วิเคราะห์แนวคิด LINE MAN ประกาศจุดยืน “ถูกสุดทุกวัน” ทุ่มงบ 300 ล้านทำตลาดช่วง Festive แบบเล่นใหญ่สุดในรอบ 3 ปี

  • 45
  •  
  •  
  •  
  •  

ตลาด Food Delivery ไทยมูลค่า 120,000 ล้านบาทซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 15% ของตลาดอาหารในประเทศไทยยังคงแข่งขันกันอย่างดุเดือด ที่ผ่านมาเราได้เห็น Grab และ LINE MAN แย่งชิงตำแหน่งเจ้าตลาดกันอย่างเข้มข้นสูสี นอกจากนี้เรากำลังจะได้เห็นแบรนด์เก่าอย่าง Robinhood ที่จะกลับมาในมือผู้เล่นใหม่อย่าง ยิปอินซอย ด้วย

ล่าสุด LINE MAN Wongnai ออกมาสร้างความสั่นสะเทือนให้กับตลาด Food Delivery ในช่วงปลายปีนี้ด้วย Mega Campaign ทุ่มงบประมาณการตลาดถึง 300 ล้านบาทประกาศจุดยืน “ถูกสุดทุกวัน”​ ยืนยันว่า LINE MAN เป็นแอปเดลิเวอรี่ที่ถูกที่สุดด้วยส่วนลดหลายต่อสื่อสารสู่ตลาด Mass ด้วยคำว่าถูกจริงแบบไม่ต้อง Subscribe โมเดลที่คูแข่งในตลาด food delivery ใช้เพื่อมอบส่วนลดสุดคุ้มเพิ่มเติมให้กับลูกค้า

ตลาด Food Delivery เติบโตพร้อมจับโอกาส Festive ปลายปี

คุณยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai ระบุว่า แม้สภาพเศรษฐกิจปัจจุบันทำให้คนระมัดระวังการใช้จ่ายแต่ตลาด food delivery ยังคงเติบโตมากกว่าที่คาดโดยปีนี้คาดว่าจะเติบโตถึงเกือบ 10% อย่างไรก็ตาม สำหรับ LINE MAN แล้วคาดว่าจะเติบโตมากกว่าค่าเฉลี่ยโดยในช่วงไตรมาสที่ 4 นี้คาดว่าจะโตถึง 25% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

เหุตผลเพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองที่ผู้คนพร้อมจับจ่ายใช้สอย สั่งอาหาร เลี้ยงฉลองและพักผ่อนอยู่บ้าน ซึ่งส่งผลดีต่อตลาด Food Delivery โดยเฉพาะ LINE MAN เองที่นอกจากจะโดดเด่นในฐานะผู้นำตลาดเพราะอัตราการเติบโตสูง โตขึ้น 50% จากเมื่อ 2 ปีก่อน มี Active User มากถึง 10 ล้านคนต่อเดือน มีจำนวนร้านค้าเข้าร่วมมากที่สุดถึงเกือบ 700,000 ร้านค้า พื้นที่ให้บริการครอบคลุม 77 จังหวัด 328 อำเภอทั่วประเทศไทยแล้วยังมีแคมเปญอย่าง “ถูกสุดทุกวัน” ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคด้วย

“แคมเปญนี้ทาง LINE MAN ถือว่าเป็นแคมเปญที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 3 ปี ครอบคลุมตลอด 3 เดือนตั้งแต่ ตุลาคม ไปจนถึง ธันวาคม ซึ่งได้มีการวางงบแคมเปญไว้ขั้นต่ำที่ 300 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นการมอบส่วนลด 60%, โค้ดส่วนลด 100 บาท รวมถึงคูปองส่งฟรี โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นตลาดช่วงไตรมาส 4 ที่เป็นไฮซีซั่น ที่ผู้คนมีการเฉลิมฉลองสั่งอาหารกันมากขึ้นโดยหวังว่าจะช่วยให้เราโตขึ้นมากกว่า 25%” คุณยอดระบุ

