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงนั้น สามารถตอบโจทย์และประหยัดเวลาพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ผลสำรวจของ PWC ระบุว่ามูลค่าตลาด e-Commerce อยู่ที่ 3,100 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยการซื้อขายสินค้าผ่าน Social Commerce มีสัดส่วนถึง 51% ของตลาด e-Commerce ซึ่งคิดเป็นมูลค่าราว 1,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่การซื้อขายบน Market Place นั้นมีสัดส่วนที่ 49% คิดเป็นมูลค่าราว 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐ

น้ำแข็ง-โซดา สินค้ายอดฮิตของบริการซื้อของสะดวกซื้อ

ต้องยอมรับว่าบริการซื้อของสะดวกซื้อ หรือ Convenience Goods ของ LINE MAN นั้น ปัจจุบันยังเป็นบริการซื้อและส่งของจาก 7-ELEVEN เท่านั้น โดยสินค้าที่คนไทยนิยมสั่งซื้อมากที่สุด คือ น้ำแข็งและโซดา ซึ่งออเดอร์ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืน

ทั้ง 5 บริการยังไม่สร้างรายได้!

แม้จะมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดีและเปิดให้บริการมานาน 2 ปีแล้ว แต่ในส่วนของการสร้างรายได้นั้น คุณอริยะ ชี้แจงว่า “ทุกบริการยังอยู่ในโหมดการลงทุน ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาถือว่าลงทุนไปไม่น้อยกับ LINE MAN คาดว่าภายใน 2-3 ปีนี้จะเริ่มรับรู้รายได้กลับมา”

ก้าวต่อไปของ LINE MAN

“LINE MAN เป็นแพลทฟอร์ม O2O ที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการ SME และผู้บริโภคเข้าด้วยกัน ผ่านการส่งต่อไปยังลูกค้า LINE 42 ล้านคนในประเทศไทยเรียกว่าเป็นผู้ช่วยในชีวิตประจำวันของคนไทยที่เชื่อมบริการจากออนไลน์สู่ออฟไลน์ เราพยายามรักษาอัตราการเติบโตเกือบ 500% ต่อไป ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างศึกษาการขยายบริการในต่างจังหวัด เพิ่มเติมการให้บริการในปัจจุบันที่ตลาดหลักอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งต้องยอมรับว่าลูกค้าหลักของหลายๆ บริการนั้นอยู่ในกรุงเทพฯ แต่เชื่อว่าอนาคตจะมีการขยายพื้นที่ให้บริการอย่างแน่นอน”