ไม่ใช่แค่ Marketing Campaign แต่คือ Brand Positioning

การแข่งขันของธุรกิจ food delivery ปัจจุบันหลายๆแบรนด์เริ่มเข้าสู่กลยุทธ์บริการ Subscripton เก็บค่าบริการรายเดือนเพื่อให้ผู้บริโภคที่ระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ได้รับความคุ้มค่าและส่วนลดค่าบริการ อย่างเช่น GrabUnlimited หรือ pandaPRO ของ foodpanda เป็นต้น

แต่สำหรับ LINE MAN นำจุดนี้มาสื่อสารถึงผู้บริโภคที่บางครั้งอาจไม่อยากต้องเสียค่าบริการรายเดือนได้ได้เห็นจุดเด่นของ LINE MAN ที่เด่นในเรื่องของส่วนลดและคูปองต่างๆอยู่แล้ว ตอกย้ำด้วย Tag Line “ถูกสุดทุกวัน” ตอกย้ำจุดยืนของการมอบความคุ้มค่าสูงสุดให้กับผู้ใช้งานด้วยส่วนลด 3 ต่อ (Stackable Discount) ในออร์เดอร์เดียว ไม่ว่าจะเป็น

  • ส่งฟรี 0 บาท: ฟรีค่าส่งในทุกการจัดส่ง*
  • โปรเดือด: ส่วนลดค่าอาหารหลากหลายรูปแบบ* ไม่ว่าจะเป็น ซื้อ 1 แถม 1, Flash Deal หรือส่วนลดค่าอาหารสูงสุด 60% โดยสังเกตร้านที่เข้าร่วมได้จากสัญลักษณ์ ‘โปรเดือดทุกมื้อเด็ด’ ที่หน้าร้านค้า
  • ลดหลายต่อ: สามารถใช้ส่วนลดต่างๆ ได้พร้อมกันใน 1 ออร์เดอร์*
  • ต่อที่ 1: โปรโมชันราคาอาหารลดสูงสุด 60%* โดยสังเกตร้านที่เข้าร่วมได้จากสัญลักษณ์ ‘โปรเดือดทุกมื้อเด็ด’ ที่หน้าร้านค้า
  • ต่อที่ 2: เก็บคูปองส่วนลดค่าอาหารสูงสุด 100 บาท ที่หน้า ‘เก็บโค้ดลดเพิ่ม’ เพื่อใช้เป็นส่วนลด* เมื่อสั่งขั้นต่ำครบตามที่กำหนด โดยสังเกตร้านที่เข้าร่วมได้จากสัญลักษณ์ ‘เก็บโค้ดลดเพิ่ม’ ที่หน้าร้านค้า
  • ต่อที่ 3: ส่วนลดค่าส่งสูงสุด 20 บาท* เมื่อซื้อครบ 150 บาทขึ้นไป ในระยะ 5 กิโลเมตร และ 10 กิโลเมตรในพื้นที่ตามที่กำหนด โดยสังเกตร้านที่เข้าร่วมได้จากสัญลักษณ์ ‘ส่งฟรี ร้านคุ้ม’ จำนวนกว่า 130,000 ร้าน หรือค่าส่งฟรี 0 บาท*

Mascot Marketing สร้างภาพจำให้แบรนด์

การใช้ Mascot เป็นพรีเซนเตอร์ กำลังเป็นที่นิยมในการทำการตลาด ก่อนหน้านี้เราได้เห็นน้องกล้วยกรุงศรี ของธนาคารกรุงศรีสร้างปรากฏการณ์ไวรัลในโลกออนไลน์จากการเต้นมาแล้ว และไม่นานมานี้เราได้เห็น “หมีเนย” จากแบรนด์ Butter Bear โด่งดังจนกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก แน่นอนว่า LINE MAN ก็ใช้กลยุทธ์นี้เช่นกันโดยเลือก “น้อง Moon” ที่คนคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วให้ออกมาโลดแล่นในโลกแห่งความจริงกันด้วย ในแคมเปญครั้งนี้ก็ถูกนำมาใช้เป็นตัวแทนในการสื่อสาร และสร้างภาพจำให้กับแบรนด์ด้วยอีกทาง

Mascot Marketing มีข้อดีสำหรับ LINE MAN หลากหลายรูปแบบด้วยเช่นกันไม่ว่าจะเป็นการสร้างการจดจำแบรนด์ สามารถสร้างความแตกต่าง ช่วยให้แบรนด์โดดเด่น และแตกต่างจากคู่แข่ง มีความเข้าถึงง่าย เพราะ Mascot มักมีบุคลิกที่เป็นมิตร เข้าถึงง่าย ทำให้ผู้บริโภครู้สึกใกล้ชิดกับแบรนด์ได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้าง Emotional Connection เพราะ Mascot สามารถสร้างความรู้สึก หรืออารมณ์เชิงบวก ให้กับผู้บริโภคได้

ดังนั้นการที่ LINE MAN เลือกใช้น้อง “Moon” เป็นพรีเซนเตอร์ จึงเป็นกลยุทธ์ดีในการสร้างภาพจำ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะในยุคที่ Mascot Marketing กำลังได้รับความนิยม

ดึงพลัง Star Power เสริมทัพความแข็งแกร่ง

LINE MAN ไม่เพียงแค่ใช้ Mascot “น้อง Moon” เป็นพรีเซนเตอร์ แต่ยังดึงพลัง Star Power จาก 3 ดาราชื่อดัง “ออฟโรด – กองทัพ พีค – มิ้นท์ รัญชน์รวี” มาร่วมสร้างสีสันและขยายฐานลูกค้าในแคมเปญ “ถูกสุดทุกวัน” ด้วยเพื่อเข้าถึงกลุ่มฐานแฟนคลับคนรุ่นใหม่และเข้าถึงคนในวงกว้างมากยิ่งขึ้นด้วย

สำหรับ ออฟโรด หรือ กันตภณ จินดามณี นับเป็นศิลปินที่มีแฟนคลับมากมายโดยเฉพาะผลงานซีรีส์เรื่องล่าสุดอย่าง “Century of Love ปาฏิหาริย์รักร้อยปี” ที่แม้จะจบไปแล้วแต่กระแสความฮอตของคู่จิ้นตัวท็อปอย่าง “ออฟโรด-ต้าห์อู๋ พิทยา” ยังคงทำให้ด้อมใหญ่โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าหนุ่มออฟโรด จะไปโชวตัวที่ไหนก็มีแฟนคลับตามไปเชียร์ขจำนวนมาก ในส่วนของ “กองทัพ พีค” เองก็เป็นนักแสดงหนุ่มที่มีผลงานละครมาแล้วหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องล่าสุดแสดงนำในซีรีส์ชุด ”ดวงใจเทวพรหม” รวมไปถึง สาวสวยอย่าง “มิ้นท์ รัญชน์รวี” เป็นนักแสดงสาว ที่ฝากผลงานละครไว้มากมายเช่นกันโดยเฉพาะใน “ดุจอัปสร” หนึ่งตอนใน ซีรีส์ชุด ดวงใจเทวพรหม

การเลือกดารา 3 คน ที่มีบุคลิก และฐานแฟนคลับที่หลากหลาย ช่วยให้ LINE MAN เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น ทั้งกลุ่มวัยรุ่น และกลุ่มผู้ชมทั่วไปนั่นเอง

ก้าวนี้นับเป็นอีกก้าวของ LINE MAN ในการส่งแคมเปญสร้างยอดขายในช่วงปลายปีนี้ที่ตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้สูงถึง 25% นับเป็นยาวก้าวที่ทำให้เห็นว่าตลาด food delivery ในประเทศไทยยังคงมีแนวโต้มเติบโต และการแข่งขันกันยังเป็นไปอย่างดุเดือดโดยเฉพาะการแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดเพื่อครองอันดับ 1 ในประเทศไทย


  • 45
  •  
  •  
  •  
  •